ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปแปลโดย : Gal2oN
Gal2oN : ไม่ได้แปลซะนาน มัวแต่ยุ่งงานรับปริญญากับปรับตัวที่ทำงาน ตอนนี้เริ่มกลับมาแปลแล้วนะครับ แต่คงไม่ค่อยบ่อยเหมือนเมื่อก่อนนะ
หลังจากการต่อสู้จบลง การต่อสู้รอบสุดท้ายของกรุ๊ป A ก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
Xiao Yao Zi Zai [Lv71 Dragon City Nightwatch] vs Q-Sword [Lv72 Swordsmith] …..
ในที่สุดผมก็ได้รู้ชื่ออาชีพลับของ Q-sword ซักที สกิล [ปราการหมาป่าทำลายล้าง], [เกราะประกายไฟ] นี่ก็คงจะเป็นสกิลพิเศษจากอาชีพลับนี่สินะ แต่ยังไงก็เหอะชื่ออาชีพมันคือช่างตีดาบนี่นา
ไอ้เจ้า Q-Sword มันจะอยากไปเป็นปรมาจารย์ช่างตีดาบจริงหรอฟะ? ไม่น่าใช่แหะ ผมไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับอาชีพนี้ในครอบครัวดาวเหนือมาก่อนเลย บางทีมันอาจจะเป็นแค่ชื่อเรียกก็ได้ละมั้ง
เฟยเอ๋อเคลื่อนตัวขึ้นไปยังบนเวทีและประกาศการจับคู่สำหรับกรุ๊ป B ซึ่งคู่แรกนั้นได้แก่ ฟางเก่อเชว่ กับเยว่ชิงเฉียน เสี่ยวชิงเฉียนของพวกเรากำมีดของเธออย่างเป็นกังวลและมองไปที่เวที เธอมุ่ยปากเล็กน้อยก่อนจะพูดกับผมว่า
“พี่เซียวเหยาคะ หนูจะทำยังไงดีถ้าหนูไปแพ้ทั้งสองรอบเลยอ่า?”
ผมอดยิ้มให้กับคำถามของเธอไม่ได้
“ต่อให้เธอแพ้ทั้งสองรอบมันก็ไม่สำคัญเท่ากับว่าเธอเต็มที่กับการต่อสู้แล้วรึยังต่างหาก ยังไงเธอก็ยังคงเป็นรองหัวหน้ากิลด์สุดสวยกับนักฆ่าที่เก่งที่สุดใน Zhan Long อยู่ดีนั่นแหละ”
“อื้มมม เข้าใจแล้วค่ะ!”
หลังจากตอบเซียวเหยา เยว่ชิงเฉียนกับสัตว์เลี้ยงของเธอก็ถูกเคลื่อนย้ายไปยังสนามต่อสู้ ฟางเก่อเชว่เองปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับถือพัดกระดูกเหล็กในมือ เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้เรียกสัตว์เลี้ยงออกมาและยืนเงียบๆอยู่อย่างงั้น เขายิ้มเยาะและหัวเราะขึ้นว่า
“เยว่ชิงเฉียน เธอรู้มั้ย? ว่าในเซิร์ฟเวอร์จีนนี่เธอเป็นเพียงคนเดียวที่ผมชอบนอกจากชางถ่งเลยนะ ความสามารถในการลอบสังหารเป้าหมายของเธอมันน่าอัศจรรย์มาก ยิ่งไปกว่านั้นทักษะและการตอบสนองของเธอก็ถือได้ว่าอยู่ในระดับท็อปสามของนักฆ่าในเซิร์ฟเวอร์เลยทีเดียว ช่างน่าเสียดายที่ผมไม่เคยมีโอกาสได้เป็นเพื่อนกับคุณซักที”
มันค่อนข้างหาได้ยากเลยทีเดียวที่คนหยิ่งยโสเช่นฟางเก่อเชว่จะเริ่มต้นบทสนทนากับใครก่อน การที่ทำให้เขายอมเปิดปากพูดออกมาได้นั้นทำให้ทุกคนประหลาดใจและตระหนักได้ว่าเยว่ชิงเฉียนนั้นเป็นคนที่มีพรสวรรค์และยากที่จะพบเห็น ถ้าเธอไม่ได้มีพรสวรรค์ แล้วไอ้หนุ่มเทวดานี่มันจะเปิดปากพูดทำไมล่ะ?
เยว่ชิงเฉียนโค้งคำนับให้เล็กน้อย เสื้อคลุมพลิ้วไหวเล็กน้อยอยู่ทางด้านหลังแต่ก็เต็มไปด้วยออร่าที่ทรงพลัง เธอมองไปที่ฟางเก่อเชว่เล็กน้อยด้วยสายตาอันทรงเสน่ห์ก่อนจะพูดอย่างอ่อนน้อมว่า
“ชั้นเป็นรองหัวหน้ากิลด์ของพี่เซียวเหยาและชั้นจะไม่ทรยศพี่เขา ถ้าเกิดคุณพยายามที่จะชักชวนชั้นเข้ากิลด์อยู่ละก็คงได้แต่เสียเวลาเปล่าแล้วล่ะค่ะ…”
ฟางเก่อเชว่มองมาด้วยสายตาที่ว่างเปล่าก่อนจะหัวเราะคิกพูดว่า
“ตกลง งั้นผมก็จะไม่บังคับคุณก็แล้วกัน แต่ถ้าเมื่อไรที่คุณไม่มีความสุขกับการอยู่ในเมืองป้าหวงแล้วละก็ คุณสามารถมาเที่ยวชมเมืองจิ่วลี่ของเราได้ พวกเรา Legend จะคอยต้อนรับอยู่เสมอนะครับ”
“ค่ะ ขอบคุณมาก”
เยว่ชิงเฉียนตอบพลางเม้มปากเล็กน้อย ฟางเก่อเชว่โบกพัดในมือพร้อมกับยิ้มว่า
“อืมม มาเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้กันเถอะ เผชิญหน้ากับยอดฝีมือเช่นคุณ ผมคงต้องทุ่มสุดฝีมือเช่นกัน”
“ค่ะ!”
และแล้วระบบนับถอยหลังก็เริ่มขึ้น 3! 2! 1!
ก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้น เยว่ชิงเฉียนก็เรียกใช้ Stealth ส่วนเจ้าหนูเยือกแข็งบนไหล่งามก็หายไปพร้อมกับเจ้าของ ทิ้งไว้เพียงสายลมที่พัดผ่านบางเบา ขณะที่ฟางเก่อเชว่ยังคงยืนอยู่ที่เดิมอย่างไร้อารมณ์ ราวกับว่าเขาไม่ใส่ใจกับตำแหน่งของเยว่ชิงเฉียนเลยแม้แต่น้อย
“ดูท่าฟางเก่อเชว่จะไม่ต้องการต่อสู้ซักเท่าไรเลยนะ…”
หลี่มู่พึมพำออกมา
“ไม่หรอก…”
หลินว่านเอ๋อขมวดคิ้วขึ้น
“มันดูเหมือนว่าเขากำลังรอให้กัวกัวโจมตีอยู่ต่างหาก”
“มันไม่ควรจะเป็นอย่างงั้นสิ ใช่มั้ย?”
ตงเฉิงเยว่ยกคฑาของเธอขึ้นมา
“กัวกัวนั้นว่องไวจะตายแล้วก็ยังสามารถประวิงเวลารอสตั๊นได้ด้วย สถานะสตั๊นทั้งสองครั้งจาก Ambush+Gouge สามารถทำลาย Mana Shield ของคู่ต่อสู้ได้เลยนะ อย่าบอกฉันนะว่าฟางเก่อเชว่มั่นใจในตัวเองถึงขนาดว่าสามารถยืนชนการโจมตีของกัวกัวได้เกิน 5 วินาที โดยไม่มีโล่คอยป้องกันอยู่น่ะ?”
“ไม่ใช่หรอก…”
หลินว่านเอ๋อส่ายหัวและพึมพำออกมาอย่างไม่รีบร้อน
“ไม่มีนักเวทย์คนไหนมีความมั่นใจขนาดนั้นหรอก การโจมตีของนักฆ่ามันสามารถทำลายโล่ได้เป็นธรรมดาอยู่แล้ว ฟางเก่อเชว่เองก็ไม่ใช่มือใหม่และก็คงจะรู้ถึงความจริงข้อนี้ดีอยู่แล้วล่ะ…”
“แล้วถ้างั้นทำไมเธอไม่ลองอ่านความคิดของฟางเก่อเชว่ดูซักหน่อยล่ะยะ?”
“ไม่ย่ะ…”
หลินว่านเอ๋อเม้มปากสีแดงสดของเธอ แทบจะไม่ได้ยินเสียงอะไรขณะที่เธอพึมพำออกมาเบาๆ
“อ่านใจน่ะเป็นเพียงพลังประเภทวิญญาณอย่างหนึ่งเท่านั้น ชั้นเองก็เกือบจะอ่านใจเขาได้อยู่แล้ว แต่ตัวเกมมันไม่ปล่อยให้ชั้นอ่านได้ทุกความคิดหรอกนะ ก็นั่นแหละ เกมนี้มันคลุมเครือไม่มีความชัดเจนอยู่แล้วนี่ นอกจากนี้ถ้าฟางเก่อเชว่สามารถอ่านใจได้เหมือนกันแล้วละก็พลังแห่ง่จิตใจของเขาก็น่าจะแข็งแกร่งพอที่จะป้องกันชั้นได้อยู่แล้ว ดังนั้นไม่ว่ายังไงชั้นก็ไม่สามารถอ่านใจเค้าได้หรอก…”
ผมเงยหัวขึ้นและมองไปยังเวทีอย่างตั้งใจ
“เฮ้ ดูนั่นสิเหมือนจะเริ่มมีอะไรเกิดขึ้นแล้วนะน่ะ…”
…. ในสนามต่อสู้เหมือนมีเสียงประกายไฟเกิดขึ้น มันมาจากร่างเงาเบลอๆที่ปกคลุมไปด้วยสายฟ้าบนไหล่ของฟางเก่อเชว่ ถ้าคุณลองมองดีๆแล้วละก็จะมองเห็นว่ามันเป็นปีศาจที่ถือสามง่ามอยู่
“นั่นมันอสูรสายฟ้านี่นา!”
ทันใดนั้นพื้นดินก็สั่นสะเทือนขณะที่อสูรสายฟ้าร้องเสียงดัง จี้จี้ เกิดสายฟ้าโผล่ขึ้นเหนือหัว ขณะที่พื้นดินด้านหลังของฟางเก่อเชว่เกิดรอยแยกพร้อมเสียงดัง ตู้ม! นี่คือหนึ่งในสกิลหลักๆของอสูรสายฟ้า Lightning Abyss 2172! ด้วยผลกระทบจากสกิล Lightning Abyss ทำให้ชิงเฉียนถูกเปิดเผยตัว
เธอถือมีดและพุ่งเข้ามาพร้อมกับใช้ Absolute Step เพียงเสี้ยวพริบตาเธอก็ตวัดมีดไปทางด้านขวาใส่ฟางเก่อเชว่ เพื่อทำสถานะสตั๊นใส่เขา! ขณะที่ชิงเฉียนโจมตี หมาป่าเพลิงของเธอก็ไม่ลังเลเช่น มันคำรามเสียงดังก้องและเริ่มโจมตีใส่ฟางเก่อเชว่ ชิงเฉียนได้ทำการเปลี่ยนตัวสัตว์เลี้ยงไปในตอนที่ซ่อนตัวอยู่นั่นเอง ฉัวะ!
MISS ตัวใหญ่เกิดขึ้นกลางอากาศ ส่วนฟางเก่อเชว่ก็ไปปรากฏตัวขึ้นในอีกที่หนึ่งพร้อมกับสะบัดพัดในมือ Fire and Ice Storm ถูกเรียกใช้แล้ว! +3000 2717! เยว่ชิงเฉียนกระดกน้ำยาฟื้นพลังได้ทันเวลาพอดี แต่พลังชีวิตของเธอก็ยังคงอยู่ในขั้นวิกฤตอยู่ดี เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ฟางเก่อเชว่ยืนอยู่อย่างองอาจ
และหลังจากนั้นก็ใช้ Spiral Ice Dance ล็อกเป้าไปที่เท้าของชิงเฉียนแล้วมันก็ระเบิดขึ้น ชิงเฉียนทำได้แค่ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างงงงวย มีดในมือหล่นลงกับพื้นแล้วร่างของเธอก็สลายกลายเป็นแสงสีขาวออกจากสนามต่อสู้
แว้บบ! ขณะที่ถูกส่งกลับมายังห้องพักชิงเฉียนยังคงจับมีดค้างไว้อยู่และกรีดร้องพลางกระทืบเท้า
“ไอ้แบบนั้นมันยังเรียกว่าการต่อสู้ได้อีกเหรอเนี่ย? หนูไม่ได้มีโอกาสโจมตีเลยแม้แต่น้อย หนูจะไปป้องกันเวทย์มนตร์ของฟางเก่อเชว่ได้ยังไงในเมื่อหนูไม่ได้มีเกราะมนตราพิโรธแบบพี่เซียวเหยาเนี่ยยย”
ว่านเอ๋อยิ้มและพูดว่า
“ไม่ต้องกังวลหรอกน่าชิงเฉียน รอบหน้าก็ระวังตัวตอนที่หายตัวหน่อยก็แล้วกัน จำเอาไว้ว่าตราบใดที่เธอสามารถสตั๊นเขาได้ เธอก็มีโอกาสที่จะฆ่าฟางเก่อเชว่ได้ เธอแค่เชื่อมั่นในการทำลายโล่ของเขาให้ได้ก็พอน่า”
“รับทราบค่ะ!”
ชิงเฉียนถูกส่งกลับไปยังสนามต่อสู้อีกครั้ง โชคไม่ดีที่เธอยังคงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลการต่อสู้ได้และการระวังภัยรอบตัวระดับเทพของฟางเก่อเชว่ดูเหมือนจะล่วงรู้ทุกการเคลื่อนไหวของชิงเฉียน หลังจากระดมยิงเวทย์ออกไป เขาก็ส่งนักฆ่าคนสวยของเราออกนอกสนามต่อสู้มาอีกครั้ง
2:0 ฟางเก่อเชว่ได้รับชัยชนะเหนือเยว่ชิงเฉียน! …..
ขณะที่ผมปลอบชิงเฉียนผมก็มองไปที่เวทีอีกครั้ง การต่อสู้ของตงเฉิงเยว่กำลังจะเริ่มขึ้นล่ะ
Cang Yue [Lv 70 Gold Mage] VS Death’s Contract [Lv 70 Gold Knight] …
ตงเฉิงเยว่ถือคฑาของเธอขณะที่มองไปยัง Death’s Contract ผู้ซึ่งกำลังรอคอยอยู่ในสนาม
“เฮ้ นายเป็นคนรักของพี่ Promised Love นี่นา ชั้นจะฆ่านายยังไงดีละเนี่ย อิอิ มันยากมากๆเลยนะที่คลาสอัศวินจะมาได้ไกลถึงขนาดนี้ ชั้นรู้สึกแย่จังที่จะต้องส่งนายออกไปจากรอบ 16 คนสุดท้าย…”
ผมมองไปที่เธอและทำเมินต่อมารยาไปซะแล้วพูดว่า
“อีกหนึ่งเกรียนของชาวเรากำลังจะออกไปโชว์ฝีมืออีกคนแล้ว เอ้าทุกคนปรบมือขอให้เธอกลับมาอย่างอลังการหน่อยสิ้”
แล้วทุกคนก็ค่อยๆปรบมืออย่างช้าๆ ตงเฉิงดูหงุดหงิดขึ้นมาทันทีจากนั้นเธอก็มองไปที่ว่านเอ๋อที่กำลังปรบมืออยู่แล้วก็พูดว่า
“อะไรกันยะ? นี่กำลังเล่นอะไรกันอยู่ คอยดูชั้นเถอะ เดี๋ยวแม่จะเจี๋ยนมันในเสี้ยววิแล้วจะลงมาจัดการ ฮึ่มม”
ทุกคนใบ้แดก เอาเป็นว่าทุกคนกำลังมองแม่หญิงกวนอูถูกส่งขึ้นไปยังสนามก็แล้วกันนะ …. ตงเฉิงสมกับเป็นนักเวทย์ระดับสูง อัศวินที่รู้ว่าควรจะต่อสู้ยังไงนั้นถูกสอยออกไปหมดแล้ว แต่ Death’s Contract ก็แข็งแกร่งใช่ย่อย แม้ว่าเขาจะมีข่าวลือว่ามีพลังป้องกันที่เกือบจะเท่ากับหวางจื้อเฉิงและกระทั่งมีพลังโจมตีที่สูงกว่า
แต่คู่ต่อสู้ของเขาคือตงเฉิงเยว่ นางงามปีศาจคนนี้ ด้วย Lightning Finger+Magma Lance รัวๆตบท้ายด้วย Indigo Sea Arrow ไปอีกหลายดอก ก็สอย Death’s Contract ม่องไปสองรอบ ผ่านเข้าสู้รอบ 8 คนสุดท้ายไปอย่างง่ายดาย หลังจากนั้นถูกส่งกลับมาตงเฉิงก็ออกมาโม้อย่างมีความสุข
“เป็นไง? น้องสาวคนนี้ฆ่าได้โหดดีมะ?”
ผมหยุดคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับไปว่า
“คู่ต่อสู้คนถัดไปของเธอคือฟางเก่อเชว่ ชั้นหวังว่าเธอคงยังยิ้มออกนะ หึหึ”
ตงเฉิงพลันหน้าซีดในทันทีและพูดว่า
“แง้ ชั้นขอร้องเถอะ อย่าเพิ่งพูดถึงคู่ต่อสู้คนถัดไปได้มะ แค่คิดมันก็ทำให้ชั้นจะป่วยตายอยู่ล่ะ แง้ ทำไมช่วงเวลาของชั้นมันมาไวไปไวขนาดนี้นะ….”
ผมตอบกลับไปว่า
“เอาล่ะแม่คุณหญิงวีรบุรุษ ได้โปรดมีเมตตา อย่าพูดอะไรไปมากกว่านี้เลยนะครับ มาดูการต่อสู้กันเงียบๆดีกว่านะ มามะ”
จากนั้นการต่อสู้ของกรุ้ป C ก็เริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็ว รอบแรกเป็นของชางถ่งกับซิมเปิ้ลนั่นเอ
แว้บบบ! หลังจากฟังเจียนเฟิงหานกระซิบอะไรบางอย่าง ซิมเปิ้ลก็เข้าสู่สนามต่อสู้ ว่านเอ๋อยืนอยู่ในนั้นเช่นกัน หลังจากสัญญาณต่อสู้เริ่มขึ้น เธอก็ใช้ absolute step เพิ่มความเร็ว 150% เป็นเวลา 12 วินาที นี่มันเกมเร็วชัดๆ
หลังจากนั้นว่านเอ๋อก็เข้าสู่โหมดหายตัวไปจากตำแหน่งเดิม ซิมเปิ้ลเองก็ไม่ใช่มือสมัครเล่น สัญชาตญาณของเธอได้บอกให้ร่าย Magma Lance ไปยังตำแหน่งที่ว่านเอ๋ออยู่ เกิดใบไม้ปลิวว่อนไปทั่วสนาม ทำให้ตำแหน่งของว่านเอ๋อถูกเปิดเผย แต่เธอก็รวดเร็วยิ่ง รีบกระโดดขึ้นไปซ่อนตัวท่ามกลางใบไม้ที่กำลังร่วงหล่นลงมา
ซิมเปิ้ลกัดฟันของเธอและเริ่มรู้สึกถึงความพ่ายแพ้ขณะที่เธอใช้ Dimension Leap เพราะเธอรู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกมาจากด้านหลัง ว่านเอ๋อนั่นเอง เธอพุ่งเข้ามาและโจมตีได้สำเร็จ
ฉั่วะ ฉั่วะ ฉั่วะ สามการโจมตีต่อเนื่อง ก่อนที่สถานะตาลายจะหายไป ว่านเอ๋อก็จัด Gouge ซ้ำไปอีกครั้ง จากนั้นเธอก็สังหารซิมเปิ้ลด้วย Twin Blade Harmony ….
ซิมเปิ้ลแพ้ไปอย่างง่ายดาย แต่เธอไม่ได้แพ้ในแง่ของอุปกรณ์ แต่แพ้ให้แก่แท็คติคของว่านเอ๋อ อย่างไงก็ตามแท็คติคของว่านเอ๋อนั้นห้าวหาญเกินไป เริ่มด้วย absolute step ตามด้วยการโจมตีอย่างหนักหน่วง นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่มีใครซักคนใช้รูปแบบนี้ในทัวร์นาเม้น
ซิมเปิ้ลเป็นหนึ่งในนักเวทย์ระดับสูงและการเห็นเธอเดินเล่นอยู่ในสนามต่อสู้ก็ไม่ใช่อะไรที่รู้สึกดีอยู่แล้วล่ะนะ การต่อสู้รอบต่อมาได้แก่ เย่ไหล กับชางเฉิง ฉั่วะ หวังจื้อเฉิงปรากฏตัวขึ้นบนเวทีพร้อมกับหอกและโล่สีทองในมือ เขามองไปที่หัวหน้ากิลด์ Judgement อย่างดุร้ายก่อนจะทักทายว่า
“อ้า ท่านหัวหน้ากิลด์ judgement เป็นยังไงบ้างครับ?”
แก๊ง!! ขวานศึกของเย่ไหลถูกเหวี่ยงลงกับพื้นเกิดประกายไฟไปทั่วอากาศ
“ชั้นได้ยินมาว่านายนำ Hero Mound’s First Division ไปยังเมืองป้าหวงเพื่อรังแกคนอื่นงั้นเหรอ ทั้งๆที่นายเป็นแกนนำคนสำคัญของกิลด์แต่กลับเอากิลด์ Hero Mound’s First Division มาเป็นของตัวเอง เจอกับสวะอย่างนาย ชั้นไม่ต้องการคุยด้วยหรอกนะแต่ชั้นจะสับนายออกเป็นชิ้นๆด้วยขวานของชั้นเนี่ยแหละ!”
ที่มา: