I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 329 ความแข็งแกร่งของฟางเก่อเชว่

| Zhan Long | 2193 | 2358 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลโดย : Gal2oN

Gal2oN Note1 :ขออภัยเรื่องชื่อเล่นเยว่ชิงเฉียนด้วยครับ engมันมา little melon ผมเอาไปใส่eng>Chinese แล้วกดฟังเสียง มันออกเป็นเสี่ยวผิงกัว แต่ถ้าเป็น melon เฉยๆจะเป็นกัว ผมนี่งงเลยฮะ ส่วนแอ๊ปเปิ้ลนี่ผมฟังได้ว่า ผิงกว่อแหะ ใครแม่นจีน รบกวนอธิบายให้หน่อยนะครับ เป็นเกร็ดความรู้ให้เพื่อนๆนักอ่านไปในตัว 555

Gal2oNNote2 :เรื่องแฟร์เนี่ยทางผู้เขียนอาจจะสื่อว่ามีซื้อเงินจริงเข้าไปได้แล้วก็เอาเงินในเกมขายเป็นเงินจริงได้ถ้ามีฝีมือ อาจจะแฟร์ตรงนี้รึเปล่าไม่แน่ใจ ส่วนผมมองว่าคนรวยเอาเงินจริงมาซื้อทองในเกมนี่ก็ไม่แฟร์ละแห่ะ เพราะไม่ต้องมีฝีมือ ไม่ต้องเสียเวลา เสียแต่เม็ดเงินล้วนๆ เอาไปซื้อของที่คนอื่นมาขายตัดหน้าชาวบ้านได้ก่อนไรงี้ 555 …..

‘เฟยเอ๋อ’ยืนอยู่บนเวทีพร้อมชุดเกราะอันแนบเนื้อไปทุกๆส่วนโค้งส่วนเว้า เธอถือไมค์ไว้ในมือและพูดออกมาด้วยน้ำสวีทอันอ่อนหวาน

“เอาล่ะค่า รายชื่อรอบเซมิไฟนอลของกรุ้ปA ก็ได้ถูกตัดสินกันไปแล้วนะคะ ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดได้แก่ หัวหน้ากิลด์[Zhan Long] เซียวเหยาจื้อไจ้, หัวหน้ากิลด์[Prague] เหยียนจ้าวอู๋ซวง, หัวหน้ากิลด์[Hero’s Mound] Q-Sword และหัวหน้ากิลด์[Vanguard] เจียนเฟิงหาน แหม ช่างเหมาะที่จะพูดจังเลยว่า กรุ้ปออฟเดธ ได้ถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว การต่อสู้ในแต่ละแมทช์จะต้องเป็นการต่อสู้ถึงตายอย่างแน่นอนเลยค่ะ แต่อย่างไรก็ตามก่อนอื่นต้องรอกรุ้ป B,C และ D ดำเนินการให้เสร็จก่อนนะค้า การแข่งขันรอบต่อไปจะประกอบไปด้วยผู้เข้าแข่งขันจากกรุ้ปB  และในรอบแรกได้แก่ ฟางเก่อเชว่VS แม่ทัพหลี่มู่ นั่นเองค่า!”

แว้บบ! ‘ฟางเก่อเชว่’เป็นผู้ที่เข้ามาในสนามก่อนเป็นคนแรก เขาใส่เสื้อคลุมยาวสีขาวที่ดูคงแก่เรียน ถือพัดกระดาษในมือขณะที่ร่างกายยืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่วงท่าอันสง่างามราวกับชนชั้นสูงจากโบราณกาล

ยิ่งไปกว่านั้นสายตาของเขายังดูเอื่อยเฉื่อยราวกับไม่สนใจในทุกสิ่ง ให้ผู้คนรู้สึกประทับใจว่าเขาเป็นผู้ปลดเปลื้องจากโลกีย์ทั้งปวง เขาทั้งดูเป็นอิสระและผ่อนคลาย

ดูเหมือนทั้งหมดทั้งมวลนี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้ฟางเก่อเชว่เป็นหนึ่งในยอดฝีมือไร้พ่ายบนเซิฟเวอร์จีน นอกจากนี้เขายังเป็นผู้อยู่ในอันดับท็อปๆมาอย่างยาวนานจนสามารถมองไปที่คนอื่นๆอย่างเย่อหยิ่งได้จากสรวงสวรรค์ แม่ทัพหลี่มู่หยิบดาบของตัวเองและพูดอย่างซังกะตาย

“ชั้นจะไปล่ะนะ จะไม่มีใครโศกเศร้าเสียใจให้กับชั้นหน่อยเหรอ?”

ว่านเอ๋อหัวเราะคิกคัก

“บายยนะ หลี่มู่…”

เยว่ชิงเฉียนถือมีดของเธอและพูดว่า

“พยายามฮึดสู้และอดทนให้ได้อย่างน้อยซักหลายกระบวนท่าหน่อยนะคะพี่ ไม่ว่ายังไงพี่ก็เป็นผู้อาวุโสของกิลด์ พี่ห้าม…พี่ห้ามตายในดาบเดียวเด็ดขาด แบบนั้นหนูยอมรับไม่ได้…”

‘หลี่หมู่’กัดฟันตอบ

“พี่จะพยายามให้ดีที่สุดก็แล้ว ส่วนพี่จะถูกฆ่าตายในดาบเดียวหรือไม่มันก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของฟางเก่อเชว่แล้วล่ะนะ…”

“OK!”

…. แล้ว’หลี่มู่’ก็เดินเข้าไปในสนามต่อสู้เช่นกันและเวลานับถอยหลังก็เริ่มขึ้น ทุกๆคนต่างคาดหวังในการแสดงฝีมือของงฟางเก่อเชว่ง โดยเฉพาะการที่พวกเรายังไม่คุ้นเคยกับเค้าซักเท่าไร มีเพียงเพลเยอร์ไม่กี่คนจากเมืองป้าหวงที่เคยเห็นวิดีโอ PK ของเขาและสิ่งที่พวกเราได้ยินคือเขาเป็นยอดฝีมือที่หาจับตัวยากใน [Destiny] แห่งนี้

อาศัยแค่ชื่อของเขาก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เมืองจิ่วลี่กว่าครึ่งตกอยู่ในความกลัว 3! 2! 1! ทันทีที่การต่อสู้เริ่มขึ้น ‘หลี่มู่’ก็พุ่งตัวไปยังด้านหน้าออกกระบวนท่าโจมตีอันหลากหลายพร้อมกับสัตว์เลี้ยงของเขา ฟางเก่อเชว่พัดพัดกระดาษในมือเบาๆก็เกิดสายลมติดไฟขึ้นมาในอากาศบินตรงเข้าใส่’หลี่มู่’

เปรี้ยง! สายลมนั้นซัดเข้าใส่ที่อกของเขาสร้างความเสียหายได้มหาศาล 2671! ร่างของ’หลี่มู่’สั่นสะท้านเล็กน้อย เขาไม่เคยคิดเลยว่า’ฟางเก่อเชว่’จะร่ายเวทย์ได้อย่างรวดเร็วและไร้ปราณีถึงเพียงนี้ มันดูราวกับว่าเขาไม่ต้องเสียเวลาเล็งเป้าด้วยซ้ำ!

‘ฟางเก่อเชว่’มองดู’หลี่มู่’พุ่งตัวมาหาเขาอย่างใจเย็น หลังจากนั้นเขาก็วาดพัดกระดาษในมืออีกครั้งที่คราวนี้ก่อให้เกิดแผ่นดินสั่นสะเทือน หอกปฐพีถูกยิงออกมาจากพื้นและแทงเข้าไปที่ขาของหลี่มู่ทั้งสองข้างขณะที่หอกน้ำแข็งอีกเล่มเริ่มก่อตัวขึ้นในอากาศ มันคือทักษะประดิษฐ์ระดับ SS ของฟางเก่อเชว่ที่เรียกว่า [Earth and Ice Spike] 2817!

พลังชีวิตของ’หลี่มู่’ลดลงมาเกือบหมดหลอดและเขาก็รีบดื่มน้ำยาเพิ่มพลังชีวิตอย่างรวดเร็วและพุ่งตัวไปยังเบื้องหน้าอีกครั้ง ‘ฟางเก่อเชว่’ยิ้มเยาะและกางฝ่ามือซ้ายขึ้นเกิดเป็นเสาน้ำแข็งอันเพรียวบางต้นหนึ่ง มันคือท่าเริ่มต้นของ [Indigo Sea Arrow]นั่นเอง! เพียงสะบัดมืออีกครั้ง ศรเวทย์ก็พุ่งเข้าใส่หลี่มู่! วูบ! MISS!

ด้วยการตัดสินใจอันชาญฉลาดของ’หลี่มู่’ทำให้เขาใช้ [Blade Rush] เพื่อหลบสกิลของ’ฟางเก่อเชว่’ ขณะที่ดาบของเขาถูกร่ายสกิล[Sky Shaker Slash] เอาไว้และดาบนั้นกำลังจะฟันใส่ไหล่ของฟางเก่อเชว่ ในที่สุดเขาก็เข้าประชิดตัวหมอนี่ได้แล้ว! หลังจากนั้นตอนที่ทุกคนคิดว่า’ฟางเก่อเชว่’จะใช้[Dimensional Leap] เพื่อหลบ [Sky Shaker Slash]

แต่สิ่งที่เค้าทำเพียงแค่ยิ้มแล้วกางฝ่ามือขวาใส่ตรงหน้าของ’หลี่มู่’ ทันใดนั้นก็เกิดไอเยือกแข็งและเปลวเพลิงผสานเข้าด้วยกัน ตู้ม! เวทย์บทใหม่ระเบิดขึ้นโยนหลี่มู่และดาบของเขากระเด็นไปในอากาศที่ซึ่งร่างกายของเขาสลายหายเป็นแสงไปในทันที! 3726! ….

“เชี่ย…”

‘หรันหมิ่น’กำหมัดอย่างกังวลใจขณะที่เขารู้สึกมึนงงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“ฟางเก่อเชว่แม่งยังใช่คนอยู่ป่ะวะเนี่ย? ก่อนที่หัวหน้าหลี่มู่จะเข้าประชิดตัวมันได้ ฟางเก่อเชว่ก็จัดการฆ่าเขาในตู้มเดียว…นั่นมันจะไม่บ้าเกินไปหน่อยรึไงฟะ?”

สายตาของ’ว่านเอ๋อ’ยังคงมองติดอยู่ที่เวทีขณะที่เธอกล่าวว่า

“การคำนวณพลังชีวิตและพลังโจมตีเวทย์มนตร์ของฟางเก่อเชว่มันจะยอดเยี่ยมเกินไปแล้วนะ ยิ่งไปกว่านั้นหมอนี่ยังโคตรมั่นใจในตัวเองเลย เขารู้ว่าสกิล[Fire and Ice Storm] นั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับพลังชีวิต 3200 หน่วยของหลี่มู่ อีกทั้งตอนที่เขายิง [Indigo Sea Arrow] ออกมาเขาก็เริ่มร่ายสกิล[Fire and Ice Storm] เอาไว้แล้ว แม้แต่การที่หลี่มู่ใช้ [Blade Rush] ก็อยู่ในการคำนวณของเขา”

“คู่ต่อสู้แบบนี้ช่างน่ากลัวจังเลย…”

ใบหน้าเรียวเล็กของ’เยว่ชิงเฉียน’ค่อยๆเปลี่ยนสีม่วง เธอรู้ดีถึงความแข็งแกร่งของ’หลี่มู่’และการที่เขาถูกฆ่าได้เร็วขนาดนี้มันก็หมายความว่าเธอที่เป็นเพียงแค่นักฆ่าตัวเล็กๆยิ่งไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่นิดเดียว ผมจับไหล่ของเธอเอาไว้และพูดว่า

“ชิงเฉียนไม่ต้องกังวลไปหรอกน่า แม้ว่าคู่ต่อสู้ของเธออาจจะเป็นฟางเก่อเชว่…555 เอาจริงๆนะแค่ได้เข้ารอบ 16 คนสุดท้ายนี่ก็น่าประทับใจมากแล้วนะ ตอนนี้แค่ตั้งใจเอาชนะซวนหยวนเฟิงก็พอ…”

“ตกลง หนูเข้าใจแล้วค่ะพี่เซียวเหยา…”

…. ในรอบที่สองทุกอย่างก็เกิดขึ้นเหมือนเดิมและ’หลี่มู่’ก็ไม่เหลือกลยุทธ์ใดให้ใช้อีกแล้ว ความเชี่ยวชาญในการใช้เวทย์มนตร์ของ’ฟางเก่อเชว่’นั้นเกินกว่าความคาดหมายของทุกคนไปแล้ว มันช่างดูราวกับว่าเขาสามารถทำนายการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของคู่ต่อสู้ได้ตลอดแล้วจากนั้นก็ใช้การร่ายเวทย์เพื่อควบคุมคู่ต่อสู้

ขนาด’หลี่มู่’ใช้การเคลื่อนไว้แบบซิกแซกแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถหลบเวทย์มนตร์ได้แม้แต่บทเดียว สุดท้ายเขาก็ล้มคุกเข่าลงกับพื้นอีกครั้งด้วยสกิล[Fire and Ice Storm]0:2, ‘ฟางเก่อเชว่’เป็นผู้ชนะ!

แว้บบบ! ‘หลี่มู่’ออกมาจากสนามต่อสู้พร้อมกับเสียงดาบสอดเข้าไปในฝัก เขากล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม

“ฟางเก่อเชว่นั้นแข็งแกร่งเกินไปจริงๆ…ทุกครั้งที่ชั้นพยายามจะเคลื่อนไหวมันก็ดูเหมือนกับชั้นกำลังเต้นอยู่บนฝ่ามือของเขา ไม่มีทางที่ชั้นจะต่อสู้กับหมอนั่นได้เลย…”

‘ตงเฉิงเยว่’กระพริบตาอยู่หลายครั้งก่อนจะพูดว่า

“การเคลื่อนไหวของหลี่มู่นั้นเฉียบคมมากแล้วนะ แต่เขาก็ยังคงไม่มีโอกาสเอาชนะได้เลย จริงๆแล้วตัวบัดซบฟางเก่อเชว่มันฉลาดถึงขนาดไหนกันแน่เนี่ย? ช่างน่ากลัวจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นชั้นยังรู้สึกได้ว่าความแม่นยำในการคำนวณของเขามันออกจะดูผิดมนุษย์มนาไปหน่อยนะ…”

ด้านข้าง ‘หลินว่านเอ๋อ’ยืนกอดอกพิงเสาอยู่อย่างเงียบๆปล่อยให้ไหล่ของเธอสัมผัสกับไหล่ของผม ผมมองไปที่เธอและกล่าวว่า

“ว่านเอ๋อ เธอไม่คิดบ้างเหรอว่าฟางเก่อเชว่อาจจะมีความสามารถเดียวกับเธออยู่น่ะ?”

“ชั้น…”

‘ว่านเอ๋อ’เกาคางของเธอแล้วเงยหน้าขึ้นมามองผมและกล่าวว่า

“ชั้นก็กำลังคิดแบบนั้นอยู่เหมือนกัน แต่ชั้นก็ยังไม่แน่ใจ 100%น่ะนะ…”

“ความสามารถแบบไหนเหรอคะ?”

‘เยว่ชิงเฉียน’ถามขึ้น

“[Mind Reader]!”

‘ว่านเอ๋อ’ประสานมือตัวเองและกล่าวว่า

“มีเพียงทักษะนี้เท่นั้นที่จะทำให้เรารู้ถึงการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของคู่ต่อสู้ได้ 100% มันเป็นไปไม่ได้ที่การคำนวณของฟางเก่อเชว่จะแม่นยำขนาดร่ายเวทไปปิดทุกทางบุกทางหนีของหลี่มู่ ความสามารถแบบนี้มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก”

‘เยว่ชิงเฉียน’รู้สึกมึนงง

“จริงๆแล้วมันคือความสามารถแบบนั้นเองหรอกเหรอคะเนี่ย? งั้น…งั้นคนที่มีทักษะระดับ SSS [Mind Reader]พี่ชางถ่งเองก็มีใช้มั้ยคะ?”

ว่านเอ๋อยิ้มบางๆและกล่าวว่า

“ใช่แล้วจ้ะ แล้วมันก็เป็นไปได้เหมือนกันว่าฟางเก่อเชว่เองก็มีความสามารถนี้อยู่เช่นกัน”

‘ซ่งหาน’พลันถามขึ้นว่า

“ไอ้สกิล[Mind Reader]เนี่ย เราจะสามารถหยุดมันได้ยังไงบ้างล่ะ?”

“นายก็จำเป็นต้องควบคุมความคิดของตัวเอง”

‘ว่านเอ๋อ’ตอบอย่างไม่ปิดบังและอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับสกิล[Mind Reader] เธอเริ่มพูดอย่างนุ่มนวล

“[Mind Reader]จริงๆแล้วเป็นความสามารถที่จะช่วงชิงความคิดของคู่ต่อสู้ในขณะนั้น ถ้านายทำจิตใจให้ว่างเปล่าและไม่คิดอะไรที่เกี่ยวข้องกับแผนการโจมตี แล้ว [Mind Reader] ก็จะสูญเสียผลของสกิลไป ร่างกายของนายจะทำการตอบโต้โดยขึ้นกับการสะท้อนของร่างกายไม่ได้ขึ้นอยู่กับการวางแผนของนาย ในทางนั้นแหละนายก็อาจจะทำลาย [Mind Reader] ได้ แต่นี่ก็เป็นเพียงการคาดเดาของชั้น ชั้นไม่รู้ว่ารายละเอียดจริงๆแล้วมันเป็นยังไงอะนะ…”

ขณะที่จมอยู่ในความคิด’เยว่ชิงเฉียน’ก็พึมพำออกมา

“แสดงออกด้วยใจ เคลื่อนไหวด้วยใบดาบ…ฮิฮิ นี่มันพูดง่ายแต่ทำได้ยากมากเลย ถ้าควบคุมสติได้ไม่ดีพอ ก็ไม่มีทางทำมันได้หรอก”

ผมกระแอมและกล่าวว่า

“จริงๆแล้วก็มีอีกอย่างให้ลองคิดกันดูนะ…”

“อะไรล่ะนั่น?”

‘ว่านเอ๋อ’มองมาที่ผมด้วยความรู้สึกประหลาดใจ ผมเริ่มกล่าวขึ้นอย่างลังเล

“กลไกการทำงานของ[Mind Reader]นั้นต้องการการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วระหว่างการละทิ้งความคิดของเป้าหมายอันก่อนหน้าและการหยิบอันต่อไปขึ้นมา ฟางเก่อเชว่เป็นมนุษย์ไม่ใช่พระเจ้า ถ้าเขาเลือกหยิบช้อมูลเท็จเกี่ยวกับแทคติกที่จะใช้ด้วยสกิล[Mind Reader] จากนั้นเขาก็อาจจะไม่สามารถตามแทคติกที่แท้จริงที่ถูกถ่ายทอดออกมาหลังจากนั้นได้อย่างรวดเร็ว พวกเราสามารถที่จะเตรียมรูปแบบแทคติกที่จะใช้ไว้ซัก 3-4 รูปแบบและสลับมันไปเรื่อยๆ โดยวิธีนี้พวกเราก็จะสามารถใช้ [Mind Reader]ไปป่วนแทคติกของคู่ต่อสู้ได้ (อารมณ์ประมานว่าทำให้สกิลอ่านใจของฟางเก่อเชว่เกิดข้อเสียในตัวมันเอง เพราะว่าไปรับข้อมูลเท็จมาเรื่อยๆจนตอบสนองไม่ทัน)”

“นาย ไอ้ตัวเลวร้าย…”

‘มู่เซวียน’หัวเราะและกล่าวว่า

“เสี่ยวไจ่ไจ๋ช่างเป็นคนเจ้าเล่ห์จริงๆถึงขนาดสามารถคิดแผนการเหลี่ยมจัดขนาดนี้ออกมาได้ นายช่างเหมาะสมที่จะเป็นผู้ชายที่ชั้นตกหลุมรักจริงๆเลย…”

ผมเม้มปากตอบว่า

“อย่าไปสนใจเธอเลย มาถกกันต่อดีกว่า ก็นั่นล่ะนะ…อิอิ ชิงเฉียน เธอไม่จำเป็นต้องไปฟังที่เหลือหรอก เธอต้องไปเตรียมตัวในรอบต่อไปแล้ว คู่ต่อสู้ของเธอคือซวนหยวนเฟิงที่เป็นหนึ่งในแม่ทัพของฟางเก่อเชว่เชียวนะ!”

“ค่ะ พี่เซียวเหยา ขอให้หนูโชคดีนะคะ!”

“จุ๊บ…”

“จุ๊บ…”

‘ว่านเอ๋อ’

“….”

…. ‘เยว่ชิงเฉียน’เดินขึ้นไปบนสนามพร้อมกับมีดคู่ในมือและยืนอย่างมั่นใจตรงข้ามกับเธอเป็นอัศวินผู้หล่อเหลาและน่าเกรงขามคนหนึ่ง อัศวินคนนี้ถือหอกและสวมเกราะที่ดูแข็งแรง เขาช่างดูเปล่งประกายซะจนดวงอาทิตย์ยังไม่อาจเทียบได้ ผมยาวสลวยของเขาปลิวไสวอยู่ท่ามกลางสายลมขณะที่เขาหัวเราะ

“คุณหนูเยว่ชิงเฉียนผมล่ะชอบคุณจริงๆสมัยที่ผมยังอยู่ในกิลด์[Prague] เรามาเป็นเพื่อนกันและเข้าร่วมกิลด์[Legend]ของผมเพื่อช่วยให้มันก้าวหน้ายิ่งขึ้นไปอีกกันเถอะ แล้วคุณจะได้เป็นนักฆ่าอันดับหนึ่งของ [Legend]เลยนะ เป็นไงคุณเริ่มสนใจขึ้นมาบ้างรึยังครับ?”

‘เยว่ชิงเฉียน’กวัดแกว่งมีดในมือเบาๆและพลังงานสายหนึ่งก็ก่อตัวขึ้นรอบๆมีดเล่มนั้นขณะที่เธอยิ้ม

“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ คนที่ชั้นชอบคือพี่เซียวเหยา และชั้นก็ต้องการที่จะอยู่ในกิลด์ [Zhan Long] ต่อไปตราบใดที่ยังมีกิลด์นี้อยู่ค่ะ”

“ตกลง งั้นผมเองก็คงไม่มีทางเลือกที่จะต้องอกหักและฆ่าบุปผางามดอกนี้ซะแล้วสิ…”

‘ซวนหยวนเฟิง’กล่าวขึ้นพร้อมหัวเราะ ‘เยว่ชิงเฉียน’เองก็หัวเราะด้วย

“ถ้าทำได้ก็ลองดูสิ!”

หนูเยือกแข็งตัวหนึ่งระเบิดขึ้นมาจากพื้นและปรากฏตัวขึ้นจากไหล่ของ’เยว่ชิงเฉียน’ มันคือสัตว์เลี้ยงประเภทเวทย์มนตร์เลเวล 62 ‘เยว่ชิงเฉียน’ได้เลือกชัดเจนแล้วที่จะใช้สัตว์เลี้ยงตัวนี้ในการเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ของเธอซึ่งเป็นอัศวิน เพราะเขาใช้เกราะหนักที่มีพลังป้องกันอันน่าสะพรึงกลัว

การใช้การโจมตีด้วยเวทย์มนตร์เพื่อควบคุมการต่อสู้นี้เป็นแทคติคที่ชาญฉลาดที่สุดแล้วอย่างแน่นอน

“โฮกกกก!”

สัตว์เลี้ยงของ’ซวนหยวนเฟิง’ก็ถูกปล่อยออกมาเช่นกัน มันเป็นเสือที่ดูดุร้าย แม้ว่ามันจะไม่แข็งแกร่งเท่ากับเจ้าพยัคฆ์เพลิงเทวะของผม แต่มันก็ไม่ได้ด้อยกว่ามากนักในด้านของระดับชั้นเช่นกัน ช่วงเวลาที่การต่อสู้เริ่มขึ้น ‘ชิงเฉียน’ใช้  [Absolute Step] เพื่อพุ่งตัวไปข้างหน้าและใช้  [Gouge]

ในตอนที่เธอเข้าถึงตัวเขาได้เป็นครั้งที่สอง

ฉัวะฉัวะฉัวะ มีดเล่มนั้นทิ่มแทงไปเบื้องหน้าถึงสามครั้งในคราวเดียวขณะที่เจ้าหนูเยือกแข็งของเธอก็เริ่มจู่โจมด้วยเวทย์มนตร์เยือกแข็งจากระยะไกลที่ซึ่งจะทำให้ทั้งซวนหยวนเฟิงและสัตว์เลี้ยงเคลื่อนไหวได้ช้าลง วิ้งงงง! ปลายหอกเริ่มส่องแสงสีแดงเรืองรองขณะที่สกิลสังหารเริ่มถูกใช้พร้อมกับที่เอี้ยวตัวของเขาแล้วซวนหยวนเฟิงก็ใช้สกิล[Sky Shaker Slash]!

ตูมมม! ดาวตกพุ่งตกลงมาจากฟากฟ้าและชิงเฉียนก็ใช้มีดทั้งสองของเธอปัดป้องมัน เธอถูกบังคับให้ถอยหลังไปอยู่หลายก้าวจากผลกระทบของการโจมตี

‘ซวนหยวนเฟิง’เป็นผู้เชี่ยวชาญในแทคติกและพร้อมกับเอี้ยวตัวไปเริ่มโจมตีหนูเยือกแข็ง ด้วยการสั่นสะเทือนของหอกซึ่งเกิดจากการที่เขาใช้ [Heavy Strike]+[Flame Axe]และสกิลนั้นก็ปกคลุมไปทั่วร่างของเจ้าหนูตัวจ้อย ช่างโชคร้ายจริงๆที่ระดับขั้นชองมันต่ำต้อยเกินไปที่จะป้องกันและตัวมันเองก็มีพลังชีวิตน้อยกว่า 4000 หน่วยอยู่แล้ว

เพียงแวบเดียวเท่านั้น มันก็ถูกสังหารในทันที!

‘เยว่ชิงเฉียน’เริ่มไล่กวดคู่ต่อสู้ของเธอและแทงมีดลงไปหนึ่งครั้งสร้างความเสียหายได้ 1900+ หน่วย ในเวลาเดียวกันมือขาวราวกับหิมะของเธอก็สะบัดสองครั้งแล้วเจ้าหนูเยือกแข็งก็กลับไปในกำไลสัตว์เลี้ยง

แล้วเธอก็อัญเชิญหมาป่าเพลิงออกมา แค่คิดว่าเธอจะสับเปลี่ยนสัตว์เลี้ยงในช่วงกลางการต่อสู้แบบนี้ ยัยหนูนี่ช่างกล้าซะจริง!

ปล.งงตรงไหน จะติชม ถามคำถาม คอมเม้นได้ฮะ เดี๋ยวตอนต่อไปตอบให้

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments