ตอนที่แล้วตอนต่อไปแปลโดย Kradiz
การแข่งรอบแรกนั้นจบลงอย่างรวดเร็ว ไม่กี่นาทีต่อมารอบที่สองก็เริ่มต่อทันที รอบนี้ก็ง่ายไม่ต่างกันมากนัก
Xiao Yao Zi Zai [Lv 71 Dragon City Nightwatch] vs Thousand Mile Landscape [Lv 59 Gold Mage]
…… นักเวทที่ยังไม่ได้รับคราสสาม นั่นหมายความว่า ยังไม่มี [กระโดดข้ามมิติ] เพราะฉะนั้นย่อมไม่มีความหมายสำหรับผม นอกจากนี้ผมยังมีพลังป้องกันเวทเพิ่มเติมถึง 119% เพราะฉะนั้นนักเวทธรรมดาย่อมทำอะไรผมไม่ได้ อีกทั้งยังเป็นแค่นักเวทระดับ 59 เพราะฉะนั้นศึกครั้งนี้ตัดสินกันแล้ว!!
ฟุบบบ เมื่อเข้ามายังสนามต่อสู้ ผมก็มองไปยังนักเวทอายุราวๆ 40 ปี เขากำไม้เท้าของตนเองพลางมองมายังผมพร้อมกับยิ้ม
“ไอ้หยา!! ผมไม่คิดเลยว่าจะมาเจอผู้เล่นระดับสูงที่ติดระดับมาสเตอแห่งบอร์ด CBN เซียวเหยาจื่อไจ๋ ผู้อยู่อันดับที่ 22 เฮ้อออ ดูเหมือนว่าผมจะไม่ได้ไปต่อแล้วแหะ…”
ผมหัวเราะเบาๆ
“อย่าไปใส่ใจเลย มาลองให้เต็มที่กันดีกว่า แม้นายจะแพ้ ก็อย่าให้ต้องเสียใจภายหลัง!!”
“อ่า ชั้นก็หวังว่านายจะใช้ทุกอย่างที่นายมีเหมือนกัน…”
“โอเค!”
เมื่อระบบเริ่มนับถอยหลังจนถึง 0 ผมก็พุ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว คู่ต่อสู้ของผมก็ไวไม่แพ้กัน เขารีบร่าย [กรวยน้ำแข็ง] พลางถอยหนี ทักษะนั้นพุ่งเข้าสู่หน้าอกของผมอย่างจัง และลดความเร็วของผมไปเพียง 7.3% เพราะผมกระทบส่วนมากนั้นถูกหักล้างออกไปด้วยต้านทานเวทของผมแล้ว แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ ผลของการโจมตีมัน ‘MISS’ ไป
อันเป็นผมมาจากผลพิเศษของเกราะมนตราแห่งความพิโรธของผมที่มีโอกาศ 30% ที่จะทำให้เวทมนต์พลาดเป้าไป หลังจากนั้นผมก็ก้าวไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว พร้อมกับยกดาบขึ้นแล้วฟาดลงด้วยการโจมตีปกติลงไปที่ลุงคนนั้น ลุงคนนั้นเริ่มยกไม้เท้าของตนเองขึ้นมาป้องกันการโจมตี
เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว ผมก็คิดว่าเซ้นในการต่อสู้ของเขาไม่เลวเลยทีเดียว บางทีเกมก่อนหน้านี้เขาอาจจะเล่นอัศวินหรืออาชีพที่ใช้หอกอื่นๆ แต่น่าเศร้าตอนนี้เขาเป็นนักเวท!!
แก้งงงง สะเก็ดไฟล้อยเคว้งออกมา ผมโจมตีเบาๆ เท่านั้น แต่ลุงแกก็ยังถอยกลับไปไกลพอตัว
เปรี้ยงงง เขาพุ่งเข้าปะทะกับขอบสนามรบและมึนงง ผมสะบัดมือ ปลดปล่อยทักษะ [โลกาสิ้นสูญ] ได้เวลาจบเกมแล้ว!! 4427!
ตัวเลขมหาศาลลอยออกมา ส่วนลุงนั้นก็ได้ในสิ่งที่ลุงต้องการแล้ว! – เป็นการต่อสู้ที่เร็วมาก เขาแพ้ด้วยเวลาแค่ไม่กี่วิเท่านั้น ระบบแจ้งให้ผมผ่านไปยังรอบต่อไปอย่างรวดเร็ว หลังจากออกมาจากสนาม ผมก็ยังได้รับชัยชนะอย่างต่อเนื่องถึง 12 ครั้ง อีกอย่างผมก็ไม่ได้เจอกับคู่ต่อสู้ที่ตึงมือเลย ที่เก่งสุดเห็นจะเป็น นักดาบระดับ 64 หนึ่งใน 13 อินทรีย์ของกิลด์ [Vanguard] อย่างไรก็ตามเมื่ออยู่ต่อหน้าดาบแห่งจักรพรรดิฉินของผม
เขาย่อมไม่มีโอกาสสักนิด แค่ [ดาบตัดมิติ] และ [คอบโบ] ระดับ 8 เขาก็ตายเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้สัตว์เลี้ยงของผมก็เก่งกว่ามาก เจ้าพยัคฆ์น้อยสังหารของผมก็ สังหารแตนยักษ์ของเขาด้วยการโจมตีแค่ครั้งเดียว ฟุบบบ หลังจากที่ผมกลับมาสู่ห้องพัก ‘ชิงเชียน’ก็เข้ามาหาผมพร้อมกับยิ้ม
“ดูเหมือนว่าทุกคนจะทำสำเร็จกันนะ ยังไม่มีใครในห้องนี้แพ้ไปใช่มั้ย?”
“ยังไม่มี…”
‘หลี่มู่’กล่าวยิ้มๆ
“หลังจากนี้ แค่เราชนะอีก 5 ครั้ง พวกเราก็จะเป็นระดับ top 32 แล้ว มาพยายามให้คนในกิลด์ของเราเข้าไปสู่ระดับ 32 กันให้มากที่สุดเถอะ!!”
“อืมมม สู้ให้ถึงที่สุด!!”
……
—— ไม่นานการจับคู่ก็เสร็จสิ้น บางคนดีใจ และบางคนก็ย่อมต้องเสียใจที่ได้เจอคู่ต่อสู้ของตนเอง ดูเหมือนว่า รอบนี้จะตึงมือน่าดู
Xiao Yao Zi Zai [Lv 71 Dragon City Night Watch] vs Don’t be Foolish [Lv 67 Gold Knight]
Fox(หลิวย่ง) [Lv 65 Gold Musketeer] vs Fang Ge Que(ฟางเก่อเช่ว) [Lv 73 Spiritmaster]
Dancing Forest(หลินเสี่ยวอู่) [Lv 66 Gold Archer] vs Jian Feng Han(เจี้ยนเฟิงฮาน) [Lv 70 Gold Swordsman]
……
“บัดซบจริงๆ นี่มันจะคนละระดับเกินไปแล้ว….”
ใบหน้าของเขาแทบจะเขียวคล้ำ
“นี่ชั้นถูกหวยรึไงเนี่ย ที่ได้เจอกับ…..คนที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งเมืองจิวหลี่ ฟางเก่อเช่ว นี่มันอะไรกันวะ…”
“ใจเย็นหลิวย่ง…”
ผมจับไปที่ไหล่ของเขา
“อย่าไปกังวลมาก เดี๋ยวในอีกครึ่งปีก็น่าจะมีการแข่งครั้งใหม่ เมื่อถึงครั้งนั้นนายอาจจะมีโอกาสก็ได้ นอกจากนี้ การได้พ่ายแพ้ภายใต้น้ำมือของฟางเก่อเช่ว ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าอายซักหน่อย เขาไม่ใช่แค่คนที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองจิวหลี่ แต่เขาคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในเกม [Destiny] ผู้ที่อยู่อันดับ 1 ใน CBN เป็นคนที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง…”
‘ว่านเอ๋อ’ที่นั่งอยู่มุมห้องหัวเราะขึ้น
“อันที่จริง ฟางเก่อเช่ว คือสุดยอดนักเวทอย่างแท้จริง ข่าวลือเล่าว่า เขาสร้างทักษะประดิษฐ์ถึง 4 ทักษะ ที่อยู่ในระดับ S หรือสูงกว่านั้น ใครจะคิดหละว่าเขาจะประสบความสำเร็จขนาดนั้น และเขายังมีชื่อเล่นว่า ‘ราชาแห่งเกม’ ‘ราชาแห่งนักเวท’ ‘ราชาแห่ง Destiny’ และอื่นๆ อีกมากมาย น่าเศ้าแทนลุงหลิวย่งจริงๆ ฉันหวังว่าคุณจะอยู่ได้ถึง 10 วินะ…”
‘หลิวย่ง’รู้สึกห่อเหี่ยวทันที
“นี่มันยากเกิ้นนน มือปืนนั้น ไม่มีกันเวท หรือเลือดเยอะ มีแค่ทักษะแกล้งตายอย่าง [หลบรอดหนึ่งวิ] มันคล้ายๆ กับทักษะ [ตกผลึก] ของนักธนู อย่างน้อยมันก็เป็นตัวรับประกันได้ว่า อย่างน้อชั้นก็มีโอกาสรอดถึง 1 วิ..”
ผมใบ้รับประทานทันที
“โชคดีนะ ศัตรูของชั้นคือ Don’t be Foolish เราเคยสู้กันมาก่อนแล้ว ชั้นคิดว่า เขาคงจะมาเอาคืนหละมั้ง ฮ่าๆ…”
‘หลินเสี่ยวอู่’ร้องออกมา
“ฮือๆ ทำไมพวกนายไม่อวยพรให้ฉันโชคดีบ้างหละ คู่ต่อสู้ของฉันคือเจี้ยนเฟิงฮานเลยนะ อ่า!!!! ฉันไม่อยากได้คู่ต่อสู้แบบนี้!!!! ฉันคงต้องลงหลุมไปพร้อมกับลุงหลิวย่งแน่นอนเลย เฮ้อออ”
หน้าของ’หลิวย่ง’ม่วงคล้ำ
“ดูเหมือนว่าชั้นจะได้รับรางวัลเลยแหะ ทุกคนต่างอยากได้ฉันใช่มั้ย?”
‘หลินเสี่ยวอู่’ยิ้ม
“คุณแก่เกินไปค่ะ ฉันไม่อยากแตะต้องคุณหรอก……ถ้าฉันจะสัมพัสใครสักคน ฉันคิดว่า ซงฮานหรือหวางเจี้ยนดีกว่า พวกเขาทั้งยังดูหนุ่ม สูง และหล่อด้วย…”
‘ซงฮาน’กับ’หวางเจี้ยน’หัวเราะในขณะที่ใบหน้าของ’หลิวย่ง’เริ่มจะถมึงถึงมากขึ้น ……
ไม่นานนักรอบที่ 13 ก็เริ่มต้นขึ้น ฟุบบบบ เมื่อเข้ามายังสนามต่อสู้ผมก็เห็น ‘Don’t be Foolish’ ยืนอยู่ต่อหน้าผมแล้ว เขาเช็ดน้ำตาพลางกล่าวออกมา
“ดูเหมือนโชคของชั้นจะเลวร้ายมากเลย ที่มาเจอกับนายแบบนี้ที่นี่….”
ผมหัวเราะ
“มันคือโชคชะตา…..ชั้นจะขอบใจนายมากจริงๆ ที่นายมาเป็นคู่ต่อสู้ของชั้น ถ้าชั้นเข้าสู่รอบ 32 คนสุดท้าย ชั้นจะจำนายไว้ก็แล้วกัน..”
“บัดซบ มาให้ชั้นแทงแกซักแผลสองแผลเถอะวะ”
“พวกเราก็ เพราะเรื่องนั้นอยู่แล้ว”
“……”
นาฬิกาของระบบเริ่มจะนับขึ้นอีกครั้ง
“3!” “2!” “1!”
การต่อสู้เริ่มต้น!!! ผมพุ่งไปด้านหน้ารวมกับลูกธนู การเจอกับอัศวินที่พลังโจมตีไม่สูงแบบเขา ผมแทบจะไม่ต้องกังวลอะไรเลย ด้วยพลังป้องกัน 2800 กว่าของผม ต่อให้เขาอยากฆ่าผม เขาก็ไม่มีทางทำมันได้ อีกอย่างผมยังมีฮิลระดับ 8 อีกด้วย ซึ่งช่วยเพิ่มเลือดให้ถึง 1200 เพราะฉะนั้นการเอาชนะเขานั้นง่ายมาก
เมื่อเห็นผมยกดาบขึ้นมา Don’t be Foolish ก็ใช้ทักษะ [ปราการโล่สวรรค์] ทันที เพื่อรักษาตำแหร่งพร้อมรับการโจมตีของผม ผมลดดาบลงพร้อมกับพุ่งเข้าจู่โจมไปยังร่างของเขาทำดาเมจไป 1982 เพราะไม่มีผลของทักษะ [ฆ่าเพื่อโลหิต] ผมจึงฆ่าเขาไม่ได้ง่ายๆ หลังจากนั้นผมก็ถอยห่างไป 5 เมตร
ก่อนจะรีบหันกลับมาพร้อมกับจู่โจมเข้าด้านหลังของเขาด้วยทักษะ คอมโบระดับ 8
Don’t be Foolish นั้นหันกลับมาช้าไปจึงโดนการโจมตีต่อเนื่องของผมไปถึงห้าครั้งเต็มๆ 871! 904! 887! 924! 1001!
ในช่วงที่เขาโดนโจมตีอยู่นั้นเขาได้ใช้ [สายลมชำระล้าง] เพื่อเพิ่มเลือดให้ตัวเอง 30% ทำให้เขายังไม่ตายในทันที ในจังหวะนั้นเองผมก็รู้สึกเย็นๆ ที่แขนเป็นสัตว์เลี้ยงของเขา ตั๊กแตนตำข้าวน้ำแข็งนั่นเองที่โจมตีผม
“กรรรร” เทพพยัคฆ์พุ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็ว พร้อมกับตะปบเข้าที่หัวของตั๊กแตนตำข้าวตัวนั้น ทำดาเมจไปถึง 3102 ตามติดมาด้วยทักษะ [พยัคฆ์คำราม] สังหารทั้ง Don’t be Foolish และสัตว์เลี้ยงของเขาไป ส่งผลให้ผมก้าวไปสู่การแข่งครั้งต่อไปอย่างง่ายดาย ฟุบบบ หลังจากกลับมายังห้องรอ
ผมก็เจอกับหลิวย่งอยู่ตรงหน้า ผมมองไปยังเขาและเขาก็มองกลับมา
“อะไรวะ ทำไมเร็วแบบนี้?”
ผมถาม ‘หลิวย่ง’ย่นจมูกก่อนจะพึมพำอย่างเศร้าๆ
“อันที่จริงชั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่ชั้นจะใช้ [กระสุนบดบัง] พลังเวทของฟางเก่อเช่วก็พุ่งใส่ชั้นทำดาเมจไปกว่า 4100 มันโหดร้ายมากจริงๆ…”
“แค่ทักษะเดียวเนี่ยนะ 4100 กว่า”
“ใช่”
‘หลิวย่ง’พยักหน้า ฝ่ามือของผมเริ่มชุ่มไปด้วยเหงื่อ
“บ้าจริง ฟางเก่อเช่วน่ากลัวขนาดไหนกันเนี้ย”
‘ว่านเอ๋อ’ปรากฎขึ้นที่ด้านข้างพวกเราก่อนจะกล่าวขึ้นอย่างช้าๆ
“ฉันดูย้อนหลังแล้ว นั่นคือหนึ่งในทักษะประดิษฐ์ของฟางเก่อเช่ว ชื่อว่า [หินน้ำแข็งระเบิด] เป็นทักษะระดับ SS เมื่อใช้จะเกิดแท่งน้ำแข็งขึ้นมาล๊อคเป้าหมายพร้อมกับโจมตีอย่างรวดเร็ว นั่นแหละสาเหตุที่หลิวย่งแพ้เร็วขนาดนั้น ฉันลองตรวจสอบทุกแมทที่เขาต่อสู้แล้ว ทุกครั้งเหมือนกันหมด ยกเว้นพวกอัศวินที่เขาใช้ [หินน้ำแข็งระเบิด] แล้วยังไม่ตาย จะถูกทักษะ [เสาเพลิงน้ำแข็ง] ซ้ำไปอีกที”
ผมตกตะลึงทันที
“ฟางเก่อเช่วสร้างทักษะระดับ SS ได้งั้นเหรอ?”
“ใช่แล้ว ฉันจะโกหกไปทำไม นายจะให้ลูกอมฉันเหรอถ้าฉันโกหก?”
คุณหนูแสนสวบหยอกเย้า ผมกดฟันพลางกล่าว
“ถ้าหากผมสามารถเข้าไปเป็นหนึ่งใน 32 ได้ ผมจะซื้อลูกอมให้คุณละกัน….”
“โอเค นายสัญญาแล้วนะ แล้วฉันจะรอ..”
“อืมมมมมม”
…… ผมหันกลับไปมองที่จออีกครั้ง ‘ชิงเชียน’ได้ขยายจอที่’หลินเสี่ยวอู่’สู้อยู่กับ’เจี้ยนเฟิงฮาน’ขึ้นมา ในสนามต่อสู้นั้น ‘หลินเสี่ยวอู่’กำลังไคต์’เจี้ยนเฟิงฮาน’ด้วยเกาทัณคนจรของเธอ [ศรอุกาบาต] พุ่งเข้าใส่ร่างของเจี้ยนเฟิงฮานอย่างจัง
TL : ไคต์ = Hit and run = ยิงแล้วถอยๆ (คนเล่นเกมโมบ้าจะคุ้นเคยกันดี adc ห้ามยืนนิ่งต้องไคต์ให้เป็นประมาณนั้น)
1672!
“อู้วว เอาเลยหลินน้อย….”
‘หรั่นหมิน’กำหมัดแน่น ผมก็เริ่มที่จะตื่นเต้นไปด้วย บนหน้าจอนั้นแสดงให้เห็นว่า’หลินเสี่ยวอู่’นั้นเลือดยังเต็มอยู่ ส่วน’เจี้ยนเฟิงฮาน’นั้นเหลือเลือดเพียง 25% เท่านั้น แต่หลังจากที่เขาดื่มยาลงไปเลือดก็กลับมาเป็น 80% นั่นต้องเป็นยาที่ซื้อไปจากร้านของเราอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้เสียเปรียบนานนัก หลังจากสละเลือดไปถึง 75% เขาก็สามารถไปถึงตัว’หลินเสี่ยวอู่’ได้ เขาสะบัดดาบเพลิงเมฆาของตนเองปลดปล่อยทักษะ [ผ่ากลางนภา] ออกมาอย่างรวดเร็ว แต่การตอบโต้ของ’หลินเสี่ยวอู่’ก็เร็วไม่แพ้กัน เธอรีบใช้ทักษะ [ตกผลึก] ทันที
จนร่างกลายเป็นผลึกไป ส่งผลให้ทักษะ [ผ่ากลางนภา] ของ’เจี้ยนเฟิงฮาน’พลาดเป้าไป แต่หลังจากที่ผลของ [ตกผลึก] หมดไป ‘เจี้ยนเฟิงฮาน’ก็ใช้ [ดาบผ่ามิติ] พุ่งเข้าใส่หลินเสี่ยวอู่เรียกเลือดของเธอไปถึง 50%
พลางหันกลับมาใช้ทักษะประดิษฐ์ [เผยจุดอ่อน] ส่งผลให้’หลินเสี่ยวอู่’ที่ไม่ทันระวังต้องตายไป …… ตกรอบไปอีกคนแล้ว ‘หลินเสี่ยวอู่’ถูกส่งกลับมายังห้องพัก เธอกระทืบเท้าอย่างรุนแรงด้วยความโกรธ
“อีกแค่นิดเดียว อีกนิดเดียวฉันก็จะชนะแล้ว อ๊า!!!!!”
ผมปลอบเธอ
“เอาน่าครั้งหน้ายังมี…..นี่ก็รอบที่ 14 แล้ว อีกแค่ 4 รอบ พวกเราก็จะได้เป็นหนึ่งใน 32 ทุกคนมาพยายามกันเถอะ”
ที่มา: