ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปแปลโดย Kradiz
ปังงงงงง
[ดาบเจ็ดดารา] พุ่งเข้าปะทะกำแพงเมืองอย่างรุนแรง สร้างดาเมจอย่างมาก นอกจากนี้ยังส่งผลให้ดำแพงเกิดรอยแยกขึ้นด้วย ทักษะนี้มันดีจริงๆ มันสามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างของเหล่า NPC ได้ด้วย ปกติแล้วทักษะนี้ผมไม่ค่อยใช้เท่าไหร่ แต่ในสงครามแบบนี้ มันกลับเป็นทักษะที่มีประโยชน์จริงๆ
เลือดของผมลดลงอย่างรวดเร็วจากลูกธนูอันแสนโหดร้ายเหล่านั้น ลูกธนูนับไม่ถ้วนปักลงบนเกราะเนบิวล่าของผม เลือดลดไปเป็นพันในเวลาแค่พริบตาเดียว
‘เป็ดที่รัก’และหมอคนอื่นๆ นั้น ยังอยู่ด้านหลัง และยังมาไม่ถึงกำแพงเมือง ตอนนี้ผมคงต้องพึ่งตัวเองแล้ว
ผมสะบัดดาบออกด้วยทักษะ [ดาบสายลม] สร้างดาเมจมหาศาลลอยออกมาจากหน้าอกของ NPC นักธนู เพราะมันคือการโจมตีติดเฟทอล!! แถมผมยังดูดเลือดมาอีกถึง 10%
10993!
+1099!
ผลในการดูดเลือดอีก 10% นี่มันสุดยอดจริงๆ ผมฮิลตัวเองพร้อมกับกินยาฟื้นเลือดระดับแปดอีกขวด ก็ทำให้เลือดกลับมาเต็มดั่งเดิม[โล่แห่งมังกรสีชาด] เริ่มจะสั่นไหวอย่างรุน นักธนูทั้ง 40 เบื้องหน้าของผมต้องถูกฆ่าโดยเร็วที่สุด ไม่อย่างนั้น ผมไม่สามารถทนรับการโจมตีได้นานแน่
“กรรรกรรรร”
พยัคฆ์ทมิฬสีทองปรากฏขึ้นด้านข้างของผม มันพุ่งเข้าไปด้วยทักษะ [เพลิงเทวะทลายทัพ] ส่งผลให้ร่างของนักธนู ต่างถูกชะโลมด้วยเปลวเพลิง สมกับที่มันเป็นราชาของอสูรจริงๆ หลังจากนั้น มันแหงนหน้าขึ้นปลดปล่อยทักษะ [พยัคฆ์คำราม]สร้างดาเมจอย่างรุนแรงไปทั่ว พร้อมกับร่างของมันปรากฏเกราะเพลิงขึ้นมาปกป้องร่างของตนเอง
ทันใดนั้นด้านข้างของผม ก็ปรากฏร่างอันงดงามของเย่วชิงเชียนขึ้น ขาสวยคู่งามที่ถูกห่อหุ้มด้วยรองเท้าบู๊ทเข้ากัน ร่อนลงบนกำแพงอย่างแผ่วเบา ร่างของเธอถูกปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิง รูปลักษณ์จิ้งจอกเพลิงปรากฏขึ้นบนหัวของเธอ ในจังหวะต่อมาเธอก็แบมือออก เวทมนต์เริ่มก่อรูปร่างเป็นกงเล็บของจิ้งจอกเพลิงขนาดใหญ่ และเริ่มพุ่งเข้าจู่โจมนักธนูที่อยู่เบื้องหน้า
เปรี้ยงงงงง
ด้วยการโจมตีในระยะ 20 หลาเบื้องหน้า นักธนูที่อยู่ในระยะจู่โจมของทักษะ [เงื้อมมือจิ้งจอกเพลิง] ทุกตัวต่างโดยดาเมจไปราวๆ 3500 เป็นพลังโจมตีที่สูงจริงๆ สำหรับนักฆ่า เย่วชิงเชียนคือนักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งเมืองป้าฮวงอย่างไม่ต้องสงสัย และ’ว่านเอ๋อ’จากเมืองฟ่านชู คงเป็นคนเดียวที่แข็งแกร่งกว่า’เย่วชิงเชียน’
……
เมื่อคูลดาวผมเสร็จ ผมก็จัดการใช้ทักษะ [ดาบเจ็ดดารา] อีกครั้ง และเริ่มใช้ทักษะจากคัมภีร์ม่อจือ[ทหารวิญญาณ] และ [พิภพเต่าดำ] เข้าใส่ฝูงของมอนสเตอร์ ด้วยการลงมือเพียงไม่กี่ครั้ง พวกเราก็สามารถควบคุมสถานการณ์บนกำแพงเมืองไว้ได้
‘หลู่มู่’ ‘หวางเจี้ยน’ ‘หรั่นหมิน’ ‘ซงฮาน’ และคนอื่นๆ พุ่งทะยานขึ้นมาบนกำแพงเมืองพร้อมกับฟาดฟันอาวุธของพวกเขาเข้าใส่ฝูงม่อน ต่อมา’เป็ดที่รัก’ก็นำหมอคนอื่นๆ ขึ้นกำแพงมา ตอนนี้กองกำลัง Zhan Long ของเราเกาะกลุ่มกันอยู่บนกำแพงเมืองอย่างเหนียวแน่น
ผมสั่งการให้’หวางเจี้ยน’ ‘หลี่มู่’ และคนอื่นๆ เก็บกวาดนักธนูรอบๆ ให้หมด ส่วนผมนั้นก็ยืนบนกำแพงกลางตรวจสอบดูสิ่งต่างๆ ภายในเมือง ไม่มีอาคารหรือตึกสูงสักนิด ไม่เหมือนกับที่เราคิดไว้เลยแหะ
ภายในเมืองโบราณนั้นมีเพียงแค่หายนะและสิ่งปลูกสร้างที่พังทลาย ที่ตรงกลางเมืองคือแท่นบูชา ล้อมรอบไปด้วยเสาหินมากมาย ที่กึ่งกลางของแท่นบูชา คือนักรบในชุดเกราะสีดำทมิฬยืนนิ่งอยู่ เขาเงยหน้ามองไปยังท้องฟ้า ท่าทางเย็นชาไม่แยแสต่อสิ่งใด สิ่งเดียวที่เห็นในระยะขนาดนี้คือชื่อของเขา
【ผู้ทำลายความหวัง – หลี่จิ้ง】(บอสระดับวาลคิรี่)
Level: 75
Attack: ? ? ?
Defense: ? ? ?
Health: ? ? ?
Skills: ? ? ?
ประวัติ: หลี่จิ้งคือหัวหน้าแม่ทัพแห่งอาณาจักรแห่งแสงโบราณ มีกองทัพนับล้านของอาณาจักรอยู่ในการควบคุม ได้ชัยทุกศึกสงคราม สยบดินแดนสามถึงสี่แห่ง อำนาจของเขานั้นเรื่องลือจนผู้คนต่างตั้งฉายาให้ว่า “เทพแห่งสงคราม” อย่างไรก็ตามภัยพิบัดได้คลืบคลานเข้ามายังดินแดนแห่งนั้น โรคระบาดได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็วก่อเกิดผู้คนล้มตายกันอย่างมากมาย อาณาจักรแห่งแสงย่อยยับในพริบตา ผู้คนล้มตายกันเป็นว่าเล่น เหล่าแม่ทัพของเขาต่างนำกองกำลังสุดท้ายออกคนหาที่อยู่แห่งให่มเพื่อจะมีชีวิตรอด แต่ก็ไม่มีการตอบกลับ เขาทำได้เพียงปกป้องดินแดนของเขาและรอความตายเท่านั้น ความสิ้นหวังค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความเกรียดชัง เขาขายวิญญาณให้กับความมืดเพื่อแลกกับการทำให้เมืองหลวงปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งนั้นก็คือ [เมืองโบราณ] แห่งนี้นั่นเอง
……
“โอ้!! พระพุทธรูป!!! ลาสบอสคือบอสระดับวาลคิรี่เลเวล 75 เลยเหรอ…..”
ปากของผมกระตุกขึ้น
“ผู้ทำลายความหวังตัวนี้ย่อมต้องเป็นบอสตัวสุดท้ายแน่นอน อย่างที่คิด ระดับวาลคิรี่จริงๆ……”
‘มัทฉะ’หัวเราะคิกคัก
“บอส! ดูเหมือนว่าระรอกที่สิบนี้จะไม่มีมอนสเตอร์นะ มีเพียงแค่หลี่ชิงที่ปกป้องเมืองเท่านั้น เอาไงต่อดี? พวกเราจะลงไปเจอเค้าหน่อยมั้ย?”
ตอนนี้ Zhan Long มีคนอยู่ราวๆ 300 คน ถ้าพวกเราร่วมมือกัน น่าจะมีโอกาศฆ่าบอสระดับวาลคิรี่เลเวล 75 ได้อยู่
“ตรวจสอบก่อน บอสตัวนี้มีเลือดประมาณเท่าไหร่? ”
“ฉันคิดว่าน่าจะราวๆ 1 ล้านนะ…พลังโจมตีน่าจะอยู่ราวๆ 12000 แล้วพลังป้องกันของคุณมีเท่าไหร่หละ? พอจะกันดาเมจ 12000 ไหวมั้ย?”
ผมเหลือบมองไปยังค่าสถานะของตนเองก่อนจะตอบกลับ
“พลังป้องกันพื้นฐาน 2400 และเครื่องป้องกันบวกเพิ่มอีก 14% และไม่ได้รับพลังโจมตีอีก 7% และบัพอื่นๆ อีก 14% รวมๆ แล้วก็ราวๆ 35% ดังนั้นพลังป้องกันจริงๆ ของชั้นคงอยู่ราวๆ 3240…”
‘มัทฉะ’อดที่จะปากเหวอไม่ได้ก่อนจะหัวเราะออกมา
“นี่…..พลังป้องกัน 3240 โดยดาเมจระดับ 12000 เข้าไปคงจะเจ็บน่าดู คงโดนดาเมจจากการฟันธรรมดาราวๆ 3000 แน่ๆ เพราะงั้นหากโดยทักษะเข้าไปหละก็คงดับโดยไม่ตอบสืบแน่ๆ ยังจะสู้มั้ยหละ?”
“สู้สิ พวกเราต้องสู้!!”
ผมกำหมัดแน่นก่อนจะกล่าวออกมา
“ทั้งสามเมืองหลักของเซิฟเวอร์จีนต่างมีกิลด์เก่งๆ มากมายทั้ง [Legend], [Hero Mound], [Vanguard], และ [Prague]พวกเขามีการสนับสนุนทางการเงินที่ดี แต่พวกเรา Zhan Long แต่พวกเราไม่มีเหมือนเขา เพราะงั้นพวกเราต้องได้ตราการค้าของพระเจ้านั่นมาให้ได้”
‘มัทฉะ’พยักหน้า
“โอเคงั้นเราจะโจมตียังไงดี?”
“ให้คนอื่นโจมตีก่อน พวกเรามีคนน้อยเกินไป พวกเราต้องอดทน เพื่อรอโอกาสจู่โจม! สิ่งสำคัญที่ควรจะคิดตอนนี้ก็คือ…….ตราการค้าแห่งพระเจ้านั้นอยู่กับบอสตัวนี้จริงเหรอ?”
“น่าจะนะ….”
‘เย่วชิงเชียน’ชี้ไปยังไหล่ของบอส
“นั่น ตรงนั้น สัญลักษณ์สีทองตรงนั้น ถ้าฉันไม่ผิดพลาด นั่นต้องเป็นตราการค้าแห่งพระเจ้าแน่นอน นั่นเป็นข้อพิสูจน์ว่ามันอยู่กับบอสจริงๆ”
ผมครุ่นคิดสักพักก่อนจะกล่าวออกมา
“ดูสถานการณ์ไปก่อน และค่อยคุยกันหลังจากพวกเราจัดการ NPC นักธนูพวกนี้หมดก่อน”
“โอเค!!”
……
ไม่นานหลังจากนั้น กองทัพ NPC ก็บุกฝ่าเข้าไปเรื่อยๆ ได้อย่างง่ายดาย หอคอยบนกำแพงเมืองพังทลายลง ทันใดนั้นชายคนหนึ่งก็พุ่งขึ้นมาบนกำแพงเมือง เขาสามารถสร้างรูขนาดสิบเมตรขึ้นบนกำแพงเมืองได้ด้วยการเหวี่ยงขวานเพียงครั้งเดียว ทันใดนั้นเขาก็คำรามขึ้นด้วยความโกรธ
“หลี่จิ้ง!! เจ้ามันก็แค่วิญญาณร้ายที่ตายไปนับล้านปีแล้ว เจ้ายังมีหน้านำพวกขยะจาก [เมืองโบราณ] ขึ้นมาสร้างความวุ่นวายให้เมืองป้าฮวงอีกเหรอ!!!!!”
‘หลี่จิ้ง’เงยหน้าขึ้นพร้อมกับเผยยิ้ม
“เจ้าหนุ่มจากชนรุ่นหลังเอ๋ย เจ้าคิดว่าพวกที่เจ้าพามาด้วยจะสามารถทำอะไร [เมืองโบราณ] ของข้าได้รึ? ฮ่าๆๆ วันนี้ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้หมด แล้วนำโลหิตของพวกเจ้ามาบูชาต่อความตาย!!! อีก 12 ชั่วโมง ข้าจะสามารถใช้พลังของจิตวิญญาณเจ้าได้เพื่ออัญเชิญทหารแห่งความตายเพื่อออกมาสยบเมืองป้าฮวงแห่งนี้!!! ที่แห่งนี้ มันต้องเป็นของข้า หลี่จิ้ง ผู้ปกครองแห่งเมืองโบราณคนนี้!!!”
“ไร้สาระ!!!”
นักรบผู้ห้าวหาญตระโกนกลับด้วยพลังอันดุดัน
“บุกเข้าไป!!!! ฆ่าหลีจิ้ง นำหัวของมันมาแขวนไว้ที่ประตูเมืองของเมืองป้าฮวงของเรา!!! ใช้คำสาปจากบาทหลวงกักขังดวงวิญญาณของมันซะ ฆ่าพวกมันให้หมด!!! ให้พวกมันได้รับรู้ถึงรสชาติของความสิ้นหวัง!!!”
ในที่สุดทุกคนก็สามารถเห็นชื่อของ NPC ในขณะที่เขาก้าวออกมาสั่งการ
[พายุสังหาร – หลัวเหลีย]
คำอธิบาย : ลูกพี่ลูกน้องของขุนนางหลัวเหล่ย แห่งเมืองป้าฮวง เขาครอบครองพลังที่แข็งแกร่งมาก ชนะทุกสงครามที่เขาต่อสู้ สั่งการกองทัพแห่งเมืองป้าฮวงสยับตั้งแต่เหนือจรดใต้ จนในที่สุดเขาก็ได้รับฉายา แม่ทัพสวรรค์แห่งเมืองป้าฮวง และกลายเป็นผู้บัญชาการกองทัพแห่งเมืองป้าฮวง……
“หืมม งั้นเขาก็เป็นน้องชายของขุนนางหลัวเหล่ย…..”
ผมยิ้มเล็กน้อย
“เยี่ยมไปเลยไม่ว่าจะเป็นหลัวเหลียเก่งกว่าหรือว่าหลี่จิ้งเก่งกว่า ชั้นก็อยากดูการต่อสู้ครั้งนี้แหะ รอจนกว่าหลัวเหลียลดเลือดของหลี่จิ้งให้เหลือซัก 1% ก่อน แล้วเราค่อยเข้าร่วมการต่อสู้”
‘เย่วชิงเชียน’หัวเราะคิกคัก
“พี่เซียวเหยา ท่าทีแบบนั้นมันอะไรกันอ่ะ…..”
กองทัพของเมืองป้าฮวงเข้าสู่เมืองโบราณกันอย่างต่อเนื่อง ทหารม้านำหน้าเข้าสู่ใจกลางเมืองอย่างรวดเร็ว พวกเขาควงหอกของตนเองขึ้นมาก่อนจะปาออกไปอย่างรุนแรง หอกพุ่งเข้าใสหลีจิ้งอย่างรุนแรง หอกแต่ละอันต่างถูกห่อหุ้มไปด้วยพลังเยือกแข็ง มันดูราวกับพลังปราณอย่างไม่ต้องสงสัย ทหารม้าเหล่านี้ต้องเป็นกองกำลังระดับสูงของเมืองป้าฮวงแน่นอน!!!
ก่อนที่หอกจะพุ่งเข้าใส่ ทันใดนั้นหลีจิ้งพลัเงยหน้าขึ้น เขาคำรามขึ้นด้วยใบหน้าอันหยิ่งพยอง
“คนรุ่นหลังนี่ ช่างอวดดีนัก!!! ข้าจะให้พวกเจ้าได้รับรู้รสชาติ พลังของข้าว่ามันเป็นเช่นใด!!!”
หวือออออออ
อากาศรอบๆ ต่างแข็งค้าง หอกจำนวนมากปะทะเข้ากับโล่พลังปราณที่ถูกทำให้หนาแน่นขึ้น
เปรี้ยงๆๆ
หอกทั้งหมดต่างถูกกระแทกออกทันที ‘หลี่จิ้ง’กระโดดขึ้นสู่อากาศถึงสิบเมตร พร้อมกับกวัดแกว่งดาบที่มีพลังไฟฟ้าสถิตอยู่ พลังสายฟ้าพุ่งเข้าปะทะเบื้องล่างพร้อมกับแยกกระจายออกไป เข้าสู่กองกำลังของเหล่าทหารม้า มันเข้าตัดฉีกกระชากร่างของพวกนั้นราวผักปลา
เพียงพริบตา พื้นดินแถวนั้นถูกชโลมไปด้วยเลือดสดๆ แม้ว่าเหล่าทหารม้าจะอยู่ในชุดเกราะมิดชิด แต่เกราะเหล่านั้นก็ไม่สามารถช่วยอะไรพวกเขาได้ พลังจู่โจมของหลี่จิ้งนั้นเหนือกว่าที่พวกเขาจิตนาการไว้เยอะมาก
‘หลี่จิ้ง’ยืนอยู่บนท้องฟ้าอย่างสง่าผ่าเผย ทันใดนั้นเขาก็ผายมือซ้ายออกมา ทันใดนั้นพลังมหาศาลก็ก่อเกิดขึ้น เขาคำรามออกมาด้วยน้ำเสียงอันเกรี้ยวกราด
“พวกแกทุกคน ต้องตาย!!!![พสุธากัมปนาท]!!!!”
“เปรี้ยงงงง….”
ทันใดนั้นพื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง อาณาเขตกว่า 100*100 หลาพังทลาย จมลงสู่เบื้องล่าง ทหารม้าหลายร้อนคนร่วงลงสู่เบื้องล่าง พวกเขาร่ำร้องออกมาอย่างโหยหวนก่อนจะจมลงสู่ความตาย
……
“นี่มัน……”
‘หลัวเหลีย’มองไปด้วยแววตาเหี้ยมโหด ก่อนจะออกคำสั่ง
“นักธนูเดินต่อไป ใช้ลูกธนูโลหะ โจมตีหลี่จิ้งซะ ฆ่ามัน!!!!”
กลุ่มของนักธนูหลังไหล่เข้าสู่ประตูเมือง ก่อนจะจัดตำแหน่งของตนเอง พวกเขาต่างยกธนูเล็งไปยังหลี่จิ้ง ภายใต้คำสั่งของหลัวเหลียงลูกธนูนับล้านพุ่งออกไปอย่างพร้อมเพรียงกัน!!!
ฟุบ ฟุบ ฟุบ ฟุบ…….
ลูกธนูพุ่งเข้าสู่เป้าหมายอย่างแม่นยำ แต่ทุกดอกถูกกระแทกกลับอย่างง่ายดายเมื่อมันเข้าใกล้หลี่จิ้ง ความสามมารถพิเศษของหลี่จิ้งต้องเป็นการโจมตีระยะไกลจะไม่มีผล เป็นแน่นอน มันจะโหดเกินไปแล้ว!!!
“พวกแกรนหาที่ตาย…….”
‘หลี่จิ้ง’ยิ้มออกมาพลางเก็บดาบเข้าสู่ฝักกลางหลัง ก่อนจะยกแขนขึ้นมาในแนวขนานกับพื้น เขาสะบัดแขนซ้ายก่อนจะพึมพำออกมา “ปฐพี” ส่งผลให้พลังงานรูปหินสีเขียวลอยเข้าสู่มือของเขา เขาสะบัดแขนขวาอีกครั้งก่อนจะพึมพำออกมา “นภา”
ทันใดนั้นพลังแหง่ดวงดาวจำนวนมากค่อยๆ ปรากฏขึ้น ในจังหวะต่อมา หลี่จิ้งดันแขนของตนเองไปด้านหน้าก่อนจะหัวเราะออกมาพร้อมกับแววตาเต็มไปด้วยไอสังหาร
“ไปตายซะ เจ้าพวกมดปลวก!!! เอานี่ไป!!!! [ผนึกนภาและปัฐพี]!!”
……
ฮืมมมมมมมมม
ทองฟ้าและพื้นดินผสานกันเป็นหนึ่งเดียว พลังโจมตีครั้งนี้ เส้นสายสีแดงพุ่งเข้าเข่นฆ่านักธนูนับพันในพริบตา!!!
ที่มา :