I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 282 – กู้หน้า

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

ไม่ว่าจะเป็นเพราะ ‘ชูเฟิง’ ข่มขู่ ‘ไป๋ยี่’ หรือเพราะคำสั่งจากผู้นำสำนักสาวหยก ไม่มีใครล่วงรู้ถึงเหตุการณ์ระหว่าง ‘หย่าน รู่วหยู’ และ ‘ชูเฟิง’ แม้แต่ ‘หลี่ ซางฉิง’ ก็ยังไม่รู้เรื่องนี้

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ ‘หยาน รู่วหยู’ ได้หายตัวไป มันเป็นเรื่องที่ยากจะปิดบัง ดังนั้นข่าวการหายตัวไปของ ‘หยาน รู่วหยู’ จึงแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากข่าวแพร่กระจายออกไป ย่อมเกิดความวุ่นวายตามมา หลายๆ คนต่างสอบถามถึงการหายตัวไปของ ‘หยาน รู่วหยู’ เพราะการรวมตัวของทั้งร้อยสำนัก ศิษย์อันดับหนึ่งของแต่ละสำนักจึงเป็นบุคคลสำคัญ และการหายตัวไปเช่นนี้ แม้แต่ผู้นำสำนักเองก็ยังไม่ทราบถึงสาเหตุการหายตัวไป

เรื่องเช่นนี้ทำให้บุคคลภายนอกต่างสับสนวุ่นวาย แม้แต่ภายในสำนักสาวหยกเองก็ยังไม่มีใครรู้ว่า เกิดอะไรขึ้นระหว่าง ‘ชูเฟิง’ และ ‘หยาน รู่วหยู’

หลายคนต่างคาดเดาว่า เพราะ ‘หยาน รู่วหยู’ ไม่ต้องการแต่งงานกับ ‘ชูเฟิง’ และนางไม่กล้าเผชิญหน้ากับผู้นำสำนัก นางจึงหลบหนีการแต่งงานไป

มันไม่สมควรที่ ‘ชูเฟิง’ จะกล่าวถึงเรื่องการคาดเดาเหล่านั้น เพราะที่จริงแล้วนั้น เรื่องมันร้ายแรงยิ่งกว่าที่พวกเขาคาดเดาเอาไว้ และหากว่าความจริงปรากฏขึ้นมา ย่อมไม่เป็นผลดีทั้ง ‘ชูเฟิง’ และ ‘หยาน รู่วหยู’ รวมถึงสำนักสาวหยก

เพียงไม่กี่วันผ่านไป การชุมนุมของร้อยสำนักนั้นทวีความเข้มข้นขึ้น ในที่สุดก็มาถึงช่วงสุดท้ายของการชุมนุม

‘ชูเฟิง’ และ ‘หลี่ ซางฉิง’ ที่ได้รับสิทธิ์พิเศษในการร่วมการแข่งขัน ก็ได้เวลาเข้าร่วมการแข่งขันเป็นครั้งแรก แต่เมื่อพวกเขาไปถึง พวกเขาก็ต้องพบกับความประหลาดใจ เพราะผลของการแข่งขันนั้นค่อนข้างแปลกประหลาด

หลังจากการต่อสู้ ตำแหน่งผู้แข็งแกร่งที่สุดของ ผู้นำสำนัก และ ลูกศิษย์ ทั้งสองตำแหน่งถูกครอบครองโดยสำนักหลิงหยุน

ตำแหน่งลูกศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุด ตกเป็นของศิษย์อันดับหนึ่งของสำนักหลิงหยุน ‘เฟิงห่าว’ เขามีพลังอยู่ในระดับ 6 ขั้นแก่นวิญญาณ อาจกล่าวได้ว่าตำแหน่งศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นเหมาะสมกับเขาแล้ว

แต่เขาก็เป็นเพียงศิษย์อันดับสองของสำนักหลิงหยุน นอกจาก ‘ตู่กู๋ โอวหยุน’ ก็ไม่มีศิษย์คนไหนสามารถเอาชนะเขาได้ในอาณาจักรมังกรฟ้า

เมื่อเทียบตำแหน่งศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุด กับผู้นำสำนักที่แข็งแกร่งที่สุด ก็เกินจากความคาดหมายเล็กน้อย

เพราะว่าผู้นำสำนักหลิงหยุนไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันใดๆ หรือแม้แต่เหล่าผู้อาวุโสก็ไม่ได้เข้ารวมเช่นกัน มีเพียงศิษย์อันดับหนึ่งของสำนักหลิงหยุน ‘ตู่กู๋ โอวหยุน’ เท่านั้นที่เข้าร่วม

ในตอนนั้น เมื่อเห็น ‘ตู่กู๋ โอวหยุน’ ยืนอยู่บนลานต่อสู้ เพื่อคัดเลือกผู้นำสำนักที่แข็งแกร่งที่สุดนั้น ทั้ง ‘ชูเฟิง’ และ ‘หลี่ ซางฉิง’ จึงเข้าใจได้ทันทีว่า ‘ตู่กู๋ โอวหยุน’ สามารถเอาชนะผู้นำสำนักอื่นๆ และได้ครองตำแหน่งผู้นำสำนักที่แข็งแกร่งที่สุดไป

นี่ไม่ได้เป็นการแสดงความแข็งแกร่งของเขาเท่านั้น แต่มันเป็นการพิสูจน์ความแข็งแกร่งของสำนักหลิงหยุนอีกด้วย เพราะผู้นำสำนัก และเหล่าผู้อาวุโสของสำนักไม่ต้องลงมือเอง ก็สามารถจัดการกับทุกสำนักได้อย่างง่ายดาย

“นี่…นั่นใช่สวะสองคนจากสำนักมังกรฟ้าใช่หรือไม่ !?”

“จริงๆ พวกเขาไม่น่าจะออกมาเลย ข้าคิดว่าหลังจากผ่านไปหลายวัน พวกเขาคงจะหนีไปแล้ว โดยไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันใดๆ เสียอีก”

“หืม….วันนี้พวกเขาจะต้องต่อสู้กับ ตู่กู๋ โอวหยุน และ เฟิงห่าว ถ้าพวกเขาไม่กล้าต่อสู้ พวกเขาจะต้องถูกประณามอย่างแน่นอน”

“ใช่ !! พวกเขาได้รับตำแหน่งพิเศษ จากความสัมพันธ์ของพวกเขากับ ฉี เฟิงหยาง แต่ดูๆ ไปแล้ว ฉีเฟิงหยาง ไม่ได้ช่วยพวกเขา แต่เป็นการกลั่นแกล้งพวกเขามากกว่า”

เมื่อ ‘ชูเฟิง’ และ ‘หลี่ ซางฉิง’ ปรากฏตัว สายตาจากทุกๆ คนและจากทุกๆ สำนักต่างจับจ้องมาที่พวกเขา ด้วยสายตาที่เหยียดหยาม และรอคอยเรื่องตลกที่จะเกิดขึ้น

เพราะถ้า ‘ชูเฟิง’ และ ‘หลี่ ซางฉิง’ ไม่กล้าเผชิญหน้ากับ ‘ตู่กู๋ โอวหยุน’ นั่นจะแสดงให้เห็นว่า พวกเขาไม่สมควรได้รับตำแหน่งพิเศษ

แต่ถ้าพวกเขายอมรับการท้าทายนี้ แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องพ่ายแพ้ เพราะความแตกต่างของพลังของ ‘ชูเฟิง’ และศิษย์อันดับสองของสำนักหลิงหยุนนั้นต่างกันเกินไป

และถึงแม้ว่า ‘หลี่ ซางฉิง’ จะมีพลังระดับ 8 ขั้นแก่นวิญญาณ แต่ก็ยังไม่แน่ว่าจะสามารถเอาชนะ ‘ตู่กู๋ โอวหยุน’ ที่สามารถเอาชนะผู้นำสำนักที่มีพลังระดับ 8 ขั้นแก่นวิญญาณมาได้ หรือแม้กระทั่งระดับ 9 เขาก็อาจจะเอาชนะได้

ด้วยความ ‘ตู่กู๋ โอวหยุน’ สามารถเอาชนะผู้นำสำนักอื่นๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ นั่นจึงเป็นการแสดงถึงความแข็งแกร่งของเขา มันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะไม่เชื่อว่า ‘หลี่ ซางฉิง’ จะสามารถเอาชนะ ‘ตู่กู๋ โอวหยุน’ ได้

“ผู้นำสำนักหลี่ ตามกฏของการชุมนุมร้อยสำนัก ท่านและ ชูเฟิง มีสิทธิ์ที่จะท้าทาย ตู่กู๋ โอวหยุน กับ เฟิงห่าว ตามลำดับ”

“ตราบใดที่ท่านสามารถเอาชนะ ตู่กู๋ โอวหยุน ได้ ชื่อของผู้นำสำนักที่แข็งแกร่งที่สุดจะเป็นของท่าน และชื่อสำนักมังกรฟ้าจะโด่งดังไปทั่วทั้งอาณาจักรมังกรฟ้า แต่ข้าก็สงสัยอยู่ว่า ท่านจะกล้าท้าทายหรือไม่”

ผู้นำสำนักหลิงหยุน หยาน ‘หยางเทียน’ จ้องไปที่ ‘หลี่ ซางฉิง’ พร้อมกับยิ้มอย่างเย้ยหยัน

“โฮ่ๆ……ตั้งแต่ท่านผู้นำหยาน ไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันนี่ แม้ว่าข้าจะได้รับตำแหน่งผู้นำสำนักที่แข็งแกร่งที่สุดไป มันก็ไร้ความหมาย”

“ข้าเป็นเพียงผู้เฒ่าเท่านั้น ข้าไม่ได้กลัวเหล่าคนหนุ่มสาว แต่ข้าเห็นว่ามันจะไม่เหมาะสม หากว่าตำแหน่งผู้นำสำนักที่แข็งแกร่งที่สุด จะตกเป็นของลูกศิษย์ในสำนัก ไม่ใช่เหล่าผู้นำสำนัก”

“งั้นข้า หลี่ ซางฉิง เลือกที่จะรับคำท้าทาย”

*****วู้ววววววว*****

หลังจากกล่าวจบ ‘หลี่ ซางฉิง’ ก็ดระโดดขึ้นไปบนเวที และหยุดอยู่ตรงหน้าของ ‘ตู่กู๋ โอวหยุน’ ในทันที

“นี่……….หลี่ ซางฉิง ยอมรับคำท้าทายอย่างนั้นรึ !?”

ในตอนนั้น เหล่าผู้คนที่ตั้งใจตะมาดูความขายหน้าของ ‘หลี่ ซางฉิง’ ต่างตกตะลึง รวมถึงผู้นำสำนักที่พ่ายแพ้ให้กับ ‘ตู่กู๋ โอวหยุน’ ก็มีใบหน้าที่ปั้นยาก พวกเขามีแต่ความสับสนที่อยู่ภายในหัวใจของพวกเขา

ไม่ได้มีเหตุผลมากมาย หลังจากคำพูดของ ‘หลี่ ซางฉิง’ นั้น มันแสดงถึงความไม่เหมาะสมของการกระทำของสำนักหลิงหยุน ที่ต้องการฉีกหน้าของเหล่าผู้นำสำนักอื่นๆ และในตอนนี้ ‘หลี่ ซางฉิง’ ก็กำลังจะกู้หน้าของผู้นำสำนักกลับคืนมา

“ท่านผู้นำหลี่ หมัดและเท้าไม่มีตา หากข้าลงมือรุนแรงไป ก็โปรดอภัยให้ข้าด้วย”

‘ตู่กู๋ โอวหยุน’ ที่ยืนอยู่บนเวที ยิ่มให้กับ ‘หลี่ ซางฉิง’ ด้วยท่าทีที่หยิ่งผยอง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้มีสัมมาคาราวะ และเขาก็ไม่เห็น ‘หลี่ ซางฉิง’ อยู่ในสายตา อีกทั้งยังแสดงกิริยาอย่างกับ ศิษย์พี่ สั่งสอน ศิษย์น้อง

“หมัดและเท้าไม่มีตาจริงๆ นั่นแหละ หากข้ารุนแรงเกินไป เจ้าก็อย่าได้ถือโทษแล้วกันนะ”

‘หลี่ ซางฉิง’ ไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดมากนัก เขากล่าวออกมาพร้อมทั้งยิ้มบาง จากนั้นก็มีลมปรากฏขึ้นที่ใต้เท้าของเขา ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนดวงตาไม่อาจจับร่างของเขาได้ทัน เหลือไว้เพียงความพร่ามัวของภาพติดตาเท่านั้น

ทักษะลับระดับ 6 แม้ว่าเหล่าลูกศิษย์ของสำนักมังกรฟ้าจะไม่สามารถเรียนรู้ทักษะนี้ได้ แต่ ‘หลี่ ซางฉิง’ สามารถเข้าใจมันได้อย่างถ่องแท้

*****วู้ชชชช วู้ชชชช วู้ชชชช*****

ร่างกายของ ‘หลี่ ซางฉิง’ เปลี่ยเปลี่ยนแปลงไปคล้ายกับมังกรยาว หมุนรอบตัว ‘ตู่กู๋ โอวหยุน’ อย่างรวดเร็วและน่ากลัว

“หลี่ ซางฉิง สามารถเข้าใจทักษะได้อย่างลึกซึ้งจริงๆ มันไม่เกี่ยวเลยว่าสำนักมังกรฟ้าจะเคยเป็นสำนักชั้นสองมาก่อน แต่ทักษะการต่อสู้นี่ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก”

“น่าประทับใจจริงๆ ที่ หลี่ ซางฉิง สามารถปกปิดความสามารถของเขาเอาไว้ได้อย่างน่ากลัวเช่นนี้”

ทักษะการต่อสู้ของ ‘หลี่ ซางฉิง’ ที่แสดงให้เห็นนั้น ต่างทำให้เหล่าผู้คนรอบด้านเข้าใจในทันทีว่า พวกเขาดูถูก ‘หลี่ ซางฉิง’ มากเกินไป

อย่างไรก็ตาม เมื่อ ‘ตู่กู๋ โอวหยุน’ สังเกตสถานการณ์รรอบๆ ตัวของเขา เขาก็ไม่เห็นอยู่ในสายตาของเขาเช่นเดิม และรอยยิ้มเย้ยหยันก็ปรากฏที่มุมปากของเขา

แปลโดยคุณ#

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments