ตอนที่แล้วตอนต่อไปแปลโดย Kradiz
“ทุกคน สู้ให้เต็มที่..”
‘ซงฮาน’กล่าวขึ้น
“อีกแค่รอบเดียว พวกเราก็จะเข้ารอบ 32 คนแล้ว นี่มันเหมือนฝันไปเลยนะที่ผมมาได้ไกลขนาดนี้ ผมไม่เคยมาไกลได้ขนาดนี้เลย…..ฮ่าๆถ้าพวกเราอย่างน้อย 5 คน สามารถผ่านเข้ารอบ 32 คนได้ คืนนี้ผมจะเป็นคนเลี้ยงเอง กินอาหารหูหนานหล่ะเป็นไง?”
‘หรั่นหมิน’หัวเราะ
“เยี่ยมม ชั้นจะล้างท้องรอเลยยย!!”
‘ซงฮาน’มองไปยัง’หรั่นหมิน’พลางกล่าว
“หรั่นหมิน นี่ยังไม่แพ้ไปอีกงั้นเหรอ?”
“นี่นายหมายความว่าไงฟะเนี่ย…..”
ผมมองไปยังหน้าจอพลางกล่าว
“คู่ต่อสู้ในรอบต่อไปของเรา ก็เป็นคนในรอบ 64 เหมือนเรา เพราะฉะนั้นอย่าประมาท และมันเป็นรอบสุดท้ายของวันนี้แล้ว ใครจะรู้ว่าเราจะเจอคู่ต่อสู้แบบไหน……แต่ชั้นก็หวังว่าพวกเราจะไม่ต้องมาเจอกันเอง และก็ไม่เจอศัตรูอย่าง ฟางเก่อเช่วQ-Sword แล้วก็ เจี้ยนเฟิงฮาน หละนะ” ตงเฉิงหัวเราะขึ้น “ทำไมฉันถึงรู้สึกตื่นเต้นแบบนี้นะ”
ผมมองไปยังเธอ
“ทำไม?”
เธอยิ้มขึ้น
“เพราะว่าฟางเก่อเช่วQ-Sword เจี้ยนเฟิงฮาน และพวกน่ากลัวคนอื่นๆ แทบจะเป็นพวกระดับตำนานในเกมเลยหละ เมื่อคิดว่า เรามาอยู่ในสนามเดียวกันกับพวกเขา นี่มันหมายความว่า เราจะสามารถสร้างตำนานบทใหม่ได้เลยนะ มันไม่น่าตื่นเต้นรึไง? นายลองคิดดูซิ…..ว่าถ้านายชนะการแข่งครั้งนี้ได้จะเกิดอะไรขึ้น?”
ผมตกใจ
“นี่…จริงๆ ชั้นไม่เคยคิดถึงด้วยซ้ำ ชั้นในฐานะผู้ชนะการแข่งครั้งนี้งั้นเหรอ? นั่นมันเป็นเรื่องที่ยากมากจริงๆ ชั้นไม่อยากจะคิดว่าต้องชนะผู้เล่นขนาดไหนกว่าจะไปถึงจุดนั้นได้..”
‘ว่านเอ๋อ’มองไปที่จอพลางกล่าว
“บางทีนายอาจจะชนะก็ได้ อย่างไรก็ตามนายไม่น่าจะได้เจอฟางเก่อเช่วเร็วนักหรอก เพราะงั้นยังมีโอกาสอยู่ราวๆ 40% ที่นายจะกลายเป็นผู้ชนะได้ ดาบจักรพรรดิฉิน เกราะมนต์ตราแห่งความพิโรธ และเทพพยัคฆ์เพลิงเทวะของนายนั้น แข็งแกร่งอย่างน่ากลัว ยิ่งรวมกับเลือดที่มีมากถึง 6500 ของนาย นายจะสามารถฝ่าฝันมันไปได้ไกลอย่างมาก”
‘เย่วชิงเชียน’ยิ้มกว้าง
“ฉันจะภาวนาให้เราไม่เจอคู่ต่อสู้ที่เป็นคนกันเองนะ เพราะกับคนอื่นฉันอาจจะใช้พลังได้ 100% แต่ถ้าเป็นคนรู้จัก ฉันก็ใช้พลังได้แค่ 50% เท่านั้น…”
“นั่นซินะ อย่าให้พวกเราต้องเจอกันเองเลย!”
เมื่อกล่าวเสร็จหน้าต่างจับคู่ก็แสดงขึ้นมา รอบสุดท้ายของวันนี้แล้ว!
Xiao Yao ZiZai [Lv 71 Dragon City Nightwatch] vsBai Li RuoFeng [Lv 71 World Archer]
Cang Tong [Lv 70 Gold Assassin] vs Immortality Codex [Lv 69 Gold Healer]
Yue Qing Qian [Lv 69 Gold Assassin] vs War Tent [Lv 67 Gold Swordsman] ……
เมื่อมองไปยังตารางจับคู่ หน้าตาของ’มัทฉะ’ก็ยิ่งซีดเซียว
“นี่มันแย่แล้ว มันแย่มากจริงๆ…”
“มีอะไรงั้นเหรอ?”
ผมถามออกไป
“คู่ต่อสู่ของบอสน่ะซิ….”
“ไป่หลีลั่วเฟิง?”
“ใช่แล้ว”
“นักธนูระกับ 71 …….มีอะไรงั้นเหรอ? เราก็แค่ดูถูกแผนการของคู่ต่อสู้ แล้วก็ให้ความสำคัญกับศัตรูในแผนการของเรา”
TL :มันเป็นสำนวนจีนครับ ประมาณว่า ประเมินศัตรูให้ดูอ่อนไว้เพื่อเพิ่มขวัญกำลังใจของตนเอง และยังมีความรอบคอบไม่ประมาทหรือดูถูกคู่ต่อสู้
“ไม่ใช่แบบนั้นค่ะบอส..”
ดูเหมือน’มัทฉะ’จะรู้สึกท้อแท้ไม่และพูดไม่ออก เธอเริ่มที่จะโบกมือของเธอไปมาพร้อมกับมีหน้าต่างข้อมูลปรากฏขึ้น เมื่อทุกคนเห็นข้อมูลนั้นต่างตกใจกันทันที
Bai Li Ruofeng [Lv 71 World Archer] City: Jiu Li City Guild: [House of Prestige]
Position: Guild Master
ประวัติบุคคล: อาศัยอยู่ที่เมืองเซี่ยเหมิน เป็นทายาทของตระกูลไป่หลี เป็นคนที่มีความสามารถในการเล่นเกมสูงมาก และยังเอาชนะผู้เล่นระดับสูงมากมายได้
เขาสร้าง [House of Prestige] ขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ปี 2013 หลังจากนั้นเขาก็ได้นำพากิลด์ของตนเองขึ้นมาเป็นกิลด์อันดับ 4 ของจีนได้ และยังเป็นกิลด์อันดับ 2 ของเมืองจิวหลี่
ความแข็งแกร่ง : ระดับใน CBN คืออันดับ 4โดยผู้ที่อยู่อันดับก่อนเขาคือ ฟางเก่อเช่วQ-Sword และ Little Demon เขาคือผู้ที่เข้าใจศาสตร์แห่งนักธนูอย่างถ่องแท้ ผู้ซึ่งใช้เทคนิค hit and run kiting(ถอยยิงๆ) ได้อย่างยอดเยี่ยม ……
“โอ้เห้มาก…….”
‘หรั่นหมิน’กำหมัดแน่น
“เจ้าหนูเซียวเหยาโชคดีเกินไปแล้ว การได้เห็นนายท้าทายผู้เล่นอันดับ 4 มันเหมือนนายกำลังแหย่รังแตนอยู่เลยวะ”
‘มัทฉะ’ยิ้มมาที่ผม
“คุณบอสที่รักขา คุณยังคิดอยู่รึเปล่าว่าคู่ต่อสู้ของคุณอ่อนหน่ะ?”
“อึกก….”
ผมกลืนน้ำลายพลางกล่าว
“ขอเปลี่ยนคู่ต่อสู้ได้มั้ยเนี่ย?…..”
“เป็นไปไม่ได้หรอก”
ผมกำด้ามดาบแน่นพร้อมกับทุบอกตัวเอง
“แล้วไง? มันก็ดีแล้วนี่ ที่ให้ชั้นได้เจอกับอันดับ 4 หน่ะ ชั้นก็อยากรู้เหมือนกันว่าผู้เล่นระดับสูงจะเก่งขนาดไหนกัน!!”
‘ว่านเอ๋อ’ที่อยู่ข้างๆ ผมกล่าวขึ้น
“ครั้งนี้นายต้องใช้ทุกอย่างที่นายมี………ไป่หลีลั่วเฟิงนั้นเป็นของจริง!! ฉันเคยปะทะกับเขา 7 ครั้งในเกมอื่น ฉันชนะแค่ 3 ครั้ง แพ้ไปสี่ ทักษะในการยิงแล้วถอยของเขามันสุดยอดมาก นายต้องใช้เทพพยัคฆ์เพลิงเทวะของนาย เมื่อนายมีโอกาส เพราะอาจจะทำให้นายมีโอกาศฆ่าเขาในพริบตาได้”
“เข้าใจแล้ว”
ผมพยักหน้าตอบรับ เมื่อมองไปยังหน้าจอ ชื่อของ’ไป่หลีลั่ว’เฟิงกำลังเรืองแสงอยู่ ‘หลินเสี่ยวอู่’ก็พูดขึ้นด้วยความเสียใจ
“อันที่จริง ไป่หลีลั่วเฟิงเป็นไอดอลของฉันเลยนะคะ นอกจากนี้เขายังเป็นนักธนูที่เก่งที่สุดในจีนอีกด้วย แต่ตอนนี้เขากลับกลายมาเป็นศัตรูกับบอสดังนั้น……โชคดีนะคะบอส ชนะเขาให้ได้ น่าเสียใจจริงๆ ที่ต้องกล่าวคำนี้ แต่มีเพียงแค่หนึ่งหัวหน้ากิลด์เท่านั้นระหว่าง [Zhan Long] กับ [House of Prestige] ที่สามารถก้าวไปสู่รอบ 32 คนได้”
ผมหัวเราะ
“ไม่ต้องห่วง ผมจะทำให้เต็มที่ ไม่ให้เสียใจภายหลัง”
…… หลังจากนั้นระบบก็ทำการย้ายผู้เล่นเข้าสู่สนาม ฟุบบบ
ผมกลับมาสู่สนามที่คุ้นหน้าคุ้นตาอีกครั้ง นี่ก็เป็นครั้งที่ 17 ของวันนี้แล้ว คู่ต่อสู้ของผมเป็นผู้เล่นระดับสูงอย่างแท้จริง เขาอยู่ในชุดเกราะหนัง ในมือของเขาคือ เกาทัณฑ์บุบผาเหมันต์ ‘ไป่หลีลั่วเฟิง’มองมายังผมพลางหัวเราะ
“ฉันรู้อยู่แล้วว่าการที่จะเข้าสู่รอบ 32 คนสุดท้าย อาจจะต้องเจอกับผู้เล่นระดับสูง แต่ชั้นก็ไม่คิดว่าจะมาเจอกับหัวหน้ากิลด์ของ Zhan Long ผู้ซึ่งคนในเมืองป้าฮวงยกให้เป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด เซียวเหยาจื่อไจ๋ ชั้นนี่โชคดีจริงๆ”
ผมมองกลับไปเงียบๆ แค่ไป่หลีลั่วเฟิงเหล่มองมายังผม มันก็ทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจแล้ว มันเหมือนกับสายตาของผู้แข็งแกร่งมองคนที่อ่อนแอกว่า เขาไม่คิดว่าผมเป็นคู่ต่อสู้ที่คู่ควรกับเขาด้วยซ้ำ แต่ผมนั้นครึ่งปีก่อนผมยังอยู่อันดับใน CBN โครตต่ำอยู่เลย แต่ตอนนี้ผมก็มาถึงอันดับ 22 แล้ว
เป็นการไต่ระดับที่รวดเร็วจริงๆ แต่ความต่างของระดับ 4 และ 22 มันห่างกันมากทีเดียว เพราะฉะนั้นคนแบบผม ไม่มีทางเทียบความแข็งแกร่งกับเขาได้ง่ายๆ ผมเรียกเทพพยัคฆ์เพลิงเทวะออกมาเงียบๆ มันคลางออกมาเบาๆ ข้างๆ ผม ในขณะเดียวกันผมก็เรียกใช้บัพจาก [เสียงคำรามของมังกรแห่งสายฟ้า] พลังโจมตีและพลังป้องกันเพิ่มขึ้น 40% เป็นเวลา 30 นาที
เพื่อใช้ต่อกรกับหัวหน้ากิลด์แห่ง [House of Prestige]! คนนี้ เขาเลียรีมฝีปากพลางหัวเราะ
“อย่ากังวลไป นี่มันก็แค่การแข่งกำเนิดวีรบุรุษเท่านั้น ความสัมพันธุ์ของพวกเราย่อมต้องมาก่อนผลการแข่งอยู่แล้ว ไม่ว่าใครจะชนะหรือแพ้ พวกเราก็ยังคงเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม” ผมลดดาบลงพลางยิ้มกลับ
“อ่า นายพูดถูก มิตรภาพย่อมสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง ชั้นหวังว่านายจะใช้ทุกอย่างที่นายมี ไม่งั้นนายอาจจะต้องเสียใจภายหลัง”
“แน่นอน!!”
‘ไป่หลีลั่ว’เฟิงสะบัดมือของตนเอง ปรากฏธนูขึ้นบนมือของเขา ในขณะเดียวกันเขาก็เรียกสัตว์เลี้ยงของตัวเองออกมา ปีศาจเพลิงขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมา มันคือ อสุรเพลิง ทั้งเลือดและพลังป้องกันสูงมาก ผมเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงตัวนี้มาแล้ว แต่ก็ไม่เคยเห็นมาก่อน ในบอร์ดว่ากันว่ามันคือสัตว์เลี้ยงระดับบอส ชั้นจักรพรรดิ
ผมไม่คิดเลยว่ามันจะมาอยู่ในมือของไป่หลีลั่วเฟิงแบบนี้ บรรยากาศรอบๆ ตัวเราราวกับจะถูกแช่แข็ง ผมเริ่มตรวจสอบไปรอบๆ แผนที่ ที่ทิศใต้ของสนามรบคือ NPC ทหารที่อยู่ในชุดเกราะสว่างสดใส ไม่ห่างจากตรงนั้น คือต้นไม้ใหญ่สูงตระหง่าน สายลมฤดูใบไม้ร่วงพัดโบกสะบัด
พัดพาใบไม้ปลิวว่อนไปทั่วทั้งสนามต่อสู้ ไป่หลีลั่วเฟิงยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ฝั่งตรงข้าม กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขาสั่นกระตุก แต่ผมก็ยังสามารถสังเกตุได้ถึงความมั่นคงของเขา เหมือนกับว่าเขากำลังรับรู้ถึงใบไม้ที่ปลิวลงมา นักธนูคนนี้น่ากลัวจริงๆ ถือว่าเป็นนักธนูระดับสูงอย่างแท้จริง ยิ่งระบบเริ่มนับถอยหลังเท่าไหร่ ยิ่งทำให้หัวใจของผมตื่นเต้นมากเท่านั้น การต่อสู้อันแสนสำคัญกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!!!
“3！” “2！” “1！”
เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น ‘ไป่หลีลั่วเฟิง’ก็พุ่งมาหาผมทันที ผมถอยกลับอย่างรวดเร็ว ออกจากระยะโจมตีของ’ไป่หลีลั่วเฟิง’ พวกเราออกห่างกันราวๆ 40 หลา ผมต้องรักษาระยะห่างนี้ไว้ ไม่งั้นผมต้องตายไม่รู้ตัวแน่ๆ ผู้ที่ผ่านมาถึงรอบ 64 คน ได้ ย่อมไม่อ่อนแอ แม้ว่าพลังป้องกัน 2800 ของผมจะสูงมาก
แต่ก็ไม่ควรเอาตัวไปเสี่ยงกับนักธนู ที่ถือว่าเป็นคลาสนักฆ่าคลาสหนึ่งทีเดียว ผู้เล่นระดับสูงของคลาสนี้ย่อมต้องมีอุปกรณ์ที่ช่วยให้การโจมตีไม่สนพลังป้องกันอยู่บ้าง เพราะงั้นพลังโจมตี 2800 ย่อมต้องไร้ค่าเมื่อเจอกับนักธนูระดับสูง
ฟุบ ฟุบบ เท้าของผมกระโจนไปอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่ไป’หลีลั่วเฟิง’ดึงคันธนูของตนเองพร้อมกับเล็งยิงมา เสียงลูกธนูพุ่งทะลุทะลวงตรงมายังหน้าอกของผมอย่างรวดเร็ว เปรี้ยงง เมื่อผมรับรู้อันตรายผมรีบกระโจนหลบอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้มันพลาดเป้าไป หัวใจของผมร่ำร้องออกมาอย่างตกใจ ธนูดอกนั้นพุ่งผ่อนจมูกผมไปนิดเดียวเอง นี่มันอันตรายจริงๆ
“เฮ้”
‘ไป่หลีลั่วเฟิง’หัวเราะออกมา พลางหยิบธนูของตนเองพร้อมกับปล่อยลูกธนูออกมาสามดอกด้วยทักษะ [สามศร]!! เขารู้ดีว่าไม่ใช่ว่าทุกดอกจะมีโอกาสโดนหมด
ดังนั้น เขาจึงยิงออกมาถึงสามมุม ผมรู้ดีว่าไม่สามารถถอยได้ จึงเปลี่ยนเป็นพุ่งไปด้านหน้าแทน พร้อมกับหลบลูกศรดอกแรกแต่ก็ไม่สามารถหลบอีกสองดอกที่เหลือได้ ทำได้เพียง ใช้ [เร่งความเร็ว] เพื่อพุ่งเข้าจู่โจม MISS！ 734！ 801！
เมื่อมองไปยังดาเมจเหล่านั้น แม้แต่คนบ้ายังบอกได้เลยว่า ไป่หลีลั่วเฟิงนั้นสามารถทลายพลังป้องกันของผมได้อย่างง่ายดาย เทพพยัคฆ์เพลิงเทวะคำรามออกมาพร้อมกับพุ่งเข้าจู่โจมคนละทิศกับผม อย่างไรก็ตาม’ไป่หลีลั่วเฟิง’ก็ได้สั่งให้อสุรเพลิงของเขาพุ่งเข้าจู่โจมเทพพยัคฆ์เพลิงเทวะ
ผมเริ่มที่จะเป็นกังวลขึ้น เขาตั้งใจจะเก็บเทพพยัคฆ์ของผมก่อน!! ดังนั้นผมต้องสู้คนเดียวแล้ว! [เพลิงเทวะทลายทัพ]! ร่างกายของพยัคฆ์น้อยเริ่มขยายขนาดขึ้น!!!
แต่ก็ไม่ส่งผลอะไรกับ’ไป่หลีลั่วเฟิง’ เขาสามารถยิงพยัคฆ์ที่กำลังหนีได้อย่างแม่นยำ!! มันคือ [ศรหยุดยั้ง]!! มุมที่ปล่อย ความเร็วของลูกธนูมันสมบูรณ์แบบมากๆ ไม่มีทางที่เข้าพยัคฆ์จะหลบได้เลย!! ……
อสูรเพลิงคำรามลั่น พร้อมกับพุ่งเข้าจู่โจม ในจังหวะเดียวกัน’ไป่หลีลั่วเฟิง’ก็ตะโกนลั่น
“[ศรสายฟ้าแห่งดวงดาว]!!”
เปรี้ยๆๆๆ สายฟ้ากระจายไปรอบร่างของเขา เพิ่มความเร็วโจมตีให้ตนเอง ปัง ปัง ปัง เขาปล่อยศรสามดอกพุ่งเข้าหาเจ้าพยัคฆ์อย่างรวดเร็ว โชคดีที่พลังป้องกันของมันสูงพอสมควร ไม่งั้นคงโดนเก็บไปเรียบร้อย เมื่อผมพุ่งมาถึงยังมุมที่สามารถโจมตีได้ ผมรีบฟาดดาบพร้อมกับปลดปล่อยทักษะ [ดาบเจ็ดดารา]!!!
เขาคาดการการโจมตีนี้ไว้แล้ว พร้อมกับหันมายิ้มเยอะให้ผม พลางใช้ [ตกผลึก] ทำให้สามารถหลบรอดไปได้ เมื่อระยะเวลาของ [ตกผลึก] หมดลง พวกเราก็อยู่ห่างกันเพียงห้าหลาแล้ว ผมรีบใช้ทักษะ [โลกาสิ้นสูญ] ทันที พร้อมกับหวังว่า การโจมตีครั้งนี้จะฆ่าเขาได้!!
โชคไม่ดีที่’ไป่หลีลั่วเฟิง’เห็นการโจมตีนี้พร้อมกับถอยหลังไปสามก้าว ส่งผลให้ [โลกาสิ้นสูญ] พลาดเป้าไป การเคลื่อนไหวและการโต้ตอบของเขาเร็วจริงๆ เขาไม่ปล่อยให้ผมได้ใช้ [โซ่พันฒนาการ] ได้เลย!!
ผมลดดาบของตนเองลงพลางใช้ [ดาบตัดมิติ] เพื่อย่นระยะไปให้ถึงระยะโจมตีของผม
ย๊า!!! ผมพุ่งเข้าไปปรากฏด้านขวาของเขา พร้อมกับแทงดาบเข้าไปที่คอ!!! ……
“หืมมม?”
‘ไป่หลีลั่วเฟิง’ถอนหายใจอย่างเย็นยะเยือก ทันใดนั้นพลังงานพลันพุ่งขึ้นมาจากใต้เท้าของเขา พร้อมกับปรากฏสายลมระเบิดออกมา การระเบิดพลังเช่นนี้มันดูคุ้นเคยเหมือนกับทักษะ……[คอมโบ] เป็นไปได้ยังไง? นักธนูแบบเขาสามารถเรียนทักษะ [คอมโบ] ได้ยังไงกัน?????
ที่มา: