ตอนที่แล้วตอนต่อไปแปลโดย : Gal2oN
แว้บบ! เรือนร่างอันงดงามของ’มู่เซวียน’เลือนหายไปในลำแสง อีกครั้งแล้วที่เธอแสดงให้เห็นว่าตัวเองเป็นคนลึกลับ เธอมีโอกาสอย่างน้อย 30% ที่จะเอาชนะ ถ้าเกิดว่าเธอฆ่าพยัคฆ์เพลิงเทวะของผมก่อนแล้วใช้สกิล [Dimension Leaps] อีกสองครั้ง
เธอก็จะกลายเป็นอุปสรรคชิ้นโตให้กับผมในทันที แต่แล้วเธอก็ยังเลือกที่จะยอมแพ้ในแมทช์นี้!
ติ๊ง! ประกาศจากระบบ : ยินดีด้วย ท่านได้รับชัยชนะในแมทช์นี้ ท่านได้ผ่านเข้ารอบ 16 คนสุดท้ายของการแข่งขันกำเนิดเหล่าวีรบุรุษสำเร็จ! ….
หลังการยืนยันจากประกาศของระบบ ผมก็ถูกส่งกลับมายังที่ที่ผมอยู่ก่อนหน้านี้ ทันใดนั้น’หลินว่านเอ๋อ’ ‘ตงเฉิงเยว่’ ‘เยว่ชิงเฉียน’และสมาชิกของ [Zhan Long] ที่เหลือก็กรูกันเข้ามาหาผม
“ยินดีด้วยนะ ที่เอาชนะมู่เซวียนได้!”
ผมยกดาบจักรพรรดิฉินขึ้นมาถือและเกาจมูกพลางยิ้มว่า
“ชั้นแค่โชคดีที่มู่เซวียนไม่ได้พยายามที่จะต่อสู้จนจบเท่านั้นแหละน่า…”
ห่างออกไปหลายเมตร’มู่เซวียน’ยืนถือคฑาพิงเสาสีขาวขณะที่เธอมองมาที่ผมอย่างเฉื่อยชา หน้าอกขนาด 36E ของเธอช่างดูเย้ายวนขณะที่มันกระเพื่อมขึ้นลงทุกครั้งที่เธอหายใจ ทั้งยังมีหุ่นอันเพรียวบาง เรียวขาขาวๆที่วับๆแวมๆออกมาทุกครั้งที่ลมพัดผ่านกระโปรง เธอหัวเราะและพูดว่า
“มันไม่ใช่ว่าชั้นไม่ยอมสู้จนจบซักหน่อย ชั้นแค่ไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องต่อสู้ต่อต่างหาก ความสามารถต้านทานเวทย์มนตร์ของเกราะมนตราพิโรธมันน่ากลัวเกินไป นายใช้แค่ [Blade Rush] คอยหลบ [Indigo Sea Arrow] ของชั้น แค่นี้ชั้นก็ไม่มีโอกาสจะชนะแล้ว ดีแล้วล่ะที่ชั้นยอมแพ้น่ะ หรือจะให้ชั้นดูน่าเกลียดตอนคุกเข่าลงกับพื้นกันยะ…”
“ไม่หรอกน่าา…”
ผมหัวเราะ
“เธอพ่ายแพ้แล้วมันจะน่าเกลียดตรงไหนกัน มิฉะนั้นแล้วเธอจะเป็นโฉมงามอันดับหนึ่งของเมืองจิ่วลี่ได้ยังไงกันเล่า?”
“นั่นมันไม่ใช่…”
มุมปากของ’มู่เซวียน’ยกขึ้นเล็กน้อยขณะที่ใบหน้าของเธอแดงก่ำ
“ตะเข็บของชุดนี้มันอยู่สูงเกินไปหน่อย ผลจากการพ่ายแพ้มันทำให้นายสามารถมองเห็นกางเกงในสีชมพูของชั้นได้เลยนะ…”
ผมนี่มึนไปเลย
“ชั้น…ชั้นไม่เห็นอะไรเลยนะในรอบแรกน่ะ…”
‘มู่เซวียน’ยักคิ้วอันสง่างามของเธอและยิ้มว่า
“อ๋อ มันเป็นอย่างนั้นเหรอ เสี่ยวไจ่ไจ๋ นายไม่แม้แต่จะมองมันเลยสินะ นี่ชั้นไม่มีเสน่ห์ดึงดูดนายขนาดนั้นเลยเหรอยะ? ใช่ซี้ ชั้นจะไม่ทนมันอีกต่อไปแล้ว! สัปดาห์หน้าชั้นจะเคลื่อนทัพกิลด์ [Appearance Alliance] บุกเข้ามาในเมืองป้าหวงเพื่อบดขยี้กิลด์ [Zhan Long] ของนายซะ ก่อนที่จะลักพาตัวและพานายกลับไปที่เมืองจิ่วลี่ที่ที่นายจะได้เป็นรองหัวหน้ากิลด์ของพวกเรา!”
ในตอนนั้นเอง ‘หลินว่านเอ๋อ’ดูร้อนใจอย่างมากถึงขนาดชักมีดสีแดงสดของเธอออกมาจากฝักพร้อมเสียงดัง แก๊ง! และขยับตัวมายืนอยู่ข้างๆผม นัยน์ตาคู่สวยของเธอทอประกายฆ่าฟันอย่างรุนแรง
“ฮึ่มม ถ้า [Appearance Alliance] กล้าแตะต้อง [Zhan Long] ก็มาลองดูซี่!”
‘มู่เซวียน’ลังเลเล็กน้อยก่อนจะยิ้มและพูดว่า
“อ้า โอเคๆ พี่สาวแค่ล้อเล่นเท่านั้นเองง…หืมชางถ่ง เด็กคนนี้ อาา เสี่ยวไจ่ไจ๋ นายนี่มันโชคดีจริงๆเลยนะที่มีสาวน่ารักๆอยู่เคียงข้างแบบนี้…แปลกจังเลยนะที่เธอผู้เป็นรองหัวหน้ากิลด์ของ [Hero’s Mound] กลับอยู่กับนาย ไม่ใช่ Q-Sword น่ะ…”
ผมกำหมัดเข้าด้วยกันและยิ้มว่า
“เดี๋ยวชางถ่งก็จะเป็นหนึ่งในพวกเราในเร็วๆนี้นั่นแหละ!”
“โอ้ มันเป็นแบบนี้นี่เอง…”
‘มู่เซวียน’หัวเราะคิกคักและพูดว่า
“ตอนนี้ชั้นรู้แล้วว่าทำไมนายถึงไม่ต้องการเข้ากิลด์ [Appearance Alliance] ของพวกเรา เพราะนายมีสาวสวยมากล้อมรอบอยู่แล้วนี่เอง มันก็เมคเซ้นส์อยู่น้า คิคิ…”
‘หรันหมิ่น’ยกขวานศึกของเขาชี้ไปที่เวทีและกล่าวว่า
“การประลองรอบต่อไปกำลังจะเริ่มขึ้นแล้วนะ!”
“เยี่ยม!”
