ตอนที่แล้วตอนต่อไปแปลโดย Kradiz
ในที่สุดผมก็ตัดสินใจเดินเข้าไปหาพวกเธอ เมื่อผมเดินไปยืนเบื้องหน้าพวกเธอ เธอก็มองมายังผมด้วยแววตาตกใจ ดวงตาคู่งามของเธอฉายแววตกใจออกมาเล็กน้อย ผสมปนเปไปกับความอาย แต่ไม่นานเธอก็ถามขึ้นอย่างระมัดระวัง
“คุณเอ่อ…..คุณใช่พี่เซียวเหยารึเปล่าคะ?”
ผมยื่นมือออกไปพร้อมกับยิ้มขึ้น
“ผมคือหลี่เซียวเหยา และ ID ของผมคือเซียวเหยาจื่อไจ๋ แล้วคุณละ?”
“ฉัน…”
‘เย่วชิงเชียน’ยื่นมือของเธอออกมาจับกับมือของผม หน้าของเธอแดงขึ้นเล็กน้อยก่อนจะกล่าวต่อ
“ฉันชื่อหนานกงหยงชุน ID เย่วชิงเชียน พี่เซียวเหยา พี่หล่อมากกว่าในเกมอีก….”
ผมถูจมูกของตนเองอย่างเขินๆ ก่อนจะกล่าวต่อ
“อันที่จริง พี่ก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากเลยนะ….ชิงเชียนหิวข้าวรึเปล่า? พี่เห็นเราแทะแตงกวาอันใหญ่ขนาดนั้นกลางถนนแบบนี้…….”
‘เย่วชิงเชียน’เผยรอยยิ้มกว้าง
“แตงกวาช่วยทำให้เราสวยขึ้นนะคะ ยิ่งกินเยอะยิ่งดีคะ….งัม…”
ต่อมอเธอจึงเอียงศรีษะของตนเองเพื่อมองไปยังสาวงามด้านข้างของผม พลางกล่าวด้วยความประหลาดใจ
“ว้าววว สองคนนี้คือ….ชางถ่งกับชางเย่ว??…..เมื่อคิดว่าพี่เซียวเหยามีสาวงามขนาดนี้อยู่ข้างกายแล้วก็…ฮืออ”
‘ว่านเอ๋อ’เดินออกมาพลางกล่าวขึ้น
“ฉันคือชางถง หลินว่านเอ๋อ”
‘ตงเฉิงเย่ว’ยื่นหน้าของเธอออกมาเช่นกัน
“ฉันคือชางเย่ว ตงเฉิงเย่ว”
‘เย่วชิงเชียน’ยื่นมือไปจับมือทั้งสองคนพลางกล่าว
“วันนี้ฉันต้องโชคดีมากแน่ๆ ได้เจอกับสองสุดยอดสาวงามแห่งเมืองฝ่านชู พี่เซียวเหยาน่าจะบอกฉันก่อนนะคะ….”
“อ้ออ…อืมม พี่ลืมไปนะ แล้วเว่ยเหลียงหละ?”
“เธอไปหาซื้อน้ำดื่มอยู่ค่ะ เดี๋ยวก็คงมา”
“อ้อ”
ห่างออกไปไม่ไกล มีใครบางคนร้องเรียกออกมา
“พี่คะ”
ในไม่ช้าเด็กสาวที่สวมชุดเดรสสีชมพูเหมือนกับ’เย่วชิงเชียน’ก็ปรากฏตัวขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นพวกเธอทั้งสองคนยังเหมือนกันเด๊ะๆ อย่างที่คิดพวกเธอเป็นฝาแฝดที่เหมือนกันมากๆ ในชีวิตจริง
“หืออ….”
‘เย่วเว่ยเหลียง’มองมาที่ผม ทันใดนั้นน้ำในมือของเธอก็ร่วงหล่นลงสู่พื้น
“นี่…ใช่หัวหน้ากิลด์ พี่เซียวเหยาใช่มั้ย? โหห หล่อเหมือนในเกมเลย!!”
ผมพยักหน้าพร้อมกับยิ้ม
“สวัสดีตอนบ่าย เว่ยเหลียง”
ทันใดนั้น’เย่วชิงเชียน’ก็เผยรอยยิ้มชั่วร้อยออกมา เธอพุ่งเข้ามาเกาะแขนของผมทันที
“พี่เซียวเหยา หันกลับไปอย่างพึ่งมองนะ เรามาเล่นเกมกันหน่อยมั้ย?”
“หืออเกมส์?”
ผู้คนหลากหลายคนต่างหยุดเดินและจ้องมองสี่สาวงาม ว่าพวกเธอกำลังทำอะไรกันอยู่ ผมหันกลับไปอย่างเหนื่อยใจ
เบื้องหลังของผม ‘เย่วชิงเชียน’และ’เย่วเว่ยเหลียง’กระซิบกระซาบกันเล็กน้อย ไม่นานนัก หนึ่งในพวกเธอก็หัวเราะออกมา
“เอาหละพี่เซียวเหยา หันกลับมาได้เลย”
เมื่อผมหันกลับมา ผมก็เห็นสองสาวยืนอยู่ที่เดิมอย่างอายๆ พวกเธอมองมายังผมพร้อมกับหัวเราะคิกคัก
“พี่เซียวเหยาบอกได้รึเปล่าเอ่ย ว่าคนไหนคือชิงเชียน คนไหนคือเว่ยเหลียง?”
“นี่…..”
ผมพึมพำกับตัวเองก่อนจะเดินเข้าไปใกล้พวกเธอ พวกเธอทั้งสองนั้น คนหนึ่งถือน้ำไว้ในขณะที่อีกคนถือแตงกวา แต่มันคงไม่ง่ายอยากที่คิดแน่ๆ ดังนั้นผมจึงยืนอยู่เบื้องหน้าของพวกเธอพร้อมกับมองเข้าไปที่ใบหน้าของพวกเธอ ผมยิ้มพร้อมกับจับไปที่บ่าของสาวน้อยทางซ้ายก่อนจะกล่าวออกมา
“คนนี้ต้องเป็นชิงเชียนแน่ๆ….”
ตาคู่งามของเย่วชิงเชียนเบิกกว้าง
“นี่…นี่พี่เซียวเหยารู้ได้ยังไงคะ พี่แยกพวกเราสองคนได้ยังไง หนูเห็นพี่แค่มองเองนะ? ต่อให้เป็นคุณลุงของพวกเราก็ไม่สามารถแยกพวกเราสองคนได้เร็วแบบนี้เลย..”
ผมเผยรอยยิ้มเล็กน้อยพลางกล่าว
“แม้ว่าเราสองคนจะเปลี่ยนสิ่งที่ตนเองถือไว้ แต่นะ เย่วเว่ยเหลียงเราไม่สามารถเปลี่ยนแตงกวาชิ้นเล็กๆ บนปากได้หรอกนะ ทีนี้พวกเธอรู้รึยัง ว่าพี่หนะฉลาดมากนะ ฮ่าๆ”
‘เย่วชิงเชียน’ก็หัวเราะออกมาเช่นกัน
“โอเคค่ะ พี่เซียวเหยาวิเศษจริงๆ พวกเราจะเข้าไปกันรึยังคะ? แม่หนูบอกว่า หนูกับเว่ยเหลียงต้องกลับโรงแรมก่อน 6 โมงค่า ไม่งั้นแม่หนูจะออกมาตามหา….”
ผมเดินไปยังที่ขายตั๋วพร้อมกับซื้อมา 5 ใบ และแจกจ่ายมันให้กับแต่ละคน ก่อนที่พวกเราจะเข้าไปยังสวนน้ำซีซีที่พึ่งเปิดใหม่
ภายในนั้นมีคนไม่ค่อยมากนัก เพราะฝนพึ่งหยุดตกไป พื้นหญ้าด้านข้างถนนยังคงเปียกชุ่มอยู่ กลิ่นดินโครนที่เปียกชุ่มในฤดูใบไม้ร่วงลอยตลบอบอวนเข้าสู่จมูกของพวกเรา ซึ่งทำให้พวกเราหลงใหลมันมาก พวกเราใช้ชีวิตในเกมไปหลายเดือนและคลุกฟุ่นคลุกโครนมามากมาย ดังนั้นการที่เรามายังสถานที่อย่างสวนน้ำซีซีนั้น ทำให้พวกเราผ่อนคลายอย่างมาก ดังนั้นพวกเราจึงต้องเก็บเกี่ยวความสุขที่ได้ออกมาเที่ยวข้างนอกอย่างเต็มที่
บนแม้น้ำของสวนน้ำซีซีนั้น มีเรือให้โดยสารเพื่อชมรอบๆ อยู่ แต่พวกเราก็ตัดสินใจไม่นั่งกัน พวกเราพากันเดินบนฝั่งพลางพูดคุยกันเรื่องเกม-‘เย่วชิงเชียน’
“พี่เซียวเหยา พี่รู้เกี่ยวกับกิจกรรม ‘กำเนิดวีรบุรุษ’ รึเปล่า?”
“รู้ซิ พี่ลงชื่อสมัครก่อนมาเนี่ยแหละ แล้วเรากับเว่ยเหลียงหละ?”
“พวกเราลงชื่อเรียบร้อยค่ะ”
‘เย่วเว่ยเหลียง’ยิ้มพลางตอบ
“โรงแรมที่พวกเราอยู่ อยู่ข้างๆ สวนนี้เองค่ะ นั่นไงตรงนั้น อ้อ แล้วก็ตอนนี้พี่เซียวเหยาพี่มีดาบแห่งจักรพรรดิฉิน เกราะมนต์ตราแห่งความพิโรธ และยังมีสัตว์เลี้ยงเป็นเทพพยัคฆ์เพลิงเทวะอีก ของพี่แทบจะครบชุดแล้วนะ หนูว่านี่เป็นโอกาสดีของพี่เลยหละ ถ้าพี่สามารถติดสี่อันดับแรกได้ มันจะช่วยยกชื่อเสียงของกิลด์เราขึ้นอย่างมากเลยทีเดียว”
ผมพยักหน้าพลางยิ้ม
“ไม่ใช่แค่กับพี่หรอกนะ แต่ทั้งเธอและเว่ยเหลียงก็ควรจะใช้ทุกอย่างที่มีเข้าสู้ หากผู้เล่นระดับสูงของกิลด์เราซัก 3-5 คน สามารถติด 15 อันดับแรกได้ ชื่อเสียงของเราจะยิ่งขจรไปไกลเลยทีเดียว ตอนนี้เรายังแค่เป็นที่รู้จักในเมืองป้าฮวง มีเพียงผู้เล่นเล็กน้อยเท่านั้นที่อยู่เมืองอื่นรู้จักเรา”
‘ว่านเอ๋อ’เล่นหญ้าในมือของเธอพลางยิ้มกว้าง
“นั่นมันไม่จริงหรอก ในเมืองฟ่านชูนั้น Zhan Long ค่อนข้างดังทีเดียว อย่างน้อยทุกคนก็รู้ว่า [Vanguard] หนึ่งในสามกิลด์ใหญ่ของเซิฟเวอร์จีนนับ Zhan Long เป็นศัตรูคู่อาฆาต แถมหัวหน้ากิลด์อย่างเซียวเหยาจื่อไจ๋ยังอยู่ในบอร์ด CBN อันดับ 22 แค่นี้ก็ดังพอตัวแล้วนะ”
‘ตงเฉิงเย่ว’หัวเราะคิกคัก
“ใช่แล้ว ความแข็งแกร่งของเซียวเหยานั้นก้าวกระโดดอย่างมาก มากเสียจนไม่มีใครจิตนาการออกทีเดียว ฉันรับรองได้เลย”
‘เย่วชิงเชียน’กล่าวขึ้น
“พี่เซียวเหยานั้นแข็งแกร่งมากนะ และเขายังดูเท่อีกด้วย จากวีดีโอการต่อสู้ทุกอันที่ฉันเก็บไว้ ทุกการต่อสู้มีพี่อยู่แทบทุกครั้ง ตั้งแต่ศึกกับกิลด์ [Wrath of the Heroes] ที่หุบเขากิเลนพฤกษาไปจนถึงสงครามที่เมืองโบราณ ทั้งทักษะและความสามารถการต่อสู้ของพี่เซียวเหยาก็พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ พี่ได้เปลี่ยนจากผู้เล่นธรรมดากลายเป็นผู้เล่นระดับlสูงแล้ว อีกไม่นายพี่เขาจะต้องกลายเป็นผู้เล่นระดับสุดยอดแน่นอน แต่พี่เขากับไม่มีโอกาสให้ได้ก้าวกระโดดสักที…..”
ผมประหลากใจเล็กน้อย
“กระโดดอะไรละนั่น?”
‘ว่านเอ๋อ’ยิ้มขึ้น ส่งผลให้มองเห็นลักยิ้มอันน่ารักของเธอ
“ผู้เชี่ยวชาญทุกคนต่างมีการต่อสู้ไม่ครั้งก็สองครั้ง ที่ประกาศชื่อเสียงของพวกเขา มันเป็นการแสดงความแข็งแกร่งของตัวเองให้โลกได้รับรู้ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อสี่ปีก่อน เจี้ยนเฟิงฮานนั้นกลายมาเป็นคนโด่งดังได้เพราะการต่อสู้ในเกมที่เรียกว่า [Conquest] ในการแข่งขัน NGL World Tournament และเขายังเป็นอันดับหนึ่งในเกมนั้นด้วย อีกตัวอย่างก็เมื่อห้าปีก่อน ฟางเก่อเช่ว เขาสามารถผสมเวทธาตุไฟกับธาตุน้ำแข็งในการต่อสู้ได้ แถมเขายังเอาชนะในแมทที่เป็นไปไม่ได้กับผู้ที่ถูกเรียว่าราชันของเกมเฉินหลินด้วยเลือดที่เหลือเพียงแค่ 1 การต่อสู้ครั้งนั้นส่งผลให้เขามีชื่อเสียงอย่างมาก ตั้งแต่วันนั้นส่งผลให้ทุกคนจดจำชื่อฟางเก่อเช่วได้และเขาก็กลายเป็นตำนาน ส่วนนายนั้น นายแค่ต้องการชื่อเสียงที่สั่นสะเทือนไปทั่วได้อย่าง ฟางเก่อเช่ว Q-Sword หรือว่าเจี้ยนเฟิงฮาน ”
‘เย่วชิงเชียน’อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ
“ว้าววว พี่สาวชางถงเป็นผู้เชี่ยวชาญในประวัติศาสตร์เกมด้วย วิเศษจริงๆ”
‘ว่านเอ๋อ’เริ่มจะเขินอายทันที
“ไม่ใช่หรอก ฉันก็แค่พวกบ้าเกมเท่านั้นเอง เพราะงั้นฉันก็เลยรู้ประวัตินักเล่นเกมนิดหน่อย”
‘ตงเฉิงเย่ว’กล่าวล้อเล่นขึ้น
“อันที่จริงยังมีมากกว่านี้อีกนะ ในเหล่าผู้เล่นระดับสูงของ [Conquest] ว่านเอ๋อกับฉันก็ฝากผลงานไว้ด้วยนะ ในการแข่ง 2016 WGL World Tournament สาวสวยในชื่อ ID เย่วถง เธอได้พิสูจน์ตัวเอง และกลายเป็นสัญลักษณ์ของนักฆ่าด้วยการชนะอสูรสงครามเย่วหยุน หลังจากการต่อสู้ครั้งนั้นเธอก็กลายเป็นสัญลักณ์ของนักฆ่าทั่วทั้งเซิฟเวอร์จีน ฉันไม่ได้พูดอะไรผิดไปใช่มั้ยหละ?”
ใบหน้าของ’ว่านเอ๋อ’แดงก่ำยิ่งขึ้น
“นั่น…นั่น..คนดีๆ เขาไม่คุยโม้กันหรอกนะ”
ผมอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ พลางแหย่เธอเล่น
“ก็ดี งั้นเธอก็ไม่ใช่คนดีซินะ…”
‘ว่านเอ๋อ’แกว่งแขนของเธอมาต่อยผมเบาๆ
“เจ้าบ้า ทำไมนายไม่ช่วยฉัน นายไปช่วยตงเฉิงทำไม…”
ผมจับแขนของเธอพลางกล่าว
“ไม่ใช่หรอก ผมยินดีที่จะช่วยคุณนะ แต่คุณต้องเลี้ยงข้าวพวกเราคืนนี้ โอเคมั้ย?”
“อืออ…”
มือของผมยิ่งจับมือของเธอแน่น ในขณะที่หน้าเธอเริ่มแดงมากขึ้น
“ตงลง ตกลง ฉันเลี้ยงเอง นายก็ปล่อยได้แล้ว ชิงเชียนกับคนอื่นๆ ดูอยู่นะ ฉันจะ..ฉันจะ..”
ผมปล่อยมือเธอออกช้า
“อากาศดีนะวันนี้..”
‘ว่านเอ๋อ’มองขึ้นไปพลางตอบกลับมา
“ใช่ แดดแรงมาก…”
เม็ดฝนเริ่มที่จะไหลรินลงมาบนแก้มของคุณหนู เป็นการตอกหน้าอย่างแรงว่าคำกล่าวเมื่อครู่นั้นเป็นคำโกหก…
……
พวกเราเดินไปด้วยคุยกันไปด้วย ในขณะที่ฝนกำลังรินลงมา ไม่ช้ามันก็กลายเป็นฝนห่าใหญ่ทันที ผมรีบพาพวกเธอไปหาที่หลบฝนอย่างรวดเร็ว
หลังจากหาไม่นาน พวกเราก็เจอเข้ากับร้านน้ำชาแห่งหนึ่ง พวกเราเข้าไปนั่งทันที ไม่นานพนักงานก็มารินน้ำชาให้พวกเรา พวกเราก็หยิบขึ้นมาจิบรับกลิ่นหอมของมันกัน ในขณะเดียวกันผมก็สังเกตเห็นบทกวีที่โด่งดังอยู่บนกำแพง บนนั้นมีตัวอักษรอยู่สองบรรทัดคือ
แม่น้ำหลั่งไหล่สู่ที่อื่นดั่งกลิ่นของแสงจันทร์ที่ล่องลอยไปตามสายลม……
“แม่น้ำหลั่งไหล่สู่ที่อื่น ดั่งกลิ่นของแสงจันทร์ที่ล่องลอยไปตามสายลม”
ผมท่องมันอยู่สักพัก ก่อนจะมองไปยังเย่วชิงเชียนพลางยิ้ม
“ชิงเชียน พี่รู้สึกว่า กลอนสองบรรทัดนี่ ถ้าเราย่อมัน มันมีความหมายเหมือน ID ของเราเลยนะ….”
TL : ชื่อชิงเชียน มีความหมายเหมือนกับบรรทัดแรกของคำกลอน
เธอมองมาที่ผมด้วยรอยยิ้มก่อนจะหัวเราะออกมา
“เจ้าพี่บ้า นี่มันตัดมาจาก เจ็ดบรรทัดสุดท้ายของเปยซง หือๆ…ตอนนั้นหนูยังเด็กมากนะ ดังนั้นหนูไม่เข้าใจมันหรอก หนูแค่เลือกชื่อนี้เพราะว่ามันฟังดูน่ารักดีเท่านั้น หลังจากนั้นน้องสาวของหนูก็เลือกชื่อ เย่วเว่ยเหลียง…”
ผมอดที่จะยิ้มไม่ได้พลางกล่าวอย่างภูมิใจ
“หืมม เยี่ยมจริงๆ เมื่อคิดว่ากิลด์ของเรามีคนแปลกๆ เต็มไปหมดแบบนี้ ทั้งภูมิฐาน ล้ำลึก ทะเยอทะยาน และยังมีคนที่รู้จักประเภณีแบบสุดติ่งอีก…”
ใบหน้าของ’เย่วชิงเชียน’เริ่มจะแดงขึ้น
“พี่พูดกับตัวเองเองเหรอคะ? ฉันไม่เข้าใจเลย….”
‘ตงเฉิงเย่ว’กล่าวขึ้น
“พี่เซียวเหยาก็เป็นแค่ไอ้บ้าคนหนึ่ง……”
……
ไม่นานนักฝนก็หยุดตก หลังจากนั้นพวกเราก็เดินเที่ยวเตร่ไปรอบๆ และท้องฟ้าเริ่มจะมืดขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้นพวกเราก็ออกจากสวนกัน ไปยังร้านอาหารใกล้ๆ อย่างดี้ด๊า
เพราะมี’ว่านเอ๋อ’เลี้ยง หลังจากนั้น พวกเราก็ไปส่ง’ชิงเชียน’กับ’เว่ยเหลียง’ที่โรงแรม พวกเธอมาหางโจวแค่วันเดียวเท่านั้น และจะบินกลับพรุ่งนี้ ผมไม่ได้ล่ำลาพวกเธอมากนัก ทำเพียงเตือนให้พยายามมากๆ ใน การแข่ง ‘กำเนิดวีรบุรุษ’ และช่วยกันแสดงพลังของ Zhan Long ให้คนอื่นๆ ได้รับรู้
ที่มา : http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1386416&chapter=247