ตอนที่แล้วตอนต่อไปแปลโดย : Gal2oN
ภายใต้ม่านสีดำยามค่ำคืน ผมยืนอยู่ที่ขอบของพุ่มไม้หนามปกปิดตัวด้วยเสื้อคลุมสีดำกับดาบจักรพรรดิฉินที่มันเงาอยู่ในมือ อีกเพียงแค่ประมาณหนึ่งร้อยเมตรเท่านั้นระหว่างผมกับเมืองกลืนวิญญาณ ถ้าผมเข้าใกล้ไปกว่านี้ ผมคงจะต้องโดนจับได้โดยนักธนูที่ยืนเฝ้าอยู่เป็นแน่แท้ แม้ว่าผมจะใส่เสื้อผ้าของพวกมัน ผมก็ยังคงไม่แน่ใจอยู่ดีว่าพวก npc มอนสเตอร์นี้มันจะจำผมได้รึเปล่า
“มองไปตรงนั้นสิ”
‘ฟรอสท์’ชี้ไปที่ทิศตะวันตกและพูดว่า
“มีกลุ่มคนกำลังมา..”
ผมมองตามไปและแน่นอนตามที่’ฟรอสท์’บอก ที่นั่นมีรถลากขนาดใหญ่อยู่สี่คันที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบ มีทั้งอุปกรณ์ อาหาร และแม้กระทั่งผู้หญิง ผู้หญิงเผ่าวินด์เอลฟ์กลุ่มหนึ่งถูกจับขับไว้ในรถลากที่อยู่ตรงกลาง ปีกของพวกเธอถูกหักออกจนหมด และร่างกายต่างเต็มไปด้วยเลือด พวกเธอทำได้แค่เฝ้ามองและรอเท่านั้น ไม่รู้ว่าอะไรจะรอพวกเธออยู่ ขณะที่ส่งเสียงอู้อี้ผ่านผ้าที่ปิดปากพวกเธอเอาไว้
“พวกมันสมควรตาย..”
‘ฟรอสท์’กำหมัดและก้มหัวลงขณะที่เธอพูดว่า
“พวกขุนนางสกปรกนี่…คิดได้แค่ว่ามันจับเหล่าวินด์เอลฟ์ในเมืองป้าหวงเพื่อเอาประโยชน์จากร่างกายของพวกเธอ”
ผมขมวดคิ้วและพูดว่า
“ฟรอสท์ จำสิ่งที่โล่วหลินพูดก่อนหน้านั้นได้มั้ย ไม่ใช่ว่าพวกทหารไร้พ่ายในเมืองกลืนวิญญาณนี้ถูกตอนตั้งแต่เกิดเพื่อป้องกันความหื่นเหล่านี้หรอกเหรอ?”
“นั่นก็ถูก”
ดวงตาของ’ฟรอสท์’ฉายแววอำมหิตขณะที่เธอพูดว่า
“แต่ป้าหลินไอ้เฒ่าตัณหากลับนั่นยังปกติดี นอกจากนี้มันยังมีบุตรชายอยู่ 4คน และยังมีความสัมพันธ์ใต้โต๊ะกับพวกขุนนางในเมืองจิ่วลี่ มันตระเวนขายวินด์เอล์ฟสวยๆ มนุษย์ และหญิงสาวเผ่ามูนเอล์ฟเพื่อเอาเงิน เพื่อเงินแล้วป้าหลินได้กลายมาเป็นปีศาจร้าย มันเป็นทรราชที่อาศัยอยู่ใกล้เมืองป้าหวง ด้วยกองทัพในมือของมันและความโลภอันไร้ขอบเขต แม้แต่ดยุคโล่วเหล่ยก็ควบคุมมันไม่ได้”
ผมเอียงหัวขณะที่มองไปข้างหน้าและพูดว่า
“งั้นเราจะอะไรกันอยู่อีกละ? พวกเราควรจะรีบเข้าไปและปะปนอยู่ในฝูงชนนะ…”
“หา? พวกเราจะปะปนเข้าไปยังไงละ?”
“แค่ตามผมมาเถอะ!”
ผมยืนมื่อออกไปและจับมือของ’ฟรอสท์’ไว้และดึงเธอออกจากพุ่มไม้ ‘ฟรอสท์’ต่อต้านอยู่พักหนึ่งแล้วจึงปล่อยให้ผมดึงไปอย่างว่าง่าย เธอก้มหัวลงเพื่อซ่อนแก้มที่ร้อนผ่าวเอาไว้ แต่ผมไม่ได้ใส่ใจเลยซักนิด ผมมัวแต่มุ่งความสนใจไปที่กองกำลังคุ้มกันที่นั่งอยู่บนหมาป่าน้ำแข็งขณะที่พวกมันกำลังดวดเหล้ากันอยู่
“เฮ้!”
ทันใดนั้น ทหารไร้พ่ายที่ถือง้าวคนหนึ่งได้พุ่งตรงมาทางนี้ เขายกง้าวขึ้นและตระโกนออกมาว่า
“เจ้าสองคนตรงนั้นน่ะ พาหนะของพวกเจ้าไปไหน?”
ผมมองไปที่ไหล่ของทหารคนนั้นซึ่งมีสัญลักษณ์ C ติดอยู่ ไอ้หมอนี่คงจะเป็นหัวหน้าอะไรซักอย่างละนะ ดังนั้นผมจะปั้นสีหน้าโกรธเกรี้ยวและพูดว่า
“อย่าพูดถึงมันเลยเถอะ ตอนที่พวกเรากำลังสอดแนมอยู่ทางป่าตะวันออก ได้ถูกพวกบาบาเรี่ยนซุ่มโจมตี หมาป่าน้ำแข็งของพวกเราถูกฆ่าไปหมดแล้ว ขอบคุณพระเจ้าที่วิ่งหนีทันมิฉะนั้นแล้วคงต้องสูญเสียชีวิตด้วยเช่นกัน…”
นัยน์ตาทหารนายนั้นฉายแววเย็นยะเยือก
“อะไรนะ? บ้าชิบ ไอ้พวกบาบาเรี่ยนปรากฏตัวขึ้นอีกคร้งในป่าทางตะวันออกงั้นเรอะ พวกเราต้องรายงานสิ่งนี้ให้กับท่านป้าหลิน การปรากฏตัวของพวกบาบาเรี่ยนนี้ต้องนำหายนะมาให้เมืองกลืนวิญญาณอย่างแน่นอน”
ผมพยักหน้าในขณะที่มองไปที่รถลากและพูดว่า
“หัวหน้า ดูท่าท่านจะเก็บเกี่ยวรอบนี้มาได้ไม่น้อยเลยนะ ไม่เลว มีผู้หญิงและวัตถุดิบมากมายเลยทีเดียว”
ทหารนายนั้นหัวเราะและพูดว่า
“แน่นอน พวกเราปล้นเมืองสามเมืองในหุบเขากิเลนพฤกษาและเอาทุกอย่างมาจากแบล็คสมิธและโกดังของพวกมัน ดูนี่ มีผู้หญิง 24 คนในรถลาก และมีอยู่ 17 คนที่ยังบริสุทธิ์อยู่ ฮ่าฮ่า ท่านป้าหลินชอบวินด์เอล์ฟที่บริสุทธ์อยู่มากที่สุด ครั้งนี้ท่านจะต้องตบรางวัลให้ข้าอย่างงามแน่!”
ผมยิ้มและพูดว่า
“ยินดีด้วยท่านหัวหน้า ทำไมพวกเราไม่เข้าเมืองไปด้วยกันละ?”
“ได้ ตกลง!”
…….
ผมเดินไปและดึงมือของ’ฟรอสท์’ตามหลังกองคาราวาน มีอากาศเย็นยะเยือกปกคลุมอยู่รอบๆมือของ’ฟรอสท์’ มันเป็นทักษะการต่อสู้ธาตุน้ำแข็งของเธอนั่นเอง คำพูดของหัวหน้าหน่วยเมื่อกี้ทำให้หัวหน้าอัศวินมังกรของเราโกรธจัด ผมเริ่มคิดว่า’ฟรอสท์’อาจจะพุ่งเข้าไปตัดหัวมันตอนไหนซักตอน
ผมจับมือเธออย่างแน่นหนาและพูดเบาๆว่า
“ฟรอสท์ อย่าวู่วามนักสิ เป้าหมายของพวกเราอยู่ที่ดาบของป้าหลิน ไม่ใช่หัวหน้าคาราวานต่ำต้อยนี่ซักหน่อย..”
‘ฟรอสท์’กัดฟัน นัยน์ตาคู่สวยของเธอเผยรังสีอำมหิตอย่างแรงกล้าแต่ในที่สุดเธอก็พยักหน้าและตอบกลับมาเสียงต่ำ
“หลังจากข้าฆ่าป้าหลิน ข้าจะปล่อยหญิงสาวทุกคนที่ถูกขังอยู่ที่นี่”
ผมยิ้มและพูดว่า
“แม้ว่าคุณจะไม่พูดอย่างนั้น ผมก็กะจะทำอยู่แล้วล่ะ!”
“ตกลง…”
…..
กองคาราวานไปถึงกำแพงเมือง หัวหน้าหน่วยนั่นส่งสัญญาณลับให้กับยามที่อยู่ด้านบน แผนสำเร็จพวกเราเข้าเมืองได้อย่างง่ายดาย เมื่อเข้ามาแล้วพวกเราพบว่ามันใช่แค่ใหญ่แต่ยังกว้างขวางอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งก่อสร้างยังโคตรเรียบง่าย ไม่มีร้านพ่อค้าซักร้าน มีแต่ร้านตีเหล็ก ร้านซ่อมของ พื้นที่ฝึกซ้อม และเครื่องจักสำหรับทำลายกำแพงเมืองวางอยู่
มันเป็นเมืองที่ถูกสร้างมาเพื่อการต่อสู้เท่านั้น เมืองนี้ยังอยู่ได้เพราะอาศัยการปล้นเมืองต่างๆภายใต้คำสั่งของป้าหลิน ทหารไร้พ่ายส่วนใหญ่เก็บกวาดที่ราบป้าหวงราวกับตั๊กแตนกัดกินชายแดนเมืองป้าหวง ทำให้พื้นที่เหล่านั้นกลายเป็นรกร้างและเต็มไปด้วยความหิวโหย
“พวกเจ้ารออยู่ที่นี่แหละ ข้าจะไปรายงานให้ท่านป้าหลินทราบถึงสถานการณ์พวกบาบาเรี่ยน!”
หัวหน้าหน่วยกระตุ้นหมาป่าของมันขณะที่หันมาตะโกนใส่ผมและ’ฟรอสท์’
ผมรู้สึกตื่นตระหนกจึงถามออกไปว่า
“หัวหน้า ท่านจะไม่พาพวกเราไปพบกับองค์จักรพรรดิด้วยงั้นรึ?”
“เฮอะ! เจ้ามีสิทธ์อะไรถึงจะเข้าไปพบองค์จักรพรรดิของพวกเราได้ กลับไปที่ที่เจ้าควรจะอยู่ซะและปล่อยเรื่องการรายงานให้กับข้า!”
“หัวหน้า…”
“อะไร?!”
เมื่อมันเห็นว่าผมยังไม่ขยับ มันจึงควงง้าวชี้มาที่คอของผม มันหัวเราะอย่างเย็นชา
“เจ้าสวะ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในทหารไร้พ่าย เจ้าต้องเรียนรู้ที่จะเชื่อฟัง ฟังคำสั่งของข้า และถ้าเจ้ายังกล้าพูดอีกแม้แต่คำเดียว ข้าจะส่งเจ้าไปสุสานซะ ไอ้หนอนไร้ประโยชน์!”
ผมแบมือและจับไปที่ด้ามจับง้าวของมันในทันที ผมมองมันด้วยแววที่เย็นยะเยือก ไอ้เวรนี่ ถ้าไม่สนอะไรแล้ว ผมคงจะฆ่ามันซะตรงนี้แล้วบุกเข้าไปในปราสาทซะ มันคงไม่ยากนักหรอก!
“เจ้าสวะนี่ต้องการจะก่อกบฏ!”
หัวหน้าหน่วยไม่สามารถดึงง้าวกลับมาได้จึงได้แต่ตะโกนออกมา ทหารไร้พ่ายกลุ่มหนึ่งรอบๆพวกเราดึงอาวุธออกมา และชี้ตรงมาที่ผมและ’ฟรอสท์’
“เดี๋ยว…”
‘ฟรอสท์’ตะโกนออกมา เธอถอดหมวกของเธอต่อหน้าพวกมัน เผยใบหน้าอันงดงามต่อทุกคน กระทั่งผ้าคลุมที่ปกปิดไหล่อันหอมหวนตกลงบนพื้น ตามด้วยโบว์ที่ปิดเกราะอกสองลูกที่กำลังเด้งไปมา ชุดเกราะสีเงินและผ้าคลุมสีขาว เครื่องแต่งกายที่งดงามราวกับสวรรค์ปรากฏต่อหน้าเหล่าทหารไร้พ่าย นี่ต้องเป็นอะไรที่ผมเชื่อว่าพวกมันคงจะไม่เคยเห็นมาก่อนอย่างแน่นอน
“แม่เจ้าโว้ย..”
หัวหน้าหน่วยกลืนน้ำลายดังเอื๊อก นัยน์ตาของมันเต็มไปด้วยความหื่นกระหายขณะที่มันพูดว่า
“ไม่คิดว่าจะผู้หญิงที่งดงามขนาดนี้อยู่บนโลก ทำไม…ทำไมนางถึงได้มาอยู่ภายในเมืองนี้นะ?”
ขณะที่มันกำลังพูด นัยน์ตาของมันก็เย็นชาขึ้น
“ทหาร นำตัวผู้หญิงคนนี้ไปที่ห้องของข้าและแกล้งทำเป็นว่าพวกเจ้าไม่เคยเห็นนางมาก่อน!”
ผมอดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างเย็นชาและพูดว่า
“หัวหน้า ครึ่งล่างของท่านมันใช้การไม่ได้แล้ว ไม่ว่าท่านจะฝันหวานยังไง ท่านก็ไม่สามารถใช้มันได้หรอก…”
“เจ้า!”
อีกด้านหนึ่ง ทหารอีกนายพูดเสียงต่ำ
“หัวหน้า สำหรับหญิงสาวที่มีคุณภาพขนาดนี้ ถ้าหากท่านเจ้าเมืองตรวจพบว่าท่านซ่อนนางเอาไว้ ต่อให้ท่านไปอีกร้อยรอบพันรอบมันก็ไม่เพียงพอหรอกนะ…”
หัวหน้าหน่วยสั่นสะท้านได้แต่พูดว่า
“ทหาร นำสองคนนี้ไปพบท่านเจ้าเมือง!”
“ขอรับ!”
ภายใต้การคุ้มครองของเหล่าทหารไร้พ่าย ‘ฟรอสท์’และผมมุ่งหน้าไปยังปราสาท
‘ฟรอสท์’เดินอยู่ข้างๆและเธอเอียงหัวของเธอมองมาที่ผม กระซิบว่า
“ถ้าข้ารู้ว่ามันจะง่ายดายขนาดนี้ละก็ จะไปดักซุ่มตีหัวทำไมละเนี่ย”
ผมพูดไม่ออกและในที่สุดก็พูดว่า
“จริงด้วย นี่มันเกือบจะเหมือนกับได้นั่งแท็กซี่ในชั่วโมงเร่งด่วนเลยแหละ ถ้ามีผู้หญิงสวยๆมาถกกระโปรงโชว์ขาอ่อน เธอคนนั้นสามารถขึ้นแท็กซี่ได้อย่างง่ายดายเชียวละ”
‘ฟรอสท์’ถึงกับสตันในคำพูดของผมและถามออกมาว่า
“อะไรคือชั่วโมงเร่งด่วนงั้นรึ?”
“แม้ว่าผมจะบอกคุณไป คุณก็คงไม่เข้าใจหรอก…”
“ถ้าเจ้าไม่บอกข้า แล้วข้าจะเข้าใจได้ยังไงกันเล่า!”
“มันก็…มันก็เป็นช่วงเวลาที่เหมือนกันว่าตอนช่วงเริ่มเปลี่ยนกะการลาดตระเวนของเมืองมังกรอะนะ ซึ่งตอนนั้นน่ะในเมืองมันจะวุ่นวายมากๆและมีคนเดินรอบๆอยู่เต็มไปหมด..”
“อ้อ มันเหมือนกับช่วงเวลาเปลี่ยนกะสินะ..”
“นั่นละ…”
…..
ข้างหน้า มีเสียงหัวเราะของผู้หญิงลอยมากระทบหูของพวกเราจากปราสาทที่คล้ายคลึงกับพระราชวัง เมื่อ’ฟรอสท์’กับผมเดินเข้าไปในที่แห่งนั้น ก็พบว่ามีม่านบางๆบังสายตาพวกเราเอาไว้อยู่
เหนือบัลลังก์อันยักษ์ใหญ่ ‘เจ้าอ้วนป้าหลิน’นอนอยู่บนนั้นพร้อมกับสองสาววินด์เอล์ฟอยู่ในอ้อมกอดของมัน หนึ่งในนั้นถือถาดสีเงินเอาไว้และกำลังป้อนองุ่นให้กับ’ป้าหลิน’ ขณะที่อีกคนกำลังนวดให้มันอยู่ มือของไอ้อ้วนนั่นกำลังบดขยี้อยู่แถวๆบั้นท้ายของสาวงาม ดวงตาของมันกำลังพริ้มไปด้วยความสุข
“ฝ่าบาท!”
ทหารหัวหน้าหน่วยนายนั้นคุกเข่าอยู่หน้าบัลลังก์และพูดว่า
“ พวกเราพบหญิงสาวที่งดงามเกินจะบรรยายนางหนึ่งที่นอกเมืองและได้นำนางมาที่นี่ ท่านต้องการเห็นนางหรือไม่พะยะค่ะ?”
‘ป้าหลิน’เปิดตาของมันและทันทีที่เห็น’ฟรอสท์’ ร่างของมันสั่นสะท้าน มันลุกขึ้นนั่งและพูดว่า
“พระเจ้า ช่างงดงามอะไรอย่างนี้ เร็ว..เร็วเข้า..”
หัวหน้าหน่วยรู้สึกงุนงง
“ฝ่าบาท ให้รีบทำอะไรงั้นรึพะยะค่ะ?”
“รีบๆถอดชุดเกราะของนางออกซะสิ ข้าต้องการที่จะเห็นเรือนร่างของนาง…”
“รับทราบพะยะค่ะ!”
…..
“ชั่วะ ชั่วะ!”
ลำแสงเยือกแข็งหมุนวนอยู่รอบร่างกายของ’ฟรอสท์’ขณะที่เธอเริ่มเกร็งพลัง “ปัง!” เชือกที่มัดเธออยู่ได้ขาดออก เธอยกมือและยิ้ม
“ป้าหลิน วันนี้จะเป็นวันตายของเจ้าแล้ว เจ้ารู้หรือไม่?”
“เก๊ง!”
ในอีกด้านหนึ่ง ฝักดาบพุ่งออกมาจากโซ่พันธนาการ ทหารที่เฝ้าอยู่พยายามจะจับมันเอาไว้แต่ก็ได้แต่มองดูมันพุ่งออกไปที่ห้องบัลลังก์ พุ่งเข้าสู่มือของ’ฟรอสท์’ที่กำลังรอคอยอยู่
ผมจึงรีบเปลี่ยนชุดด้วยเช่นกัน แล้วดาบจักรพรรดิฉินก็ปรากฏขึ้นที่มือของผมพร้อมกับวาดมืออีกข้างพยัคฆ์เพลิงเทวะก็กระโดดออกมาจากวงเวทย์อัญเชิญมาอยู่ข้างกายผม เสียงคำรามของมันสร้างความหวาดกลัวให้กับเหล่าทหารไร้พ่ายยิ่งนัก พวกมันคล้ายกับจะไม่เคยเห็นสัตว์ที่ดูดุร้ายเช่นนี้มาก่อน
….
“บ้าฉิบบ!”
‘ป้าหลิน’ชกหมัดลงกับพื้นและยืนขึ้นขณะที่มันตะโกนว่า
“ผู้หญิงคนนี้แข็งแกร่งยิ่งนัก นำดาบและชุดเกราะมาให้ข้า วันนี้ข้าจะทำลายดอกไม้นี้ซะ เจ้าสวะนั่นก็ดูแข็งแกร่งไม่น้อย ทหารช่วยกันจับมันไว้ซะ!”
ปล.ไม่สันทัดราชาศัพท์ถ้าแปลกๆยังไงติชมได้ที่ในเพจนะครับ
ที่มา : http://writer.dek-d.com/satawat612/story/viewlongc.php?id=1386416&chapter=240