I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 323 ผู้แข็งแกร่งที่สุดถูกเปิดเผย

| Zhan Long | 1998 | 2352 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลโดย : Gal2oN

สายลมอันคลุ้มคลั่งก่อเกิดเป็นกำแพงป้องกันชั้นหนึ่งที่แม้แต่จะฝืนเดินเข้าไปเพียงหนึ่งก้าวยังทำไม่ได้ อีกทั้งยังโดนสายลมนั้นสร้างความเสียหายใส่ไปอีก 1102 หน่วย ขณะที่ไป่หลีรั่วเฟิงล่าถอยไปอีกหนึ่งก้าว เขาก็รั้งสายธนูแล้วยิงออก

ฉึก! เกิดความเสียหายขึ้นอีก 900+ หน่วย ผมยกดาบของผมขึ้นมาแล้วร่ายสกิล [Haste] เพื่อพุ่งตัวออกไปข้างหน้าอีกสองหลา ฟาดฟันดาบจักรพรรดิฉินใส่ไป่หลีรั่วเฟิง! ฟึ่บ!

การโจมตีครั้งที่สามของไป่หลีรั่วเฟิงจริงๆแล้วเป็นการกระโดดระยะไกลและเขาใช้มันล่าถอยไปอีก 20 หลาพร้อมกับยิงลูกศรฝ่าสายลมพุ่งตรงมาปักเข้าที่อกของผม! 1626! การโจมตีครั้งที่สี่เป็นกระบวนท่าสังหาร จู่โจมเป้าหมายด้วยความเร็วอันน่าตื่นตระหนก ลูกศรพุ่งทะลุหน้าอกก่อนที่ผมจะได้ตอบโต้ เกิดค่าความเสียหายเด้งขึ้นในปริมาณมหาศาล— 2122!

ขณะที่กำลังมองมันอยู่ หัวใจของผมพลันรู้สึกเย็นเยียบ หลอดเลือดอันมหาศาลของผมลดลงจนเกือบจะหมดหลอด นี่มันนักธนูประเภทไหนกันเนี่ย? ถึงจะสร้างบาดแผลอันสาหัสให้แก่ผมด้วยเพียงการโจมตีปกติ! ยิ่งไปกว่านั้นข้อมูลที่ผมได้รวบรวมมาก่อนหน้านี้ก็ไม่มีบอกว่าเจ้าคนแซ่ไป่หลีนั่นจะมีท่า [Combo]เป็นของตัวเองด้วย

มันดูราวกับว่าการโจมตีครั้งแรกนั้นสร้างขึ้นมาเพื่อจัดการกับผมโดยเฉพาะ ในที่สุดระบบก็แสดงให้ผมเห็นถึงรายละเอียดของคอมโบของเขา

[Lightning Tempest](อัสนีวายุคลั่ง)

ระดับ S: รวบรวมพลังของพายุที่บ้าคลั่งเป็นหนึ่งกระบวนท่าฝ่าสายลมและสร้างความเสียหายแบบคริติคอล คอมโบนี้ประกอบด้วย [Condensed Storm] > Attack > [Backward Jumpshot] + [Wind Piercing Strike] > [Mortal Burst Shot] จบกระบวนท่าภายใน 1.9 วินาที ….

ผมดื่มน้ำยาฟื้นฟูเลือดและร่ายสกิล[Heal] อีกครั้ง ทำให้เลือดฟื้นฟูขึ้นมา 4500 หน่วย เพื่อควบคุมการต่อสู้ทั้งสองด้าน ผมจึงให้เจ้าพยัคฆ์เพลิงเทวะของผมปลีกตัวออกจากการต่อสู้กับอสูรเพลิงของไป่หลีรั่วเฟิง มันพุ่งกระโจนไปข้างหน้าพร้อมเสียงคำรามและใช้สกิล[Burstfire Raid] ก่อนจะฟาดกรงเล็บของมันเพื่อร่ายสกิล[Blood Drain]

ในเวลาเดียวกันนั้นผมก็ชูมือขึ้นแล้วใช้สกิล[Binding Chains]! ไป่หลี่รั่วเฟิงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนสามารถหลบ  [Binding Chains]ไปได้ แต่ก็ไม่อาจหลบพ้น [Blood Drain]! 2177! +2177!