ผมมองขึ้นไปยังเวทีและดูทุกๆการประลองอย่างตั้งใจเพราะรู้ว่าทุกๆคนบนเวทีนั้นมีสิทธิ์ที่จะเป็นคู่ต่อสู้คนถัดไปของผม ผมจำเป็นที่จะต้องเข้าใจสไตล์การต่อสู้ของพวกเขาและทำให้แน่ใจว่าผมสามารถเอาชนะได้ นอกจากนี้ตอนที่ผมกำลังสู้อยู่
‘เจียนเฟิงหาน’และ’Q-sword’ ทั้งคู่ต่างก็ตั้งใจดูการต่อสู้เช่นกัน ศึกทุกเทคนิคและกระบวนท่าของผม มันเป็นหนทางเดียวที่พวกเขาจะสามารถเพิ่มโอกาสในการได้รับชัยชนะ ยอดฝีมือทุกคนไม่ได้แข็งแกร่งเพียงเพราะฝึกฝนทักษะของตัวเองแต่ต้องศึกษากระบวนท่าและวิเคราะห์รายละเอียดของคู่ต่อสู้ด้วย
ในรอบที่สองของรอบ 32 คนสุดท้าย เป็นการแข่งขันระหว่าง พันศาสตราฟู่เฉินกับ เหยียนเจ้าอู่ซวง ทั้งคู่ต่างเป็นคนที่มีชื่อเสียงในเมืองป้าหวง หนึ่งเป็นรองหัวหน้ากิลด์ [Vanguard] และพระอันดับหนึ่งของเมืองป้าหวง ส่วนอีกหนึ่งเป็นหัวหน้ากิลด์ [Prague] และเป็นหนึ่งในสามปรมาจารย์ดาบชั้นสูง
เหยียนจ้าวอู๋ซวงดึงดูดความสนใจจากผู้ชมตั้งแต่ที่เขาเดินขึ้นไปบนเวที เขาแต่งกายในชุดเกราะวีรบุรุษและทั่วร่างเปล่งสีส้มเรืองรอง เป็นที่ชัดเจนเลยว่าอุปกร์ของเขาอย่างน้อย 4 ชิ้น เป็นระดับจักรพรรดิไม่ก็สูงกว่านั้น แม้กระทั่งดาบในมือของเขาก็แข็งแกร่งในระดับเดียวกับระดับจักรพรรดิ [Prague] มีจำนวนคนเยอะและยากที่จะจัดการในเมืองป้าหวง
ถือได้ว่าเป็นคู่แข่งของ [Vanguard] มีบอสระดับสูงมากมายในเมืองป้าหวงที่ถูกสังหารโดยพวกเขาและทำให้อุปกรณ์ของเหยียนจ้าวอู๋ซวงไม่ด้อยกว่าของเจียนเฟิงหาน พันศาสตราฟู่เฉินถือมีดเหล็กกล้าของตัวเองและมองไปที่คู่ต่อสู้ของเขา มุมปากเอียงขึ้นเล็กน้อยขณะที่เขายิ้มและพูดว่า
“หัวหน้ากิลด์เหยียนจ้าว ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้เจอกับคุณเร็วขนาดนี้ ฮี่ฮี่…”
‘เหยียนจ้าวอู๋ซวง’ให้รู้สึกงุนงงก่อนจะตอบกลับอย่างดูถูกว่า
“เร็วขนาดนี้งั้นเหรอ? ตั้งแต่เริ่มการแข่งขันผมก็รู้ว่าพระไม่น่านจะผ่านเข้ารอบ 32 คนสุดท้ายมาได้ ผมคาดว่าคุณจะเข้ามาได้ถึงแค่รอบ 128 คนสุดท้ายเท่านั้น ผมล่ะรู้สึกละอายจริงๆที่คิดว่าการได้เจอคุณในรอบนี้ช่างเป็นโชคดีของผมเหลือเกิน การผ่านเข้ารอบต่อไปก็แค่หมูในอวยแล้ว…”
หน้าของพันศาสตราฟู่เฉินแปรเปลี่ยนเป็นสีม่วง
“เหยียนจ้าวอู๋ซวง! คุณจะไม่อวดดีเกินไปหน่อยเหรอ!?”
‘เหยียนจ้าวอู๋ซวง’ยิ้มตอบกลับว่า
“อย่าโมโหไปเลยน่า ผมก็แค่พูดความจริงเท่านั้นเอง ใครๆก็รู้ว่า [Prague] กับ [Vanguard] สนิทสนมกันจะตายไป พวกเรามาเป็นพันธมิตรกันแบบลับๆหน่อยดีมั้ยล่ะ?”
“พันธมิตรส้นตีนอะไรล่ะ!”
พันศาสตราฟู่เฉินด่าออกมาอย่างโกรธเกรี้ยวและยกดาบของตัวเองขึ้นมา
“โลกใบนี้มันเล็กเกินไปสำหรับพวกเราทั้งคู่ ดังนั้นหนี่งในพวกเราจะต้องตาย! มา!”
การนับถอยหลังเสร็จสิ้น เหยียนจ้าวอู๋ซวงเรียกสัตว์เลี้ยงของเขาออกมาและพุ่งไปยังเบื้องหน้า เขาร่าย [Peerless Strike] สังหารสัตว์เลี้ยงของพันศาสตราฟู่เฉินในดาบเดียว จากนั้นก็ฟาดฟันเข้าใส่ พันศาสตราฟู่เฉิน ตามด้วยคอมโบ lv8 หลังผ่านการโจมตีไปห้าครั้ง พระคนนี้ก็เหลือเลือดเพียง 30 % เท่านั้น
หลังจากล่าถอยอย่างเร่งรีบ พันศาสตราฟู่เฉินก็จับมีดยาวของตัวเองและร่ายสกิลเพื่อขัดจังหวะคอมโบ แต่โชคร้าย เทคนิคการต่อสู้ของเหยียนจ้าวนั่นแข็งแกร่งยิ่งนักเพียงแค่ล่าถอยอย่างรวดเร็วก็หลบสกิลนั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดาบของเขาฟาดฟันไปยังเบื้องหน้าอีกครั้งและจัดการหยุดสกิลของคู่ต่อสู้ด้วยการโจมตีธรรมดา เขาไม่จำเป็นต้องรีบสังหารอีกฝ่ายซึ่งแผนยุ่งเหยิงไปแล้ว เขาจะเปลี่ยนเกมตอนไหนก็ได้ เมื่อพันศาสตราฟู่เฉินเลือดใกล้จะหมด เขาก็รีบกระดกน้ำยาเพิ่มเลือด 3000 หน่วยทันที
“พันศาสตราฟู่เฉินจบสิ้นแล้ว…”
ผมยิ้ม
“เขาจะตายก็ตอนที่ดื่มน้ำยาเพิ่มเลือดเนี่ยแหละ…”
‘หรันหมิ่น’งุนงงถามว่า
“นั่นไม่จำเป็นว่าต้องเป็นจริงหรอกใช่มั้ยนั่น?”
“ก็รอดูไปสิ…”
ในเวทีต่อสู้ พันศาสตราฟู่เฉิน เริ่มดื่มน้ำยาเพิ่มเลือด ขณะที่’เหยียนจ้าวอู๋ซวง’ก็เริ่มการโจมตีของตัวเอง คูลดาวน์ของทุกสกิลของเขาหมดลงไปแล้ว ใบดาบแทงทะลุ พันศาสตราฟู่เฉิน พลังโจมตีจากคอมโบระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่อง ตัดร่างของพันศาสตราฟู่เฉิน ในทันที
การโจมตีของเหยียนจ้าวอู๋ช่างรุนแรงเหลือเกินต่อให้เป็นพระที่มีพลังป้องกันสูงก็ไม่อาจต้านทานได้ ในรอบที่สองก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เหยียนจ้าวฆ่าสัตว์เลี้ยงก่อนเป็นอันดับแรกแล้วค่อยตามด้วยเจ้าของ แม้ว่าพลังโจมตีของเขาจะลดลง 10% จากสกิล[Put Down the Knife]ของคู่ต่อสู้ก็ตาม การโจมตีของเขาก็ยังคงไร้เทียมทานเหมือนเดิม
เขาฆ่า พันศาสตราฟู่เฉินถึงสองครั้งในรอบเดียว เป็นที่แน่นอนแล้วว่าเขาจะเป็นหนี่งในคู่ต่อสู้ของผมในรอบ 8 คนสุดท้าย! ….
“โหยยยย…”
‘เยว่ชิงเฉียน’กำหมัดและพูดเสียงเบาว่า
“อ๊า ลุงเหยียนจ้าวชนะแล้ว…นั่นหมายความว่าพี่เซียวเหยาจะคู่ต่อสู้ของเขาในรอบถัดไปสิเนี่ยยย นี่…นี่…”
‘ว่านเอ๋อ’มอง’เยว่ชิงเฉียน’
“เสี่ยวผิงกัว(แตงกวาน้อย)จะพูดอะไรน่ะ?”
‘ชิงเฉียน’กระพริบตาปริบๆและกล่าวว่า
“จริงๆแล้วหนูไมอยากเห็นพี่เซียวเหยาสู้กับลุงเหยียนจ้าวเลยค่ะ หนูเคยเป็นรองหัวหน้ากิลด์[Prague] มาก่อน ดังนั้นลึกๆแล้วหนูไม่ต้องการเห็นพวกเขาได้มาสู้กันเองแบบนี้ แต่ว่า…ครั้งล่าสุดที่พี่เซียวเหยาต่อสู้กับลุงเหยียนจ้าว…พี่เขาพ่ายแพ้…”
ผมยิ้มตอบว่า
“ไม่ต้องกังวลหรอกนะ เหตุผลเดียวที่พี่แพ้ตอนนั้นก็เพราะว่าพี่เป็นแค่ฮีลเลอร์กากๆที่ไม่มีทักษะโจมตีอะไรเลยต่างหาก ตอนนี้มันต่างออกไปแล้ว ในแมทช์หน้าพี่มั่นใจว่าพี่เหนือกว่าลุงเหยียนจ้าวอย่างแน่นอน!”
‘ซ่งหาน’ยิ้มกล่าวว่า
“ผมเชื่อพี่นะ พี่เซียวเหยา! เหยียนจ้าวอู๋ซวงอวดดดีมานานเกินไปล่ะ พวกเราต้องการใครซักคนมาจัดการเขาซะ!”
‘ตงเฉิง’ซึ่งยืนอยุ่ด้านข้างกล่าวว่า
“จริงๆแล้วเหยียนจ้าวอู๋ซวงดูท่าจะแพ้เจียนเฟินหางนะ อะแฮ่ม อะแฮ่ม แต่ถือซะว่าชั้นไม่ได้พูดอะไรก็แล้วกันนะ”
“ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมันหรอกน่า เมื่อพวกเขากลายมาเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเรา พวกเราก็จะทุกสิ่งที่มีเอาชนะพวกเขาให้ได้ ที่นี่ [Destiny] เป็นเกมที่เล่นกันอย่างแฟร์ๆ (Tl: ถ้าแฟร์จริงมันจะมีเติมตังจริงเข้าไปในเกมได้ไงฟระ) ถ้า [Zhan Long] ต้องการมีที่ยืนในสังคมละก็ พวกเราจะต้องเอาชนะพวกยอดฝีมือติดอันดับที่มีชื่อเสียง…โดยไม่ละเว้นแม้แต่คนเดียว”
“ได้เลย!”
‘ว่านเอ๋อ’เงยหน้าขึ้นมองบนเวที เผยให้เห็นช่วงลำคออันมีเสน่ห์ เธอยิ้มและพูดว่า
“การแข่งขันกำเนิดเหล่าวีรบุรุษเป็นโอกาสสำคัญสำหรับเพลเยอร์ที่จะพิสูจน์ตัวเอง หลังจบการแข่งขันนี้อันดับ CBN Battlemaster จะต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากแน่ๆเลย อย่างเช่นเซียวเหยาของพวกเราจะต้องได้อยู่ในอันดับท็อป10 หรือไม่ก็ท็อป 20แหงๆ อันดับพวกนี้เนี่ยมันสำคัญยิ่งกว่าอันดับในแต่ละเมืองซะอีก ใช่มั้ยล่า?”
ผมพยักหน้าและยิ้มตอบ
“อืมมม น้องชางถ่งช่างพูดได้ถูกต้องยิ่งนัก…”
‘ตงเฉิง’ให้รู้สึกประหลาดใจ
“แหม ผู้ชายคนนี้นี่นับวันยิ่งกล้าขึ้นเรื่อยๆนะเนี่ย ถึงกับหยอกล้อคุณหนูแบบนั้น…”
‘ว่านเอ๋อ’มองมาที่ผมอย่างโกรธเคืองก่อนจะยิ้มตอบว่า
“หัวเราะกันไปเถอะย่ะ ฮึ่มม มาดูกันซิว่านายจะถูกกำจัดออกจาก Death Group นี้ยังไง”
…. ในตอนนั้นเอง รอบที่สามองกรุ้ป A ได้เริ่มขึ้น เป็นรอบของ’ลู่ตงปิ่ง’กับ’เจียนเฟิงหาน’ ‘ลู่ตงปิ่ง’เป็นหัวหน้ากิลด์ของ [Immortal’s Valley] การพบกันของสองคนนี้นั้นราวกับน้ำท่วมพัดผ่านแดนมังกร เจียนเฟิงหานนั้นค่อนข้างเคารพลู่ตงปิ่ง จากที่เขาประสานมือและถามว่า
“พี่ตงปิ่ง ไม่ได้เจอกันเสียนาน พี่คงยังสบายดีอยู่ใช่มั้ย?”
‘ลู่ตงปิ่ง’ยกคฑาขึ้นและกล่าวว่า
“พี่สบายดี…แค่มีน้ำตาลในกระแสเลือดสูงไปซักหน่อยเท่านั้นเอง…”
‘เจียนเฟิงหาน’ไร้คำพูดซึ่งจะตอบ การต่อสู้ดำเนินไปเป็นเวลาเจ็ดนาที ‘เจียนเฟิงหาน’ตบ’ลู่ตงปิ่ง’ต่อเนื่องไปสองครั้งแล้วได้รับตั๋วไปรอบ 16 คนสุดท้ายอย่างง่ายดาย แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพื่อนกัน เจียนเฟิงหานก็ไม่ปราณีเลยแม้แต่นิดเดียว เขาตระหนักดีว่า [Vanguard] กำลังเริ่มสูญเสียที่ยืนในเมืองป้าหวง [Prague] กำลังโตวันโตขึ้น
ส่วน [Zhan Long]ก็กำลังแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน นอกจากนี้ยังมี [Blood Contract], [Misty Palace] และกิลด์ใหม่อื่นๆที่เริ่มจะปรากฏกาย ถ้า[Vanguard] ต้องการที่จะรักษาอิทธิพลในเมืองป้าหวงเอาไว้
‘เจียนเฟิงหาน’ก็จะต้องแสดงความเมพของตัวเองในการแข่งขันนี้ อย่างไรก็ตามกรุ้ปนี้มันออกจะมากเกินไปซักหน่อยสำหรับเขา ถ้าเขาต้องการที่จะเข้ารอบ 8 คนสุดท้าย
เขาจำเป็นต้องผ่าน Q-sword ถ้าสองปรมาจารย์การต่อสู้สไตล์ reflux ในตำนานสองคนมาสู้ หนึ่งในนั้นก็จะต้องพ่ายแพ้ไปในการต่อสู้นี้ ….
การต่อสู้ในแต่ละแมทช์นั้นมีแต่เพลเยอร์ระดับหัวหน้ากิลด์ทั้งนั้นและแต่ละคนก็เป็นบุคคลสำคัญในแต่ละเมืองด้วยเช่นกัน ชื่อ “Death Group” นี้ช่างเหมาะสมกับกรุ้ป A จริงๆ
ปล.มีช็อตหึงหวงกะเค้าด้วยนะว่านเอ๋อออ
ที่มา: