ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปแปลโดย : Gal2oN
เวลาราวๆเที่ยงคืน ผมกลับไปถึงมหาวิทยาลัยหลิวหัวและกำลังยืนอยู่ด้านหน้าหอหญิง ผมโทรหา’ว่านเอ๋อ’และหลังจากเสียงโทรศัพท์ดังซักพัก ผมก็ได้ยินคำรามของมอนสเตอร์ อืมมม ชัดเจน เธออยู่ในเกมแหะ—-
“ว่านเอ๋อ ผมกลับมาถึงมอแล้วนะ”
“โอเค ตงเฉิงกับชั้นกำลังเก็บเลเวลกันอยู่ นายอยู่ที่ไหนอ่ะ?”
“ผมอยู่ด้านล่างของหอหญิงน่ะ”
“รอชั้นแป๊ปนึงนะ เดี๋ยวชั้นจะรีบออฟไลน์แล้วเราออกไปหาอะไรกินกัน ชั้นมีอะไรจะบอกนายด้วยละ…”
“ตกลง!”
…..
ไม่นานนักสองสาวก็เดินลงมาจากบันได เคอร์ฟิวกำหนดไว้ถึงเที่ยงคืน ดังนั้นสองสาวกำลังแหกกฎอยู่แต่ดูท่าพวกเธอจะไม่ได้สนใจอะไรเท่าไร
‘ว่านเอ๋อ’วิ่งมาหาผมแล้วมองอย่างระมัดระวังหลังจากแน่ใจว่าผมกลับมาครบ 32 เธอจึงถามว่า
“เป็นไงบ้าง? นายทำงานสำเร็จเรียบร้อยรึเปล่า?”
ผมพยักหน้าและพูดว่า
“ไม่มีอุปสรรคเลยซักกะติ๊ด ไปหาอะไรกินกันเถอะ!”
“อะเคค”
สิบนาทีต่อมา พวกเราก็มาถึงร้านมิดไนท์ไบท์ที่เป็นภัตคารเล็กๆในมอ พวกเราสั่งเคบับแกะ 20 ชิ้น เคบับผัก 20 ชิ้น แล้วก็หอยนางรมอบอีกคนละสองชิ้น มองไปที่อาหารที่มีควันลอยฟุ้งอยู่ข้างหน้า รู้สึกพูดไม่ออกเลยแหะ ผมจึงมองไปที่สองสาวแล้วพูดว่า
“นี่พวกเธอกินกันขนาดนี้ไม่กลัวอ้วนกันเหรอฮะ?”
‘ว่านเอ๋อ’เปิดฝาเบียร์เสร็จก็เงยหน้าขึ้นมาและพูดว่า
“ไม่นิ ชั้นเป็นพวกกินเท่าไรก็ไม่อ้วนหรอก…”
“แล้วเธอละตงเฉิง?”
‘ตงเฉิงเยว่’เชิดอกขึ้นและพูดว่า
“ชั้นก็ไม่มีปัญหา กินเยอะไปก็ไม่มีอะไร ต่อให้อ้วนขึ้นมันก็ไปลงที่นมชั้นอยู่ดี ดังนั้นชั้นจะต้องกินเยอะๆ จะได้ตามว่านเอ๋อทัน…”
ผมมองไปที่หน้าอกของสองสาวแล้วก็หัวเราะและพูดว่า
“ผมละก็กลัวว่ามันจะยากหน่อยอะนะ ฮาฮ่าฮ่า”
‘ตงเฉิงเยว่’ร้อง
“ชิ ไปตายเลยไปป นายไม่เข้าข้างชั้นซักนิดเลยอ่ะ ฮืออ”
ผมเทเบียร์ใส่แก้วแล้วพูดว่า
“ทำไมผมต้องเข้าข้างเธอด้วยละ? ผมไม่เห็นจะได้ประโยชน์อะไรเลยถ้าทำงั้น…”
‘ตงเฉิงเยว่’ยิ้มและพูดว่า
“หมายความว่าไงยะ? ถ้านายเข้าข้างชั้น นายก็จะได้รางวัลเป็นการรู้จักสาวสวยสองคนที่มีหน้าอกคัพ 34D เลยเชียวนะ นายไม่คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีมากๆรึไง?”
มุมปากของผมบิดเบี้ยวแล้วผมก็พูดว่า
“พอเถอะ เธอน่ะ…”
สายตาของตาลุงที่นั่งอยู่ใกล้ๆเบิกกว้างเพราะได้ยินเสียงที่เราคุยกัน เขาเกือบน้ำลายไหลอยู่แล้ว ตรงกันข้าม ‘ว่านเอ๋อ’ยังคงนั่งกินต่อไปอย่างใจเย็น เธอคงเคยชินกับนิสัยติ๊งต๊องของ’ตงเฉิงเยว่’ไปแล้วแหละ
“ทำไมคุณหนูไม่บอกผมตอนนี้เลยละครับ? ว่านเอ๋อบอกว่าว่าเธอมีบางอย่างที่สำคัญจะบอกผมนี่นา ผมหวังว่ามันคงไม่ใช่แค่ว่าให้พาพวกเธอออกมาหาอะไรกินกับขยายหน้าอกของพวกเธอกันแค่นั้นหรอกนะ?”
“ไม่ใช่ย่ะ!”
‘ว่านเอ๋อ’ซัดเบียร์ที่เหลือของเธอจนหมด
“30 นาทีที่แล้ว [Destiny] ปล่อยประกาศออกมาว่าทัวร์นาเม้นท์แรกของเซิฟเวอร์จีนจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ชั้นได้ยินว่ากิจกรรมนี้จะมีชื่อว่า “Rise of the Heroes[กำเนิดเหล่าวีรบุรุษ] ล่ะ แล้วมันก็ยังถูกเรียกว่าการแข่งขันของวีรบุรุษด้วย เหล่าผู้เล่นจากทั้งสามเมืองจะเข้าแข่งขันกันและสามคนสุดท้ายจะเป็นผู้ชนะ ชั้นได้ยินมาว่าของรางวัลมันสุดยอดสุดๆเลยละ!”
“เหล่าผู้เล่นจากทั้งสามเมืองจะแข่งขันกันเองเพื่อชิงอันดับทั้งสาม ของรางวัลมันก็คงถูกลือว่าโคตรสุดยอดอยู่แล้วล่ะนะ”
ผมอดไม่ได้ที่จะยิ้มและพูดว่า
“งั้นเหรอ? แล้วมันแข่งขันกันยังไงละครับ? 1-1 หรือเป็นทีม?”
‘ตงเฉิงเยว่’หัวเราะ
“กิจกรรมกำเนิดเหล่าวีรบุรุษนี่จะเป็นการต่อสู้แบบ1-1นะ เพราะงั้นมันคงจะเป็นโลกของพวกเมจ นักดาบ นักฆ่า และก็อาเชอร์แหงๆ* นี่ยังไม่นับว่าเมจคลาสสามจะสามารถใช้ [โดดทะลุมิติ][Dimensional Leap]ได้สามครั้งอีก ชั้นว่าพวกนี้จะเป็นพวกที่มีโอกาสชนะมากที่สุดแล้วละนะ แน่นอนว่ามันก็ขึ้นอยู่กับคู่ต่อสู้ด้วยแหละ ตอนนี้นายเองก็เป็นนักดาบระดับท็อปแล้ว คงมีแค่เมจไม่กี่คนหรอกที่จะเอาชนะนายได้ใช่มั้ย? ”
*Gamer Note : ปกติแล้วพวกคลาสที่ไม่ใช่สายทำดาเมจมักจะสู้แบบ 1-1 ได้กากมาก
“1-1 งั้นเหรอ…”
ผมพึมพำกับตัวเอง
“นี่เป็นโอกาสที่เยี่ยมยอดมากเลยนะ มันจะเริ่มขึ้นเมื่อไรละเนี่ย?”
“รอบคัดเลือกจะเริ่มขึ้นในตอนบ่ายอีกสามวันข้างหน้าและนายก็สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ แต่ว่ามีค่าลงทะเบียน 1G นะ…”
“นั่นมันไม่แพงเท่าไรนะ มันเป็นตัวเลือกที่ดีเลยแหละ…”
‘ว่านเอ๋อ’ยิ้มมาที่ผมและถามว่า
“เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับอะไรงั้นเหรอ?”
“Rise of the Heroes นี่จะเป็นโอกาสครั้งยิ่งใหญ่สำหรับทุกคนไงละ โดยเฉพาะผมไม่ว่าผมจะแข็งแกร่งแค่ไหนแต่ก็ได้แค่ชื่อว่าเป็นม้ามืดแห่งเมืองป้าหวง แม้ว่าผมจะเอาชนะเจียนเฟิงหานได้มาก่อนก็ไม่มีใครคิดว่าผมแข็งแกร่งกว่าเขาเพราะชื่อเสียงที่เคยมีมา ดังนั้นถ้าผู้คนเห็นว่าผมเอาชนะคนเก่งในทัวร์นาเม้นท์ได้ก็จะไม่มีใครสงสัยในฝีมือของผมอีก แล้วผมก็จะกลายเป็นคนดังในชั่วข้ามคืน!”
นัยน์ตาคู่สวยของ’ว่านเอ๋อ’จับจ้องมาที่ผมขณะที่เธอยิ้มว่า
“ขอให้โชคดีนะ! ทั้งตงเฉิงกับชั้นก็เหมือนกัน พวกเราต้องการพิสูจน์ตัวเองในทัวร์นาเม้นท์นี้เช่นกัน”
ผมพยักหน้าและพูดว่า
“แย่จังที่พวกเธอทั้งสองคนยังอยู่ [Hero’s Mound] ไม่งั้นแล้วพวกเธอคงจะได้เข้าร่วมในฐานะ [Zhan Long] แล้วละ”
“มันโอเคน่า พวกเราจะย้ายกิลด์เร็วๆนี้แล้วละ…”
‘ว่านเอ๋อ’เม้มริมฝีปากแล้วยิ้มและพูดว่า
“หืมม ชั้นได้ยินว่าในฟอรั่มของ [Zhan Long] มีเพจใหม่ที่เรียกว่า ‘Zhan Long Hall’อยู่ด้วยนิ แล้วนายที่เป็นคนก่อตั้งกิลด์ก็เป็นคนเดียวที่ได้อยู่ในนั้น ถ้าตงเฉิงกับชั้นเข้ากิลด์พวกเราจะสามารถอยู่ในหอเกียรติยศนั้นได้ด้วยรึเปล่า?”
ผมอดไม่ได้ที่จะหัวเราะและพูดว่า
“คุณหนูชางถงของเราสนใจอะไรพวกนี้ด้วยเหรอครับเนี่ย?”
“แน่นอนสิยะ ชั้นสนใจ…”
‘ว่านเอ๋อ’หน้ามุ่ยและพูดว่า
“ชั้นไม่อยากจะแพ้เยว่ชิงเฉียน เยว่เว่ยเหลียง หรือมัทฉะหรอกนะ ทีนี้ชั้นจะสนใจได้ยัง?”
ผมกลั้นหัวเราะและพูดว่า
“ตกลงครับ ขอให้โชคดีนะว่านเอ๋อ มันมีตั้งหลายทางที่จะเข้าหอคอยเกียรติยศ เธอแค่ทำอะไรซักอย่างที่ยิ่งใหญ่และมีคุณค่าก็พอ เช่น เธอนำกองทัพไปสู้แล้วชนะ หรือฆ่าบอสที่ฆ่าได้ยากก็ได้ หรือได้อันดับดีๆในการแข่งกันใหญ่ๆ ก็สามารถสมัครเข้าหอคอยเกียรติยศได้แล้ว เธอสามารถแสดงความสามารถของเธอในทัวร์นาเม้นที่กำลังจะจัดขึ้นได้ด้วยเช่นกันนะ ถ้าเธอเป็นตัวแทนของ [Zhan Long] แล้วสามารถชิงอันดับท็อปสามมาได้ผมก็ไม่มีปัญหาที่จะให้เธอเข้าหอคอยเกียรติยศหรอกนะ แต่ยังไงเธอก็จำเป็นต้องให้เยว่ชิงเฉียน หลี่มู่ ซ่งหานยอมรับซะก่อนละนะ”
“ตกลง…”
‘ว่านเอ๋อ’ก้มมองไปที่เนื้อบาร์บีคิวบนจานของเธอแล้วเธอก็ยิ้มและพูดว่า
“งั้นชั้นจะตั้งใจให้ได้อันดับดีๆในการแข่งขันนี้นะ ถ้าชั้นทำได้ดีละก็ชั้นจะสามารถเข้าหอคอยเกียรติยศได้เมื่อชั้นเข้ากิลด์ใช่มั้ย?”
“แน่นอนสิครับ!”
“โอเคค! ตกลงแล้วนะ!”
“คร้าบบ”
ผมยื่นมือออกไปและทำไฮไฟว์กับ’ว่านเอ๋อ’ แต่มือของพวกเรากลับไม่แยกออกจากกัน เธอจับมือของผมเอาไว้แทน ส่วนผมก็บีบมือกลับไป มือของเธอเย็นเล็กน้อยแหะ
“หืมม…?”
‘ว่านเอ๋อ’เงยหน้าขึ้นมามองผม นัยน์ตาของเธอเต็มไปด้วยความไร้เดียงสาราวกับว่าเธอไม่เคยเห็นด้านมืดของโลกใบนี้ ใบหน้าของเธอดูแปลกใจขณะที่เธอพูดว่า
“นี่ตาบ้า ทำไมนายไม่ปล่อยมือยะ? ตงเฉิงหมอนี่เอาเปรียบชั้นอีกแล้วอ้า…”
‘ตงเฉิงเยว่’กำลังต่อสู้อยู่กับหอยนางรมของเธอตอนที่เธอพูดว่า
“พี่เซียวเหยาเอาเปรียบเธองั้นเหรอ? แหม ชั้นไม่เห็นจะสนใจเลย ว่านเอ๋อเธอควรจะดีใจมากกว่านะ…”
‘ว่านเอ๋อ’พูดไม่ออกเลยทีเดียว
….
แล้วตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น มันขึ้นชื่อว่า ‘เยว่ชิงเฉียน’—-
“ฮัลโหล ชิงเฉียนเหรอ?”
“พี่เซียวเหยา!”
“ว่าไงครับ? ทำไมโทรมาดึกจังเลยละ?”
“แน่นอนค่ะ มันเป็นเรื่องสำคัญนี่นา พรุ่งนี้หนู น้องสาวกับแม่จะไปเที่ยวที่หางโจว หนูอยากจะถามว่าพี่มีเวลาพาพวกหนูออกไปเล่นมั้ยเอ่ย พี่เคยพูดว่าจะพาหนูไปสวนน้ำซีซีนะคะ…”
ผมรู้สึกพึงพอใจที่ได้ยินข่าวของเธอและรีบพูดว่า
“ตกลง นี่พี่ ว่านเอ๋อกับตงเฉิงก็กำลังวางแผนจะไปสวนน้ำซีซีอยู่พอดี ทำไมเธอไม่พาเว่ยเหลียงมาด้วยกันเล่า?”
“โอเคค่ะ งั้นพวกเรามาเจอกันที่ประตูทางเข้าด้านหน้าของสวนน้ำตอนบ่ายโมงดีมั้ยคะ?”
“ตกลง พวกเราจะได้เรียกกันได้ตอนถึงเวลาแล้วอะนะ!”
“ค่า! แล้วพี่ชอบผู้หญิงใส่เสื้อผ้าสีอะไรคะ?”
“สีฟ้าจ้า!”
“เข้าใจแล้วค่ะ งั้นหนูจะใส่เดรสสีชมพูนะ!”
“เอิ่ม อะเคคค…”
….
หลังจากวางสาย ผมก็อธิบายสถานการณ์ให้กับสองสาวฟัง และพวกเธอก็ร่าเริงอย่างมากที่จะได้ออกไปด้วยกัน พวกเธอไม่ได้รู้สึกถูกคุกคามแต่อย่างใดเพราะทั้งคู่นั้นเป็นสาวสวยวัยยี่สิบแล้ว
ขณะที่’เยว่ชิงเฉียน’กับ’เยว่เว่ยเหลียง’ยังเป็นแค่สาวน้อยวัยสิบเจ็ด ดังนั้นพวกเธอจะไม่มีทางแพ้ในชีวิตจริงเป็นแน่ อย่างน้อยพวกเธอก็มีความมั่นใจอยู่บ้างละนะ
ยังไงก็เหอะทั้งสองคนนี้ต่างเป็นที่รู้จักในฐานะผู้หญิงที่สวยที่สุดในมหาวิทยาลัยหลิวหัวเลยนะ มีแต่สวรรค์เท่านั้นแหละที่จะรู้ว่าพวกเธอมีอีโก้ต่อรูปลักษณ์ของพวกเธอมากแค่ไหน
วันต่อมาผมไปเก็บเลเวลที่หุบเขาเพลิงศิลา [Firestone Canyon] จนถึง 11 โมง หลังจากนั้นผมออกไปกินข้าว แล้วก็กลับมาลงทะเบียนตอนเที่ยงตรงทันที
เมืองป้าหวงเต็มไปด้วยผู้คนมากมายเพราะ NPC ผู้รับลงทะเบียนของกิจกรรม Rise of the Heroes จะเกิดในแต่ละเมือง การ์ดทั้งหลายแหล่ต่างสวมชุดหลากสีราวกับว่าที่นี่งานแต่งอยู่ ฝูงชนรวมตัวกันอยู่รอบๆพวกเขา มีผู้เล่นมากมายเลยสินะที่อยากจะลงทะเบียนในบ่ายนี้
ผมเองก็เห็นคนคุ้นเคยอยู่หลายคนเช่น ‘หลี่มู่’ ‘ถังเสวี่ย’ ‘เจียนเฟิงหาน’ ท่ามกลางผู้คนที่กำลังรอลงทะเบียน
TL Note : งานแต่งงานของจีนมักจะมีธรรมเนียมใช้เสื้อผ้าที่มีสีสันและใช้เครื่องแต่งกายสีแดงเพราะเชื่อว่าจะนำโชคดีมาให้ เลยมาประยุกต์ใช้กับงานอีเว้นท์ใหญ่ๆเช่นทัวร์นาเม้นหรือการแข่งขันต่างๆ
ท่ามกลางทะเลแห่งฝูงชน ‘ฮั่นเป่ยสง’ [Han Bei Song] กำลังถือดาบยาวของเขาขณะที่ถูกผลักไปรอบๆราวกับคลื่นซัด เขาทำทุกอย่างด้วยพลังที่มีเพื่อจับ Who’s Blue [ฉุยฉี่หลานซื่อเต่อ] เอาไว้เพื่อไม่ให้หญิงสาวปลิวหายไป
เมื่อเขาแน่ใจว่าหญิงสาวปลอดภัยแล้วก็ดันตัวเองออกมาข้างหน้าและตะโกนว่า
“เฮ้ ท่านหัวหน้ากิลด์เซียวเหยา นายก็เข้าร่วมกิจกรรมนี้ด้วยเหมือนกันเหรอ?”
ผมพยักหน้าและพูดว่า
“ช่าย ผมจะพลาดทัวร์นาเม้นท์ใหญ่ๆแบบนี้ไปได้ไงกันเล่า? ผมได้ยินมาว่าของรางวัลมันสุดยอดเลยนี่นา..”
หน้าของ’ฮั่นเป่ยสง’แข็งกระด้างขณะที่เขาพูดว่า
“บ้าจริง ถ้านายเข้าร่วมด้วยแบบนี้อันดับของชั้นก็ร่วงกราวเลยน่ะสิ ชั้นอุตส่าห์ตั้งเป้าหมายไว้ที่อันดับท็อป16 เลยนะ ชั้นหวังว่าพวกเราจะไม่มาเจอกันเองก่อนรอบ 16 คนสุดท้ายนะ มิฉะนั้นการตายด้วยฝีมือของเพื่อนตัวเองนี่คงเลวร้ายสุดๆ”
“อย่ากังวลไปเลยน่า มันคงไม่ทำร้ายหัวใจพวกเราขนาดนั้นหรอก!”
“อ่าห้ะ งั้นไว้เจอกันในรอบท็อป 16 นะเพื่อน…”
“ฮ่าฮ่า งั้นผมขอให้นายโชคดีในการไต่สู่อันดับท็อป16นะ…”
“ขอบใจ! ชั้นบอกได้เลยว่านายหมายความว่าแบบนั้นจริงๆ…”
“หูนายนี่ดีจริงๆเลยแหะ…”
“ไปไกลๆเลย!”
…..
ในที่สุดผมก็ใช้ความแข็งแกร่งผิดมนุษย์ของตัวเองฝ่าเข้ามาหา NPCs ได้และหยิบเงิน 1G ออกมาเพื่อลงทะเบียน ลุงรับลงทะเบียนหัวเราะและพูดว่า
“เอาละ เซียวเหยาจื้อไจ้ ยินดีด้วยที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของผู้แข่งขันทัวร์นาเม้นท์นี้ ขอให้โชคดีและหวังว่าเจ้าจะสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับเมืองป้าหวงได้!”
การลงทะเบียนสำเร็จ ได้เวลาออฟไลน์แล้ว!
ผมวิ่งตรงไปที่หอพักหญิงที่ซึ่ง’ว่านเอ๋อ’และ’ตงเฉิงเยว่’กำลังรอคอยอยู่ พวกเราทั้งสามคนขับรถ TT และมุ่งหน้าสู่สวนน้ำซีซี
เวลา 12.50 พวกเรามาถึงสวนน้ำและเข้าไปจอดรถแล้วเดินไปที่ประตูหน้าด้วยกัน
วันนี้มีคนมาเที่ยวเยอะเลยทีเดียวและท่ามกลางผู้คนเหล่านี้ก็มีสาวสวยอยู่ไม่น้อย แต่ด้วยว่านเอ๋อกับตงเฉิงเยว่ข้างๆผม สาวๆเหล่านั้นก็ดูขี้เหร่ไปโดยปริยาย ผมกลายเป็นจุดสนใจอย่างมากโดยเฉพาะพวกนักท่องเที่ยวหนุ่มๆทั้งหลายแหล่แต่ละคนดูเหมือนอยากจะฆ่าผมกันซะอย่างงั้น
ผมกระวนกระวายเล็กน้อยและพูดว่า
“ชิงเฉียนบอกว่าเธอเปลี่ยนรูปลักษณ์ในเกมนิดหน่อย แต่ผมไม่รู้ว่าชีวิตจริงๆหน้าตาของเธอจะเป็นยังไงอ้ะ…”
‘ว่านเอ๋อ’ยิ้มบางๆและพูดว่า
“เธอจะต้องน่ารักมากแหงๆ ดูนั่นสิ นั่นใช่เธอรึเปล่า?”
ผมมองตามไปและก็เจอเด็กผู้หญิงคนหนึ่งในชุดกระโปรงสีชมพูและเสื้อเชิ้ตสีขาว เธอน่ารักสุดๆเลยละ ด้วยแก้มละเอียดอ่อน ผมยาวสวย ขาเรียวบาง มองแค่ครั้งเดียวก็บอกได้เลยว่าเธอจะต้องโตเป็นสาวสวยแน่ๆ
แล้วผมก็ยังพบว่าเธอถือแตงกวาและมีเสียง “กรุบ กรุบ” ด้วย เมื่อเธอมองขึ้นมา คิ้วเรียวบางของเธอก็ขมวดขึ้นมาทันทีแล้วเธอก็พูดว่า
“นั่น ทำไมพี่เซียวเหยาไม่มาทางนี้ละคะ!?”
ผมสะดุ้งแล้วพูดว่า
“เวร นั่นชิงเฉียนนี่นา แล้วไอ้แตงกวานั่นมันอะไรกันวะเนี่ย !?”
ที่มา : http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1386416&chapter=246