ตอนที่แล้วตอนต่อไปแปลโดย : Gal2oN
เวลา 1 ทุ่ม ที่คาเฟ่
‘ว่านเอ๋อ’และ’ตงเฉิงเยว่’ทั้งคู่สวมชุดเดรสขณะที่นั่งอย่างเงียบๆอยู่ข้างหน้าผม พวกเธอกัดหลอดดูดและมองมาที่ผมด้วยสายตาที่ว่างเปล่า หลังความเงียบผ่านพ้นไปได้ 5 นาที
ในที่สุด’ว่านเอ๋อ’ก็พูดขึ้นมาว่า
“นายสัญญาแล้วว่าจะมาหาชั้นและตงเฉิงที่เมืองฟ่านชู ทำไมนายถึงเปลี่ยนใจฮะ? ชั้นอุตส่าห์วางแผนว่าจะพานายไปดูห้าสิ่งมหัศจรรย์แห่งเมืองฟ่านชูซักหน่อย…ผาละมั่งเขียวขจี จันทราสนธยา สายธารมัจฉากระโจน สถานที่พวกนี้มันน่าสนใจมากเลยนะ…”
ผมได้แต่พยักหน้าด้วยความรู้สึกผิด
“จริงๆแล้วผมต้องการที่จะไปชมทิวทัศน์ที่เมืองฟ่านชูมากเลยนะ แต่วันนี้ผมมีบางสิ่งที่สำคัญมากๆต้องทำจริงๆ…”
‘ตงเฉิงเยว่’ถาม
“สิ่งสำคัญอะไรถึงทำให้นายกระวนกระวายได้ขนาดนี้ฮะ? แล้วนี่พวกเรากำลังรอใครกันอยู่เนี่ย? ถ้านายไม่บอกชั้น ชั้นจะหงุดหงิดตายแล้วนะ…”
ผมรู้สึกขำ
“เรากำลังรอเพื่อนร่วมงานของผมอยู่นะ เธอจะไปทำภารกิจกับผมด้วยในคืนนี้พวกเราต้องไปสืบสวนอาชญากรรมบางอย่าง”
‘ว่านเอ๋อ’ยกหางคิ้วด้วยความไม่พอใจและถามว่า
“นี่พวกนายกำลังเผชิญหน้ากับใครอยู่เหรอ?”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจริงๆแล้วพวกมันเป็นใคร แต่ว่าพวกเธอยิ่งรู้น้อยเท่าไรยิ่งดีนะ”
“แล้วพวกนายจะไปที่ไหนกัน?”
“ไนท์คลับน่ะ…”
“เฮ้…”
‘ว่านเอ๋อ’หรี่ตา
“นายคงไม่ได้จะไปตกสาวที่นั่นหรอกใช่มั้ย? ตงเฉิงกับชั้นต้องมาเล่น [Destiny] ทั้งวันจนเบื่อจะตายอยู่แล้ว แต่นายยังไม่แม้แต่จะพาพวกเราไปที่ไนต์คลับด้วยเนี่ยนะ…”
ขณะที่มองไปรอบๆผมเขยิบเข้าไปใกล้ๆ’ว่านเอ๋อ’แล้ววางมือของผมลงบนไหล่ของเธอแล้วพูดว่า
“ถ้าผมทำภารกิจนี้เสร็จแล้ว ผมจะมาสนุกกับคุณแน่ๆ ผมสัญญา”
‘ว่านเอ๋อ’หน้าแดงขณะที่เธอพยักหน้าเบาๆ
“โอเคค”
‘ตงเฉิงเยว่’พักหัวของเธอไว้ที่แขน
“โอ้ยย ชั้นทนดูต่อไปไม่ไหวแล้วนะ หยุดกระหนุงกระหนิงกันต่อหน้าชั้นซักทีได้มะ…แล้วนี่ไม่ใช่ว่าพวกเราตกลงกันว่าจะไปที่สวนน้ำซีซีกันเหรอ? นี่มันก็ผ่านมานานแล้วนะ สงสัยเฉาตายหมดแล้วมั้งที่นั่นน่ะ… ”
ผมตอบ
“พวกเราจะไปสวนน้ำกันแน่ๆน่า อย่าใจร้อนนักสิ เห็นช่วงนี้ผมยุ่งมากเหรอ? ตอนนี้ [Zhan Long] เริ่มมั่นคงขึ้นแล้วละเพราะมีเยว่ชิงเฉียนหลี่มู่มัทฉะ แล้วก็คนอื่นๆ ทำให้ผมมีเวลาว่างเยอะขึ้นมากเลย ผมสัญญาหลังจบภารกิจนี้ ผมจะพาพวกเธอไปเล่นด้วยกันนะ…”
“โอเคค นายสัญญาแล้วนะ…”
‘ว่านเอ๋อ’มองมาที่ผมด้วยสายตากังวลอยู่นิดๆและพูดว่า
“แต่..ไม่เอาแบบครั้งที่แล้วนะ ชั้นไม่รู้หรอกนะว่านายกำลังเจอกับใครอยู่ แต่พวกมันจะต้องน่ากลัวมากแน่ๆเลยใช่มั้ย?”
ผมพยักหน้า
“ช่ายย แต่อย่าถามเยอะนักเลย…มันเป็นภารกิจลับน่ะ”
“โอเคค…”
….
ก่อนที่เวลาจะผ่านไปนานกว่านี้ ในที่สุดร่างงามทรงเสน่ห์นางหนึ่งก็เดินออกมาจากเงามืด เฉินปิ่งนั่นเอง เธอมาพร้อมกับชุดเดรสสีขาว ดวงหน้ากำลังพอเหมาะ รูปร่างกำลังดี เธอดูเหมือนเอล์ฟสุดสวยยามค่ำคืนเลยแห่ะ
“ว้าวว ที่นี่มีสองสาวน้อยคนงามอยู่ด้วยแหะ..”
‘เฉินปิ่ง’หัวเราะและเดินเข้ามามองไปที่ว่านเอ๋อและตงเฉิง เธอหยอกว่า
“คืนนี้พี่สาวจะขอยื้มตัวหลี่เซียวเหยาไปหน่อยนะจ๊ะ หวังว่าน้องสาวคนสวยทั้งสองจะไม่โกรธ ฮิฮิ”
ว่าแล้วนางก็เดินมาทางผม จับแขนผมเอาไว้พร้อมกับเบียดตัวเข้ามาราวกับผมเป็นเจ้าของ
….
ตาของ’ว่านเอ๋อ’เบิกกว้าง เธอมองมาที่ผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อถือ นัยน์ตาของเธอพร่ามัวราวกับเธอกำลังจะร้องไห้ เธอหันหลังและไม่มองมาที่ผมอีกต่อไป เอ๋ นี่คุณหนูกำลังหึงอยู่รึเปล่านะ?
หัวใจของผมรู้สึกขัดแย้ง ผมเองก็บอกไม่ถูกว่าผมรู้สึกดีใจหรือถูกรบกวนกันแน่ ผมดึงเฉินปิ่งออก
“นี่พี่เฉินปิ่ง อย่ามาล้อเล่นแถวนี้สิ..”
ผมเดินไปหา’ว่านเอ๋อ’ บีบหัวไหล่เธอและพูดอย่างอ่อนโยนว่า
“รอผมกลับมาอยู่ที่โรงเรียนอย่างว่าง่ายนะครับ ผมจะระวังตัว แล้วก็พี่เฉินปิงเค้าชอบล้อเล่นน่ะ ผมต้องไปกับเธอซักพักนะ อย่าเพิ่งหึงซะละ…”
‘ว่านเอ๋อ’บี้แก้วกระดาษในมือเธอซะเละและกระซิบตอบว่า
“ชั้นเปล่าซักหน่อย…”
ผมมองไปยังน้ำที่กระจายอยู่เต็มพื้น
“ห่ะ ใช่เหรอครับคุณหนู? ถึงกับทำน้ำกระเซ็นเต็มผมไปหมดเลยนะครับ..”
‘ว่านเอ๋อ’ดึงทิชชู๋ออกมาและช่วยผมเช็ดน้ำที่กระจายอยู่เต็มเสื้อเชิ้ตและยิ้ม
“สัญญาแล้วนะ ว่าถ้าเสร็จภารกิจนี้ นายจะต้องพาชั้นกับตงเฉิงไปสวนน้ำซีซี ห้ามกลับคำเด็ดขาด มันจะดีที่สุดถ้านายพาพวกเราไปในวันพรุ่งนี้อะนะ…”
“โอเคครับคุณหนู ผมสัญญา!”
“โอเค! กลับมาเร็วๆนะแล้วก็ระวังตัวด้วยละ…”
“ครับผมม…”
…..
หลังจากพา’ว่านเอ๋อ’และ’ตงเฉิง’ขึ้นบันไดไปแล้ว ผมก็ออกมากับ’เฉินปิ่ง’ เธอขับรถสปอร์ตสีแดงที่เอามาจากสถานีตำรวจ มันจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อเป็นภารกิจพิเศษเท่านั้น แน่นอนมันใช้ได้เฉพาะเจ้าหน้าที่หญิงสวยๆเท่านั้นแหละ ครั้งล่าสุดนี่รู้สึกว่าจะใช้ให้คนสวยๆไปร่วมงานดินเนอร์สุดหรูละมั้ง
พวกเรารอคอยอยู่ในรถซักพักจนเกือบจะสามทุ่มแล้ว’เฉินปิ่ง’ก็ขับรถออกไปจากโรงเรียน พวกเราขับตรงมาที่บลูวอเตอร์สตรีทพร้อมๆกับสายลมที่พัดผ่านพวกเราไป มันเป็นเวลาประมาณ 9.50 ได้ตอนที่พวกเรามาถึง
อา ไนท์คลับกำลังจะเริ่มสนุกกันเลยสินะ หลังจากพวกเราจอดรถเสร็จ’เฉินปิ่ง’ก็จับแขนของผมและยิ้ม
“เฮ้ ที่รักจ๋า พวกเราคงแกล้งเป็นคู่รักไม่ผ่านหรอกนะ ถ้าเรายังทำตัวแบบนี้กันอยู่น่ะ”
ผมไม่มีทางเลือกจึงได้แต่ขยับมือของผมโอบไปที่เอวของเธอ มันก็ไม่ได้รู้สึกเลวร้ายอะไรเท่าไร ‘เฉินปิ่ง’มองมาที่ผมและพูดว่า
“เฮ้ อย่าดูไม่เต็มใจซะขนาดนั้นสิจ๊ะชั้นพยายามมากเลยนะรู้เปล่า? ใครจะรู้ว่ามีพวกเด็กอวดรวยมากแค่ไหนที่ต้องการมาแทนที่ของนายแต่ไม่มีโอกาสน่ะ ดูนายสิหยั่งกับไปกินอึ่งอ่างดิบๆมางั้นแหละ”
ผมขำเล็กน้อย
“นี่พี่สาว อย่ายัดเยียดภาพบ้าๆนั่นมาใส่ในหัวของผมเซ่…”
‘เฉินปิ่ง’หัวเราะและดึงผมเข้าไปในไนต์คลับ พวกเรานั่งที่ธรรมดาพร้อมกับสั่งเบียร์และกับแกล้มมาประมาณ 700 หยวน
ระหว่างนั่งฟังเสียงเบสไปพลาง ผมก็กระจายอวี่ไห้ออกไปรอบๆคอยตรวจสอบว่าที่นี่จะไม่มีผู้ฝึกยุทธ์ป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้ นอกจากคนธรรมดาแล้ว ที่นี่ก็มีพวกวัยรุ่นอวดดีอยู่นิดหน่อย
‘เฉินปิ่ง’ขยับเข้ามาใกล้ผมและคล้องแขนของเธอไว้รอบๆคอของผมและกระซิบที่หูของผมว่า
“เป็นไง? ได้ข้อมูลอะไรรึเปล่า?”
ผมสั่นหัว
“ไม่มีอะ ภายในสามกิโลเมตรนี่ไม่มีพวกร่างสังเคราะห์ ผมไม่รู้สึกถึงพลังพิเศษอะไรเลย”
‘เฉินปิ่ง’ตอบ
“ก็ไม่น่าแปลกใจอะไรอะนะ…พวกมันคงไม่มีเหตุผลที่จะต้องนำอาวุธลับอย่างพวกร่างสังเคราะห์มาที่พื้นที่กิจการของตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้นเป้าหมายของเราในครั้งนี้ก็ไม่ใช่พวกร่างสังเคราะห์ด้วย แต่เป็นรายชื่อต่างหาก”
“โอ้? รายชื่ออะไรงั้นเหรอ?”
“ตามที่วิเคราะห์มา พวกร่างสังเคราะห์โดยทั่วไปแล้วจะเป็นคนธรรมดา พวกมันแค่ถูกฉีดบางอย่างเข้าไปทำให้ดีเอ็นเอของพวกมันเริ่มกลายพันธุ์ คนพวกนี้ก็คือคนที่หายตัวไปหลังจากเข้าไปเกี่ยวข้องกับสถานที่แล้วนี้ อย่างในไนต์คลับนี่ก็มีผู้ชายหายไปอย่างไร้ร่องรอยมากกว่า 10 คนแล้วพวกเราต้องการรายชื่อนี่”
“เราพวกเราจะหารายชื่อนั่นได้ยังไงละ?”
“เจ้าของไนต์คลับนี้ ตงเฟิง จากข่าวที่ได้มาเขาจะมาที่นี่ในคืนนี้พร้อมกับผู้ชายที่ชื่อว่า ดรักลอร์ด(เจ้าพ่อยาเสพติด)”
“ดรักลอร์ดงั้นเหรอ?”
“ใช่ ในหางโจวนี่ เขารับผิดชอบค้าขายยาผิดกฎหมายมากกว่า 40% เพราะงั้นเขาจึงถูกเรียกว่า ดรักลอร์ด ไม่มีใครรู้ชื่อจริงของเขา ยาเสพติดทุกอย่างที่ไนต์คลับนี้มีล้วนได้รับมาจากเขา ตงเฟิงให้คุณค่าคนนี้ๆอย่างมาก ดังนั้นคืนนี้มันจะพาดรักลอร์ดมาที่นี่เป็นการส่วนตัวและเจรจาธุรกิจกัน”
ผมหรี่ตา
“ในอีกแง่ก็คือถ้าเราจัดการตงเฟิงได้ เราก็จะสามารถเอารายชื่อนั่นมาได้สินะ?”
“ก็อาจจะละนะ..”เฉินปิ่งกระพริบตาและหัวเราะคิกคักอยู่ข้างๆหูของผม “ภารกิจของเราในวันนี้ก็คือการจับกุมตงเฟิงอย่างลับๆโดยไม่ให้ใครรู้ แล้วก็…”
“แล้วก็อะไร?”
“แล้วก็…นี่น้องชายอย่าหายใจรดต้นหูพี่สาวสิจ๊ะ พี่สาวชักจะตื่นเต้นแล้วนะเนี่ย…”
“พอเลย….”
….
‘เฉินปิ่ง’หัวเราะแล้วยกแก้วเบียร์ขึ้นมาก่อนจะซัดไปหมดแก้ว เธอมองมาที่ผมและพูดว่า
“เฮ้มีบ๋อยกำลังตรวจสอบนายอยู่จากข้างหลังนะ เขาต้องเป็นคนของตงเฟิงแน่ๆ อย่าทำตัวแปลกๆละทำให้มันเป็นธรรมชาติหน่อย พวกเรามาสนุกกันนะคืนนี้ อย่าทำให้คนอื่นสงสัยเอาละ…”
ผมพยักหน้าและโอบเอวของเธอเอาไว้แล้วซัดเบียร์เข้าไปอีกแก้ว ‘เฉินปิ่ง’ขยับเข้ามาใกล้ผมพร้อมกับริมฝีปากสีแดงสดของเธอ เธอจูบผมอย่างรวดเร็วและหัวเราะ
“ชั้นได้นายแล้วนะ…”
ผมรู้สึกมึนงงและได้แต่ก้มหัวต่ำลง
“มันคงไม่ใช่จูบแรกของนายหรอกใช่มั้ย?”
“ไม่ใช่…”
ผมกำหมัด
“จูบแรกของผมถูกเอาไปแล้วโดยปลาคาร์พ…”
“หา ปลาคารพ์? ยังไงละนั่น?”
“ตอนผมอายุ 17 ผมตามตาแก่ไปฝึกฝนในป่า ในตอนนั้นผมหิวมากก็เลยโดดแม่น้ำเพื่อไปจับปลา ผมกินมันดิบๆแล้วก็เสียจูบแรกไปพร้อมๆกัน…”
“อุ้กก อะเคค….”
….
เสียงดนตรีเริ่มครึกครื้นและเหล่าวัยรุ่นรอบๆพวกเราก็เริ่มดิ้นกันมากขึ้น มีพวกสาวๆกำลังเต้นโคโยตี้กันอยู่บนเวที ทั่วทั้งร้านบ้าคลั่งกันไปหมดแล้ว ผมนั่งดื่มเบียร์อย่างเยือกเย็นขณะที่ก็เล่นหูเล่นตากับ’เฉินปิ่ง’ไปด้วย
ในเวลาเดียวกันผมก็ขยายฮวี่ไห้ออกไป เวลา 11.30 ตาของผมตื่นตัวขึ้นและผมกระซิบไปที่หูของ’เฉินปิ่ง’
“ระวัง ผมสัมผัสได้ถึง พลังพิเศษ 3 อย่างกำลังมาที่นี่ พวกมันคงจะมาทางรถยนต์…”
“อา…”
‘เฉินปิ่ง’พูดเบาๆว่า
“ที่รัก นายสัมผัสถึงพลังพิเศษของคนอื่นได้ แล้วตัวนายละ? ชั้นได้ยินจากหวังซิ่นว่าเวลานายออกไปทำภารกิจ นายมักจะปล่อยพลังยุทธ์ออกไปเหมือนกัน พวกนั้นมันจะรู้การคงอยู่ของนายได้เหมือนกันรึเปล่า?”
ผมหัวเราะ
“ไม่ต้องกังวล ทุกคนที่อยู่ในระดับรอยัลแอร์หรือสูงกว่าจะสามารถซ่อนพลังยุทธ์ได้ นอกซะจากว่าผมจะสู้กับคนอื่น พวกเขาไม่สามารถตรวจจับผมได้ แน่นอนว่าถ้าพวกเขามีระดับการฝึกฝนสูงกว่าผม พวกเขาก็จะสามารถรับรู้ถึงผมได้ มิฉะนั้นแล้วผมก็จะสามารถรู้สึกถึงพลังของพวกเขาได้ในขณะที่พวกเขาไม่รู้สึกถึงผม”
‘เฉินปิ่ง’พูดอย่างราบเรียบว่า
“แล้วนายคิดว่าจะมีคนที่แข็งแกร่งกว่านายมั้ย?”
“มีสิ แต่พวกเก่งๆเค้าจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับธุรกิจค้ายาหรอก ไม่ต้องกังวล!”
“อา…”
….
จากนั้นไม่นาน ก็มีกลุ่มคนเดินเข้ามาในไนต์คลับ ทุกคนสวมชุดลำลอง หัวหน้าของพวกมันดูคุ้นเคยอย่างประหลาด เขามีรอยแผลเป็นจากมีดอยู่ 3แห่งบนแก้มข้างขวา แต่…แต่ผมกลับจำไม่ได้ว่าผมเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อนนะ!“นั่นคือตงเฟิง…”
‘เฉินปิ่ง’แกล้งทำเป็นเมาขณะที่เธอกอดผมอย่างกระหนุงกระหนิง ฉวยโอกาสกระซิบมาที่หูของผม
ผมไม่ได้สนใจเสน่ห์อะไรของเธอนัก ตาของผมมองกวาดไปที่กลุ่มนั้น ข้างหลัง’ตงเฟิง’มีบอดี้การ์ดสองคนตามหลัง จากท่าทีไม่กระวนกระวายและดูเยือกเย็นของมันแล้วนั้น ดูท่าจะเป็นพวกร่างสังเคราะห์ ส่วนตงเฟิงจะเป็นด้วยรึเปล่านั้น ผมคิดว่าเขาคงเป็นนะ แต่ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
“พวกมันกำลังขึ้นบันไดไปแล้ว…”
ผมพูด
‘เฉินปิ่ง’กระซิบ
“อา นั่นไม่ใช่ปัญหาหรอก พวกเราจะไปที่ห้องน้ำแล้วก็ตรงไปที่ชั้นสอง พวกเราจะไปจัดการมันที่นั่น!”
“จัดไป!”
อย่างไรก็ตามตอนนี้ มีมือหนึ่งวางมาที่ไหล่ของ’เฉินปิ่ง’ เสียงหื่นๆหัวเราะขึ้น
“เฮ้ น้องสาวคนนี้ดูดีจังเลย มาเล่นกับพี่ซักแป๊ปมั้ยจ๊ะ?”
ที่มา : http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1386416&chapter=244