หลังจากดูดเลือดปริมาณอันมหาศาลแล้ว เจ้าพยัคฆ์น้อยก็ส่งเสียงคำรามอีกครั้ง ชูคอของมันขณะที่ใช้สกิล [Fierce Roar] ภายในระยะเวลร่าย 0.5 วินาที สัตว์เลี้ยงของไป่หลีรั่วเฟิงก็โจมตีเข้ามาอีกครั้งด้วยสกิล [Fierce Stomp] เปรี้ยงง! [Fierce Roar] ถูกขัดขวางขณะเจ้าของสกิลติดสถานะสตั๊นชั่วคราว!

ไอ้เวรไป่หลีรั่วเฟิงนี่มันจะเค้าเตอร์ทุกการโจมตีของผมเลยสินะ! เท้าของผมเหยียบย่ำไปตามทางของสนามอย่างดุร้ายขณะที่ผมพุ่งตัวไปยังคู่ต่อสู้ ในเวลาเดียวกันผมก็ควบคุมการต่อสู้อีกฝั่งด้วยการสั่งให้เจ้าพยัคฆ์น้อยใช้สกิล[Flame Armor] หลังจากหายติดสถานะสตั๊น

เมื่อเสียงคำรามเกิดขึ้นเกราะเพลิงก็เริ่มล้อมรอบตัวของเจ้าพยัคฆ์น้อยลดความเสียหายจากสัตว์เลี้ยงของไป่หลีรั่วเฟิงได้ราวๆ 200 หน่วย แหม เกือบจะม่องซะแล้วสิ ขณะที่กำลังมองไปที่แถบสกิล ผมก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้างที่เห็นว่าคูลดาวน์ของ [Seven Star Fragment Slash] นั้นหมดลงแล้ว

และโดยไม่ต้องคิด ผมหันหลังกลับและหามุมโจมตีที่สมบูรณ์แบบ ผมยกมือขึ้นและร่าย [Seven Fragment Slash] จากระยะไกลใส่ทั้งไป่หลีรั่วเฟิงและสัตว์เลี้ยงของเขา! เฮอะ! ไป่หลีรั่วเฟิงแค่นเสียงอย่างเย็นชา สั่งการสัตว์เลี้ยงของตนให้หลบสกิลได้ราวกับปาฏิหาริย์

เกิดตัวอักษร MISS เด้งขึ้นมา 2ครั้ง จิตใจของผมแทบจะกลายเป็นว่างเปล่า บัดซบ นี่นะเหรอยอดฝีมือในการหลบหลีก? นี่มันปีศาจประเภทไหนกันเนี่ยถึงได้มีปฏิกิริยาตอบโต้รวดเร็วขนาดนี้? ยิ่งไปกว่านั้นยังหลบการโจมตีที่แตกต่างกันสองครั้งได้ในเวลาเดียวกันภายในเสี้ยววินาทีเนี่ยนะ?

ถึงแม้ว่าจะช็อค ผมก็ไม่เสียจังหวะเลยแม้แต่น้อย ผมกางฝ่ามือออกพร้อมเล็งเป้าหมายและใช้ [Great Realm of Desolation]! ไป่หลีรั่วเฟิงมองการโจมตีที่กำลังเข้ามาและพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

“[Great Realm of Desolation]งั้นเรอะ? ฝันไปเถอะ! นายต้องการจะฆ่าคนด้วยสกิลที่ต้องใช้เวลาร่ายถึง 2 วินาทีเนี่ยนะ?”

เปรี้ยงง! เกิดเสียงดังสนั่น ไป่หลีรั่วเฟิงกระโดดถอยไปข้างหลังหลบสกิลที่พุ่งเข้ามาได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ในเวลาต่อมาก็เกิดเงาร่างของดาบจักรพรรดิฉินแทงทะลุร่างของสัตว์เลี้ยงของไป่หลี่รั่วเฟิง ขณะที่เจ้าพยัคฆ์น้อยของผมพุ่งตรงเข้าไปสังหารด้วยสกิล[Flame Claw]

อสูรเพลิงส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างน่าสงสารและสุดท้ายก็ล้มลงกับพื้นพร้อมกับร่างอันไร้ชีวิต 2817! 1928! ….

ไป่หลีรั่วเฟิงถึงกับช็อค

“บัดซบ เจ้าเล่ห์นักนะ! ถึงกับหลอกชั้นได้!”

ขณะที่กำลังพูดอยู่เขาก็ขยับคันธนูของตัวเองและยิงลูกศรออกมาอย่างรวดเร็วใส่หน้าอกของผม มันคือ [Silencing Arrow]! ที่ทำให้ผมไม่สามารถใช้สกิลได้เป็นเวลา  2.5 วินาที!

ในเวลาเดียวกันนั้นไป่หลีรั่วเฟิงก็ล่าถอยไปอย่างรวดเร็ว หลอกล่อให้พยัค์เพลิงเทวะเคลื่อนตัวเข้ามาอยู่ในแนวเดียวกับผม ในเวลานั้นหัวใจของผมพลันเย็นยะเยียบ

ฮ่าา! ที่ปลายลูกศรเกิดเป็นรูปอุกกาบาตขณะที่สายธนูถูกรั้งไปข้างหลังเกิดเป็นการโจมตีระยะไกลสุดกู่ อุกกาบตที่กำลังเผาไหม้พุ่งทะลุผ่านตัวผมและเจ้าพยัคฆ์น้อย มันเป็นสกิลระดับ SS [Big Dipper Meteor ] 2717! 1827!

พยัคฆ์เพลิงเทวะกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและด้วยพลังชีวิตที่เหลือเพียงเล็กน้อย มันก็พุ่งกระโจนเข้าหาไป่หลีรั่วเฟิงด้วยสกิล[Burstfire Raid]!

ไป่หลีรั่วเฟิงถอยหลบออกไปได้ทันเวลาและยิงลูกศรใส่เจ้าพยัคฆ์น้อย ฉัวะฉัวะฉัวะ ลูกศรสามดอกนั้นทะลุผ่าน [Burstfire Raid] เข้าไปคร่าชีวิตของพยัคฆ์เพลิงเทวะ!

หมอนี่ได้คำนวณเอาไว้แล้วและเก็บสกิลเอาไว้ ค่อยใช้มันตอนที่ [Flame Armor] ของพยัคฆ์เพลิงเทวะหมด ความสามารถในการตัดสินสถานการณ์อย่างเยือกเย็นนั้นหาได้ยากยิ่งและมันก็เป็นเพราะทักษะนี้ที่ทำให้เขาเข้าไปอยู่ในCBN’s top 10ได้! ….

ตุบ… รองเท้าของผมเหยียบลงบนพื้นหินขณะที่ผมหลบการโจมตีที่จู่โจมเข้ามาด้วยการวิ่งแบบซิกแซ็ก เกิดตัวอักษร MISS หลายตัวขึ้นข้างหลังผม ในเวลาเดียวกันผมยกมือร่ายสกิล[Haste]แต่ทุกอย่างล้วนอยู่ภายใต้การคำนวณของไป่หลีรั่วเฟิงหมดแล้ว สายตาของเขาเต็มไปด้วยภาคภูมิใจและกระหายเลือด และไม่ต้องมีคำพูดใดๆเกิดขึ้น เขาก็ยกคันธนูขึ้นและยิงศรที่แม่นยำออกมาอีกครั้ง!

ผมยกดาบขึ้นปัดลูกศรออกไปได้แต่ก็ยังโดนความเสียหายไป 500+หน่วย ยิ่งระยะห่างของพวกเราใกล้กันเท่าใด พลังชีวิตของผมก็ค่อยไปลดลงไปอย่างช้าๆ อย่างไรก็ตาม ผมไม่อาจจะโจมตีอย่างวู่วามได้และได้แต่รอคอยโอกาสโจมตีแทน! ไป่หลีรั่วเฟิงคอยหรอย(ยิงแล้วหนี)เพื่อที่จะลดเลือดของผมอย่างต่อเนื่อง

จนเลือดต่ำกว่า 2000 เขาก็หยุดการเคลื่อนไหว และเขาอยู่ห่างจากผมไปเพียง 10 หลาเท่านั้นพร้อมกับมือที่รั้งสายธนูและมีวัตถุสีแดงๆลอยอยู่บนอากาศ ชิบหายแล้ว นั่นมันสกิลของคลาสสามที่สามารถโจมตีทะลุเกราะป้องกันได้ทุกรูปแบบ  [Shot of the Archery God]!

เขารอจนเลือดของผมลดลงเพียงพอที่เขาจะสามารถฆ่าผมได้ภายในครั้งเดียว!

ฟิ้วววววว… ลูกศรสีแดงถูกยิงเข้ามาหาผม อย่างไรก็ตามผมกลับมองมันเข้ามาหาและยังคงใจเย็นได้อย่างน่ากลัว ผมตั้งสมาธิอย่งหนักหน่วงแล้วใช้ [Blade Rush] ในเวลาเดียวกับที่ปลายลูกศรจากสกิล[Shot of the Archery God] แตะถูกตัวของผม ฟึ่บบ! ตัวผมพุ่งไปข้างหน้าราวๆ 5 หลา หลบสกิลนั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทันทีที่ก้าวเท้าออกไปผมก็ยกดาบจักรพรรดิฉินที่มีหมอกอันเย็นยะเยือกปกคลุมอยู่ จากสกิล[Fierce Ice Blade]ขึ้นมา!

ฉึกฉึก… ไป่หลีรั่วเฟิงยิงลูกศรออกมาอีกสองครั้ง ลดเลือดของผมไปอีกราวๆ 1000 หน่วย ที่เวลานั้น [Shield of the Crimson Dragon] ได้ถูกใช้ขึ้นมาด้วยแต้มแห่งความโกรธ 40 หน่วย

ทำให้พลังป้องกันของผมเพิ่มขึ้นมาอย่างมหาศาล หลังจากนั้น [Dragon Knight’s Recovery] ก็ถูกใช้ขึ้นมาด้วยเช่นกันพร้อมกับแต้มแห่งความโกรธที่เหลืออีก 60 หน่วย และเริ่มฟื้นฟูพลังชีวิตของผมขึ้น! ฉัวะ [Fierce Ice Blade] ของผมตัดเข้าไปที่หน้าอกของไป่หลีรั่วเฟิง

สร้างความเสียหายได้ถึง 2910 หน่วย หลังจากนั้นผมก็ฟันธรรมดาต่อทันทีเพื่อสังหารเขา! มันเป็นโชคชะตาของนักธนูทุกคนที่จะหรอยผมจนตายหรือตายเองด้วยการต่อสู้ระยะประชิดของผม!

อย่างไรก็ตามไป่หลีรั่วเฟิงแค่เกือบตายเท่านั้น เขาไม่ได้ล้มลงกับพื้นแต่กลับกำลังฟื้นคืนชีพแทน หัวใจของผมแทบจะหยุดไปอีกครั้งขณะที่ผมมองสิ่งที่เกิดขึ้น ให้ตายเถอะ

สกิลของนักธนูคลาสสามยังทำให้เขามีชีวิตรอดด้วยการเหลือเลือด 5%! ผมวิ่งเข้าหาร่างของไป่หลีรั่วเฟิงอย่างรวดและเริ่มฟาดฟันใส่เขาโดยไม่ต้องคิด ดาบจักรพรรดิฉินเกิดลำแสงเรืองรอง 5สายเข้าปกคลุมใบดาบ ทันทีที่ไป่หลีรั่วเฟิงเริ่มฟื้นชีพ ผมก็จัดสกิลLv 8 [Combo]เข้าฉีกร่างของเขาให้เป็นเศษเนื้อ- 1221! 1029! 1173! 1210! 1838!

การโจมตีครั้งสุดท้ายสร้างความเสียหายได้มหาศาล นัยน์ตาของไป่หลีรั่วเฟิงเต็มไปด้วยความเสียใจขณะที่ตัวเองกำลังล้มลงคุกเข่าอย่างอ่อนล้า ไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นอีกครั้ง ในที่สุดแม่งก็ตายซักที! ติ๊ง! System Notification:ยินดีด้วย! ท่านเอาชนะผู้เล่น ไป่หลีรั่วเฟิงได้ และผ่านเข้าสู่รอบ 32 คนสุดท้ายสำเร็จ! ….

แว้บบ! ผมถูกเทเลพอร์ตออกมานอกสนามต่อสู้และได้ยินเสียงเชียร์ดังขึ้นรอบข้าง มัทฉะพุ่งตัวเข้ามาพ้อมกางแขนเข้ามากอดผมด้วยรอยยิ้มกว้าง

“บอส…บอสแข่งแกร่งสุดๆเลยค่า! นายเอาชนะไป่หลีรั่วเฟิง ผู้อยู่อันดับ 4 ในบอร์ด CBN ได้เชียวนะ! พระเจ้าขนาดนักธนูอันดับหนึ่งแห่ง[Destiny]ก็ยังต้องพ่ายแพ้ให้กับดาบของบอส สุดยอดอ่ะ สุดยอดไปเลยค่าา….”

ผมสัมผัสได้ถึงหน้าอกขนาด 34 C ของมัทฉะกดทับกับอกของผมอย่างหนักหน่วง จนต้องรู้สึกอายเล็กน้อย ผมเขย่าหัวไหล่ของเธอและพูดว่า

“มัทฉะ อย่าตื่นเต้นเกินไปนักสิ…”

วีรบุรุษหนึ่งวินาทีเคลื่อนตัวเข้ามากอดผมเช่นกันและหัวเราะคิกคักว่า

“ชั้นรู้น่าว่ามัทฉะน่ะน่ารักมากก จนบอสจะไม่เอาเธอได้ยังไง? มันชักจะดูพัฒนาไปเป็นอะไรที่ซับซ้อนมากขึ้นแล้วสินะ…”

แก้มของมัทฉะร้อนผ่าวขณะที่ออกมาจากอ้อมกอดของผมและมองไปที่วีรบุรุษหนึ่งวินาที

“ซับซ้อนบ้านป้าแกสิ ไอ้หนึ่งวินาที ชั้นรักบอสก็จริงแต่ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรแบบนั้นซักหน่อย!”

ไป๋ฉ๊หัวเราะดังลั่นกล่าวว่า

“เอาน่า เอาน่า ตอนนี้ก็มาชมการแข่งขันที่เหลือเงียบๆกันเถอะนะ…”

ขณะที่เงยหน้าไปมองหน้าจอ ผมก็เห็นว่านเอ๋อกำมีดของเธอ ไล่สังหาร Immortality Codex อย่างช้าๆและเข้าสู่รอบ 32 คนสุดท้ายได้อย่างสบายๆ ส่วนตงเฉิงเยว่ก็ใช้พลังโจมตีเวทย์มนตร์อันมหาศาลของเธอผ่านเข้ารอบไปได้อย่างชิลๆ ในเวลาเดียวกันนั้นเยว่ชิงเฉียนก็กำลังสตั๊นคู่ต่อสู้ของเธอย่างต่อเนื่องแล้วใช้ทักษะที่เหนือกว่าเอาชนะได้อย่างง่ายดาย Heaven’s Rebel ไม่มีโอกาสตอบโต้ได้เลยแม้แต่น้อย

แว้บบแว้บบบแว้บบบบ …. ร่างของแต่ละคนปรากฏขึ้นภายในห้อง ขณะที่มัทฉะยืนรออยู่อย่างตื่นเต้นตะโกนชื่อของแต่ละคนที่ผ่านเข้ารอบ—

“ชางถ่งคนสวยเข้ารอบ!”

“ชางเยว่คนงามเข้ารอบ!”

“อ่าว ขนาดหรันหมิ่นยังผ่านเข้ารอบแหะ..”

“ซ่งหานเข้ารอบ!”

“หวางเจี้ยนเข้ารอบ!”

“เยว่เว่ยเหลียงผ่านเข้ารอบ… ว้าว ดูเหมือนว่าซ่งหานจะต้องเลี้ยงทุกคนมื้อใหญ่ซะแล้วสิคืนนี้…”

…. ทุกๆคนยืนรอคอยอย่างมีความสุขในห้องและหลังจากนั้นไม่นานรายชื่อของ 32 คนสุดท้ายก็ถูกประกาศออกมา ฟางเก่อเชว่Q-Sword เจียนเฟิงหาน เหยียนจ้าวอู๋ซวงมู่เซวียน และซิมเปิ้ล ต่างผ่านเข้ารอบนี้อย่างง่ายดาย ที่น่าแปลกใจก็มีแค่หัวหน้ากิลด์ [House of Prestige] ไป่หลีรั่วเฟิง พ่ายแพ้ไปในรอบ 64 คนสุดท้ายเท่านั้น

แต่เมื่อทุกคนเห็นว่าคู่ต่อสู้ของเขาคือผมก็ไม่มีคิดว่านั่นเป็นเพียงแค่ฟลุคๆอีกต่อไป มัทฉะมองรายชื่อบนหน้า เม้มปากและกล่าวว่า

“การจับคู่ในรอบ 32 คนสุดท้ายนี้จะยังไม่ประกาศออกมาจนกว่าจะ 6 โมงเย็น งั้น…งั้นพวกเราออฟไลน์ไปทานอาหารเย็นหรือทำอะไรซักอย่างกันก่อนดีมั้ย?”

ซ่งหานเก็บมีดของตนขึ้นมา ยิ้มและพูดว่า

“ไปที่เซียงเว่ยเซวียนกันเถอะ ชั้นได้จองห้องส่วนตัวให้กับพวกเราแล้ว…”

Editor Note :ชื่อของภัตตาคาร หูหนาน ผมพยักหน้าและพูดว่า

“ตกลง งั้นเดี๋ยวชั้นจะพาว่านเอ๋อกับตงเฉิงไปละกัน!”

แม่ทัพหลี่มู่กล่าวว่า

“โอเคงั้นชั้นจะพาพี่น้องค่าย Valiant Bravery ไปฉลองละกัน”

เยว่ชิงเฉียนหัวเราะและพูดว่า

“งั้นหนูออฟไลน์แล้วไปทานอาหารเย็นด้วย หม่าม๊าโวยวายใหญ่แล้วเนี่ย ไว้เจอกันนะคะทุกคน!”

…. ทุกคนออฟไลน์ออกจากเกมและเริ่มเดินทางไปเซียงเว่ยเซวียนเพื่อเริ่มต้นงานปาร์ตี้

ปล.สำนวนแปลตรงไหนแปลกๆ ติชมกันได้นะครับ

ปล2 หลายคนอาจจะหงุดหงิดว่าทำไมพระเอกมันกากจัง ไม่กากหรอกครับ ทุกอย่างมันตั้งอยู่ในความสมเหตุสมผลอยู่ อุปกรณ์อาจจะดีกว่าชาวบ้าน แต่ปัจจัยหลักๆ ในเกมแบบนี้เลยคือทักษะครับ กับจังหวะการใช้ มันไม่เหมือนกับเกมออนไลน์แบบคลิกเดินตีนะครับ ถ้าวิ่งเข้าไปโง่ๆ เจอเขายิงสตั้นสวนมาก็จบครับ

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments