I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 306 ผมคิดถึงคุณ

| Zhan Long | 1985 | 2360 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลโดย Kradiz

“หิมะน้อย!!”

‘Dawn Hero’ วิ่งมาเบื้องหน้าพร้อมกับกุมมือของ’ถังเสวี่ย’

“ผมไม่อยากให้คุณอยู่ในกิลด์[Zhan Long]ผมอยากให้คุณอยู่ข้างกายของผม ผม……”

ในแววตาของ’ถังเสวี่ย’เต็มไปด้วยความรังเกียจ

“พวกเราไม่มีอะไรต้องพูดกันแล้ว ออกไปซะ…….”

“ไม่…หิมะน้อย..ให้ผมอธิบายก่อน..”

……

แปะ

มืออันแข็งแกร่งเกาะกุมลงบนไหล่ของ ‘Dawn Hero’ แววตาของ’หลี่มู่’เย็นยะเยือก เขาใช้มืออันแข็งแกร่งปัดมือของ ‘Dawn Hero’ ออกห่างๆ พลางกล่าวอย่างเยียบเย็น

“ใสหัวไปซะ ถังเสวี่ยเป็นคนของ [Zhan Long] ถ้าแตะต้องเธออีกหละ……..”

“อะไร……แกเป็นบ้าอะไรวะ”

อารมณ์ของ ‘Dawn Hero’ คุกรุ่นขึ้น เขาชักดาบของตนเองออกมาทันที พร้อมกับฟาดมันลงที่ไหล่ของ’หลี่มู่’

ฟุบ ฟุบ

เท้าของผมเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว พร้อมกับปรากฏร่างที่เบื้องหน้าของ’หลี่มู่’ ผมยกมือขวาขึ้น เอาเกราะต้านรับดาบที่ฟาดลงมาแสงฟ้าครามส่องสว่างขึ้นจากเกราะของผม เพื่อลดแรงโจมตี ส่งผลให้ตัวเลขลอยออกมาเพียง 571 อย่างที่คิด พลังโจมตีของ ‘Dawn Hero’ ไม่ได้ต่ำเลย

ผมก้มตัวลงเล็กน้อยพร้อมกับเตะไปที่เขาอย่างรุนแรง

เปรี้ยงง

1427!

‘Dawn Hero’ ร้องออกมาเสียงดังหลังจากถูกเตะเข้าที่กลางอก ส่งผลให้เขาต้องไถลไปไกลกว่า 5 เมตร ก่อนจะครางออกมาและล้มลงพื้น แม้แต่เครื่องป้องกันของเขาก็ไม่ได้แย่ทีเดียว แต่ความแข็งแกร่งระหว่างผมกับเขานั้นค่อนข้างห่างไกลกันทีเดียว

ผมมองไปยัง ‘Dawn Hero’ พลางกล่าวอย่างไม่สนใจ

“ตอนนี้ถังเสวี่ยเป็นหนึ่งในคนของกิลด์เราแล้ว ถ้าแกกล้าแตะต้องเธอแม้แต่ปลายเส้นผม ชั้นจะทำให้แกไม่กล้ากลับมาเหยียบเมืองป้าฮวงอีกเลย กิลด์ไหนก็ตามที่ปกป้องแก ชั้นก็จะพังมันไปด้วยเลย ชั้น!! หลี่เซียวเหยาพูดจริงทำจริงเสมอ ถ้าแกไม่เชื่อหละก็ ลองดูก็ได้นะ!!”

“แก!!”

ใบหน้าของ ‘Dawn Hero’ ซีดเซียว พลางลุกขึ้นอย่างอ่อนแรง ดาบในมือของเขาเริ่มที่จะสั่นไหวขึ้น

“เซียวเหยาจื่อไจ๋อย่ามาสอดเรื่องของคนอื่นหน่อยเลย!! นี่ไม่ใช่เรื่องของแก!!”

ผมก้มลงหยิบดาบแห่งจักรพรรดิฉินขึ้นมา พลางเหล่ามองไปยัง’หลิวอิ้ง’และ’เจ้าหมูน้อย’ ก่อนจำคำรามขึ้น

“หลิวอิ้ง!! ถ้านายไม่ควบคุมลูกน้องของนายให้ดี อย่ามาโทษฉันแล้วกัน!!!!”

‘หลิวอิ้ง’กัดฟันแน่น

“Dawn กลับมาซะ”

‘เจ้าหมูน้อย’วิ่งไปคว้าข้อมือของ ‘Dawn Hero’ พร้อมกับกล่าวออกมา

“ยอมแพ้ซะ ถังเสวี่ยเธอไม่สนใจนายแล้ว นายไม่ใช่นายคนเก่า และเธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงใสซื่อคนเดิมแล้ว ทุกคนต่างต้องเติบโตและมีทางของตัวเอง ยอมแพ้เถอะ เธอไม่รักนายแล้ว….”

ดวงตาของ ‘Dawn Hero’ แดงก่ำ

“พี่หมูน้อย แต่ว่า…แต่ว่าผม…”

“ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว ไปกันเถอะ ชั้นรู้นิสัยของเซียวเหยาจื่อไจ๋ดี เมื่อเขาต่อสู้เขาจะไม่มีความเมตตาใดๆ”

“ก็…ได้..”

……

เหล่าผู้เล่นของ [Wrath of the Heroes] เริ่มที่จะหันหลังกลับไปยังพื้นที่ของตนเอง ‘หลิวอิ้ง’หยิบดาบของตนเองขึ้นมาพลางมองมายังผม

“หลี่เซียวเหยา นี่เป็นแค่การเข้าใจผิดเล็กๆ เท่านั้น ชั้นหวังว่านายจะไม่เก็บมันมาใส่ใจ…..”

ผมยิ้มอย่างเสแสร้งพลางกล่าว

“จะไปเป็นไปยังไงหละ เพื่อนร่วมชั้นหลิว? ชั้นรู้ว่านายเป็นคนยังไง เมื่อไหล่ก็ตามที่พวกเราต้องสู้กัน ชั้นจะไม่อ่อนข้อให้แน่นอน”

“โอเค….”

หลังจากที่ผมเฝ้ามองเหล่าผู้เล่นของ [Wrath of the Heroes] จากไปทีละคนๆ ผมก็เก็บดาบของตนเองและมองไปยัง’ถังเสวี่ย’ที่อยู่ด้านข้างผม ผมยิ้มให้บางๆ พร้อมกับแตะที่ไหล่ของเธอ

“ถังเสวี่ยเธอควรจะคิดให้มากๆ นะ ในหนึ่งชีวิตของคนเรานั้น ไม่ควรจะไปรักขยะพรรณนั้น….”

‘ถังเสวี่ย’พยักหน้าพร้อมกับกล่าว

“อ่า หัวหน้ากิลด์ ฉันขอโทษจริงๆ ฉันไม่คิดว่าจะนำปัญหามาให้กับกิลด์มากขนาดนี้…”

ผมหัวเราะพลางกล่าว

“อย่าไปคิดมาก ถือซะว่ามันเป็นการทดสอบของกิลด์แล้วกัน อีกอย่างเธอก็เป็นหนึ่งในพวกเรา ปัญหาของเธอก็คือปัญหาของเราเช่นกัน อีกอย่างพวกนั้นก็เป็น [Wrath of the Heroes] ด้วย ตามจริงนั้นพวกเราทั้งสองกิลด์ก็เป็นศัตรูกันอยู่แล้ว ตอนนี้หลิวอิ้งนั้นรู้ว่าพวกเขายังเทียบเราไม่ได้ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาแข็งแกร่งขึ้น กิลด์แรกที่พวกนั้นจะสู้ด้วยก็คือ สาขาที่หนึ่งของ [Hero’s Mound] ต่อมาก็คงจะเป็น[Zhan Long]ของพวกเรา…..”

‘เหลียนป๋อ’ที่อยู่ด้านข้างยิ้มขึ้นพลางกล่าว

“ดูเหมือนว่า…..หัวหน้ากิลด์ของพวกเราจะยังไม่รู้สึกว่าตัวเองชนะนะ ตามจริงแล้วยิ่งเป็นคนเก่งมากขนาดไหน ยังมีคนเกรียดมากตามไปด้วย กิลด์ของเราก็เช่นกัน ยิ่งเราแข็งแกร่งมากขนาดไหนยิ่งมีคนอิจฉามากตามไปด้วย สิ่งเดียวที่จะทำได้คือ ต้องแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก แข็งแกร่งจนใครๆ ก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้อย่างเต็มใจ เป็นทางเดียวที่เราจะไม่พังทลาย!!!”

“ใช่!! ลุงพูดถูก!!”

ผมมองไปยัง’มัทฉะ’

“กิลด์เรามีแผนจะทำอะไรต่อรึเปล่า?”

‘มัทฉะ’คือหนึ่งใน 4 ผู้อาวุโสของกิลด์ เป็นตำแหน่งเดียวกับ’ซงฮาน’และ’หลี่มู่’ มีหลายอย่างที่เธอเป็นคนจัดการ จนเธอแทบจะเป็นรองหัวหน้ากิลด์อยู่รอมร่อ เธอมองไปยังปฎิทิน ก่อนจะเงยหน้ามายิ้มให้

“วันนี้มีแผนการ 7 อย่าง คือ บอสระดับม่วง 4 ตัว และบอสระดับจักรพรรดิ 3 ตัว พวกเราส่งคนไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นพวกเราจะกระจายตัวกันเก็บระดับและทำเควสที่ หุบเขายูนิคอนพฤกษาตอนนี้ที่หุบเขากิเลนพฤกษามี NPC ทหารมาตั้งค่ายอยู่ พวกมันให้ค่าประสบการณ์เยอะทีเดียว แล้วก็….”

‘มัทฉะ’คิดไตร่ตรองซักครู่ก่อนจะกล่าวออกมา

“แต่ว่าก็ยังมีผู้เล่นที่ไม่ใช่คนของเรามาเก็บระดับที่หุบเขากิเลนพฤกษาอยู่ประปราย เราควรจะทำไงดีคะ?”

ผมโบกมือพลางกล่าวออกมา

“หุบเขากิเลนพฤกษามันใหญ่มาก และม่อนยังเกิดเร็วด้วย พวกเขาเข้าไปทำเควสเท่านั้นแหละ ผู้เล่นเดี๋ยวและกลุ่มที่ไม่เกิน 100 คนสามารถเข้าไปได้ แต่สำหรับกิลด์ใหญ่ต้องถูกจำกัด โดยเฉพาะผู้เล่นจากกิดล์[Hero’s Mound] และ [Flying Dragon] ถ้ามันมา ก็ฆ่าได้เลย”

“โอเค เข้าใจแล้วค่ะ”

……

เมื่อไม่รู้จะทำอะไรกลุ่มของผู้เล่นจากกิลด์[Zhan Long] ก็แยกย้ายกันไปเก็บระดับตามเดิม ตอนนี้กิลด์พวกเราเป็นระดับ 4 แล้ว สามารถรับคนได้ถึง 3000 คน ตอนนี้มีสมาชิก 2977 คนแล้ว และมีผู้เล่นที่ออนล์ไลอยู่ถึง 2218 คน ดูเหมือนว่ากิลด์ของเราเริ่มจะผงาดในเมืองป้าฮวงได้แล้ว

ในช่วงกลางวันเราก็มีคนถึง 2000 กว่าคนแล้ว ถ้าเป็นช่วงเย็นคนจะต้องเกิน 2500 อย่างแน่นอน แบบนี้ผู้เล่นระดับสูงของเราทั้ง 2500 คนก็พร้อมรบอยู่ตลอดเวลาตอนนี้ต่อให้เป็น [Vanguard] หรือ [Prague]ก็ทำเป็นไม่สนใจเราไม่ได้แล้ว

ผมหยิบดาบแห่งจักรพรรดิฉินขึ้นมา พร้อมกับพาเจ้าพยัคฆ์น้อยเดินเข้าไปในป่าป้าฮวง ตอนนี้เป้าหมายของเราคือ เมืองมังกร นี่ก็นานมากแล้วที่ผมไม่ได้เจอกับอาจารย์ฟรอส ก่อนหน้านี้ผมยุ่งมากจริงๆ บางทีเธออาจจะมีเควสให้ผมทำก็ได้

เจ้าพยัคฆ์น้อยวิ่งเล่นไปรอบๆ อย่างสนุกสนาน บางครั้งก็กระโดด บางครั้งก็คลาน บางครั้งก็ตะปบเล่น บางครั้งหูของมันก็สั่นไปมา ดูแล้วน่ารักเป็นอย่างมาก บนหัวของมันคือคำว่า ‘ชางถง’ เวลาผมมองมันผมอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ผมเปิดรายชื่อเพื่อนขึ้นมา และเห็น ‘ชางถง’ออนอยู่ ผมส่งข้อความถึงเธอทันที

“ว่านเอ๋อ…”

“หือ…มีอะไรงั้นเหรอ?”

เธอตอบกลับมา

“ผมคิดถึงคุณ”

“อย่ามาแหล”

“จริงจริ้งง…”

“งั้นก็มาเจอฉันที่ฟ่านชูซะสิ”

“ผมยุ่งมากเลย…”

ผมยิ้มให้

เธอทำท่าน่ารักออกมา ส่งผลให้เกิดดาเมจรุนแรงมาก

“อิอิ ทุกคนก็พูดแบบนั้นได้ ถ้านายคิดถึงใครซักคนจริงๆ ไม่ว่าจะมีผู้เขานับพันหรือแม่น้ำนับหมื่นขวางกั้น นายก็ไปหาเธอได้ นั้นแสดงให้เห็นว่านายโกหก นายไม่ได้คิดถึงฉันจริงๆ….งง”

“แต่เราพึ่งแยกกันเมื่อ 30 นาทีก่อนเองนะ”

“อืมมม…..”

หน้าของ’ว่านเอ๋อ’แดงระเรือ

“อ๋า ดูเหมือนว่าจะเป็นทางนั้น……ฮืออ ฉันไม่คุยกับนายอีกแล้ว ตงเฉิงลากฉันไปแล้ว ฉันต้องทำงานของตัวเองก่อน ตอนนี้นายก็ 70 แล้ว แต่ฉันยัง 69 เอง ฉันไม่ยอมถูกทิ้งไว้ข้างหลังหรอกนะ”

“โอเค…วันนี้ผมจะทำเควสเล็กน้อยรอคุณละกัน โชคดีนะ ตอนนี้ก็ใกล้แล้วที่คุณสองคนจะเข้ากิลด์ผม…”

“ฉันรู้ ตอนนี้ฉันเตรียมพร้อมอยุ่ตลอดเลยเนี้ย”

“เยี่ยมม”

……

ในขณะที่ผมปิดหน้าต่างสื่อสาร แววตาของเธอทำท่ายุ่งยากขึ้นเล็กน้อยก่อนที่ริมฝีปากของเธอจะเผยอขึ้นพร้อมกับยิ้มมาให้ผม เมื่อผมเห็นภาพนั้นจิตใจของผมยุ่งเหยิงอย่างมาก น่าเสียดายที่ช่วงเวลานั้นมันผ่านไปเร็วมาก ผมไม่สามารถลิ้มรสชาติช่วงเวลานั้นได้นานนัก แต่หลังจากนั้นผมก็อายที่จะโทรหาเธออีก ผมทำได้เพียงเสียงดายเท่านั้น

“เจ้ามือบ้า ทำไมแกปิดมันเร็วนักเนี้ยย!!”

ผมทั้งปีนเขาและข้ามแม่น้ำไป ไม่นานนักผมก็มาถึงยังเมืองมังกร ตอนนี้ผมยืนอยู่ตรงกำแพงเมือง ก่อนที่ผมจะกล่าวอะไร เชือกก็ถูกปล่อยลงมาให้ผม ผมรีบจับมันทันที ก่อนที่จะปืนขึ้นไปสู่ด้านบน ระดับของผมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งช่วยให้ความแข็งแกร่งของผมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เพราะงั้นการปืนจึงง่ายกว่าแต่ก่อนมาก

ปัง

ผมกระโดดลงบนกองหิมะบนกำแพงเบาๆ ทันใดนั้นก็มีทหารแห่งเมืองมังกรวิ่งมาต้อนรับผม เขากำมือขึ้นตรงหน้าอกพร้อมกับกล่าว

“คุณเซียวเหยาจื่อไจ๋มาพบคุณฟรอสเหรอครับ?”

ผมสับสนเล็กน้อย ก่อนจะคิดว่า บางทีการที่ผมถูกเลื่อนให้เป็นศิษของฟรอส ทำให้ตำแหน่งของผมถูกเลื่อนขึ้นด้วย แต่ผมก็ยังเป็นยามเวรกลางคืนแห่งเมืองมังกรเท่านั้นแต่สถานะของผมกลับสูงกว่าทหารธรรมดา

ผมพยักหน้าพลางกล่าว

“ใช่ ฟรอสอยู่ไหนเหรอ?”

ทหารคนนั้นชี้ไปยังทิศตะวันออกพลางกล่าว

“คุณฟรอสชอบอยู่ในหอสังเกตการณ์ทุกคืน เธอชอบเหม่อลอย ไม่มีใครกล้ารบกวนเธอ คุณจะรอสักพักรึเปล่า?”

ผมส่ายหัวพลางกล่าว

“ไม่จำเป็น ผมจะไปหาเธอเอง”

“โอเค”

……

ผมปืนขึ้นไปยังหอคอยผ่านสายลมและหิมะขึ้นไป ทีละก้าวๆ เพื่อจะไปยังจุดสังเกตการณ์สูงสุด จุดสูงสุดนั้นกว้างขวางอย่างมาก และเต็มไปด้วยกองหิมะมากมาย ท่ามกลางพายุหิมะ ร่างๆ หนึ่งยืนอยู่ลำพังที่อีกด้านของจุดสังเกตการณ์ ใต้เท้าของเธอราวกับขุมนรกอเวจี

แต่เธอกลับไม่กลัวมันสักนิดเดียว ด้านหลังของเธอ สายลมกำลังโบกสะบัด เปิดเผยให้เห็นขาคู่งามของเธอที่ถูกสวมไว้ด้วยรองเท้าสีเงิน พร้อมกับดาบที่อยู่ตรงเอวของเธอ ผมเส้นยาวสลวยของเธอปลิวไสวดูสวยงาม เธอดูราวกับกำลังครุ่นคิดอย่างระทมทุกข์

ฟุบบบบ

ผมเดินผ่านหิมะตรงไปยังด้านข้างของเธอ ก่อนจะหันไปมองเธอ เกร็ดหิมะร่วงหล่นลงบนขนตาของเธอ ส่งผลให้เธอต้องกระพริบตา เธอทำเพียงจ้องมองออกไปยังความมืดด้านหน้าเท่านั้น

“ฟรอส…..คุณกำลังมองอะไรอยู่งั้นเหรอ?”

เธอยังคงมองออกไปยังความมืดเช่นเคย ก่อนจะตอบออกมาเบาๆ

“ฉันกำลังมอง…..มองทิศเหนือของเมือง..ฉันกำลังมอง…มองตรงจุดที่ทหารของเราป้องกันอยู่…และมอง..มองพวกเขาอาจจะถูกฆ่าตายทั้งหมดเมื่อพวกมันปรากฏตัว และเพื่อดูว่าพวกมันจะจู่โจมเมืองมังกรเมื่อไหร่ ตอนนี้สงครามเจ็ดอาณาจักรได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!!”

ผมมองไปอย่างโง่งม

“แต่ผมไม่เห็นอะไรเลยนะ…”

ฟรอสยิ้ม

“ต้องมีสักวันที่นายจะเห็นมัน!!”

ที่มา : https://readzl.wordpress.com/2016/08/25/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-306-%E0%B8%9C%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93/

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments