ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“ไม่ ถ้าข้าคืนร่างให้เจ้าควบคุมเจ้าคิดว่าจะหนีรอดไปได้อย่างนั้นหรือ”
“ถ้าพวกมันสามารถจับเจ้าได้ ทั้งข้าแล้วเจ้าก็จะตาย ทำไมเจ้าไม่ลองเดิมพันกับข้าดูล่ะ “
‘ต้านต้าน’ ไม่ยอมให้ชูเฟิงกลับมาคุมร่างของเขา เธอเช็ดเลือดที่มุมปากของเธอ จากนั้นกัดฟันควบคุมร่างของ’ชูเฟิง’และทำทุกอย่างเท่าที่สามารถจะทำได้ ต้านต้านนั้นได้กระตุ้นปีกสีดำให้บินไปข้างหน้าสุดแรงของเธอ
“ต้านต้าน นี่เจ้า”
ในตอนนั้น ‘ชูเฟิง’รู้สึกเจ็บปวด เพราะรู้สึกว่า’ต้านต้าน’กำลังเอาชีวิตเอาเธอมาเสี่ยงเพื่อเขา อย่างไรก็ตามความรู้สึกที่ต้องหลบอยู่หลังผู้หญิงนั้นก็ทำให้ชูเฟิงรู้สึกหดหู่มากทีเดียว
ในสถานการณ์แบบนี้ พลังของ’ต้านต้าน’นั้นอ่อนแอลงเรื่อยๆ ควันสีดำที่ตัวเธอจางลงจางลง ความเร็วของเธอนั้นลดลงเรื่อยๆ และในที่สุดมันก็หมดลง ไม่เพียงเท่านั้น ‘ชูเฟิง’และ’ต้านต้าน’นั้น ไม่สามารถสลัดทั้ง2คนที่ตามมาให้หลุดไปได้ ทำให้ระยะห่างระหว่างพวกเขาลดลงเรื่อยๆ
“ความเร็วของเจ้าเด็กเหลือขอนั่นลดลงแล้ว เร็วเข้า รีบไปจับมันให้ได้ อย่าให้มันได้หยุดพัก ข้าจะต้องฆ่ามันให้ได้ “
‘หยาน หยางเทียน’ ที่ตื่นตระหนกและรู้สึกยินดีมากเพราะอยู่ๆความเร็วของ’ชูเฟิง’ก็ตกลง และร่างกายเอนไปมาราวกับจะร่วงลงไปเมื่อไหร่ก็ได้ เขาจึงตะโกนอย่างบ้าคลั่งและ ใช้พลังทั้งหมดพุ่งเข้าไปหา’ชูเฟิง’
“คราวนี้ข้าจะไม่ยอมให้มันหนีไปได้ ข้าจะต้องฉีกและสับมันเป็นชิ้นๆ “
ความโกรธ ของ ‘หลิน โม่หลี่’ ก็ได้ประทุขึ้นมา สายตาและออร่าของเขานั้นเต็มไปด้วยเจตนาที่จะฆ่า’ชูเฟิง’เมื่อเขาจับตัว’ชูเฟิง’ได้
“อั้ก!”
ทันใดนั้น’ชูเฟิง’ได้ถ่มเลือดออกมาจากเขา และปีกสีดำที่อยู่บนหลังเข้านั้นได้หายไปทันที ร่างกายของเขากำลังจะร่วงลงไปในป่าของภูเขาด้านล่าง
“นี่ข้าจะต้องพ่ายแพ้ให้กับเจ้า2คนนั้นหรือ มันช่างน่าตลกยิ่งนัก… “
ในตอนนั้น’ชูเฟิง’ก็ยังไม่สามารถคุมร่างตัวเองได้ แต่เขานั้นได้ยินเสียงของต้านต้านที่เต็มไปด้วยความขมขื่นและอ่อนล้ามาก
“บัดซบ บัดซบจริงๆ”
แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะการรับรู้ของต้านต้าน ริบหรี่มาก จึงไม่สามารถคืนร่างให้’ชูเฟิง’ได้ มี’ชูเฟิง’เท่านั้นที่รู้สึกตัว และตอนนั้น’ฉี เฟิงหยาง’ที่อยู่บนไหล่เขาก็เริ่มจะร่วงลงแล้ว
* * * * * * * * ตูม
‘ชูเฟิง’ และ ‘ฉี เฟิงหยาง’ ได้ร่วงลงในป่าในที่สุด แรงที่ร่างของ’ชูเฟิง’และ’ฉีเฟิงหยาง’ร่วงลงมาสู่พื้นนั้น ทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่บนพื้นดิน และก่อให้เกิดควันจำนวนมาก ทำให้นกและสัตว์ป่าวิ่งหนีกันพล่าน
“ฮ่าฮ่า! เจ้าเด็กเหลือขอ เวลาของกำลังจะเจ้าหมดลงแล้ว เจ้าหนีได้แค่นี้แหละ “
‘หยาน หยางเทียน’ รีบตามไปอย่างรวดเร็ว เขามองไปยังควันด้านล่างด้วยความสุขอย่างมาก แต่เขาก็ไม่ประมาทเขาปล่อยแรงกดดันไปสู่พื้นที่ด้านล่างเพื่อรับรู้และปิดทางการหนีของ’ชูเฟิง’ในขณะที่เขาค่อยๆลอยลงมา
* * * * * * * * หวือ
ต่อมา ‘หลิน โม่หลี่’ที่ไล่ตามมาทันนั้น พุ่งไปด้วยความโกรธตรงไปหาควันที่ลอยขึ้นหนาและตะโกนลั่นว่า
“ชูเฟิงชีวิตของเจ้าได้จบลงแล้ว !!”
‘หลิน โม่หลี่’ สะบัดของแขนเข้าไปพัดควันให้ออกไป หลังจากควันหายไปนั้นใบหน้าของทั้งสองก็เกิดของเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ใบหน้าของพวกเขาบูดบึ้งเพราะพบบางอย่างที่ผิดปกติ พวกเขาประหลาดใจมากแม้จะพบหลุมขนาดใหญ่อยู่บนพื้น แต่ไม่ได้มีร่างของ’ชูเฟิง’และ’ฉี เฟิงหยาง’อยู่ พวกเขาหายไปอย่างลึกลับ!
“ไปไหน มันหายไปไหน มันหนีไปซ่อนที่ไหน ออกมาเดี๋ยวนี้ “
‘หลิน โม่หลี่’ ตะโกนร้องอย่างบ้าคลั่ง
“ดูนั่น มีบางอย่างอยู่!”
‘หยาน หยางเทียน’ ชี้นิ้วไปที่หลุมลึก ‘หลิน โม่หลี่’ ตรงไปดูตามทางที่ ‘หยาน หยางเทียน’ ชี้ แล้วเขาก็ตกใจเพราะในหลุมนั้นมีข้อความบางอย่างอยู่ เนื้อหาในข้อความนั้นได้กล่าวว่า
” เทือกเขามังกรฟ้า ชีวิต และ การต่อสู้ที่เดิมพันด้วยชีวิต!!”
“นี้มัน”
หลังจากที่ได้เห็นข้อความเหล่านั้น ‘หยาน หยางเทียน’ และ ‘หลิน โม่หลี่’ พลันหายใจติดขัด พวกเขาหันไปมองไปรอบๆ และพบกับความว่างเปล่า ทำให้ ความไม่สบายใจ ความกลัว ความกังวลเพิ่มขึ้นพร้อมๆกัน
“พวกเราทำยังไงดี นี่เป็นไปได้ว่ามีบางคนนั้นช่วยชูเฟิงไว้ “
‘หลิน โม่หลี่’ กล่าวด้วยความกลัว เขากลายเป็นคนมีเหตุผลขึ้นทันทีทั้งที่ก่อนหน้านี้นั้นเขาแทบจะกลายเป็นคนบ้า
“ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น ถ้ามีคนมาช่วยชูเฟิงจริง ก็ไม่มีความจำเป็นต้องทิ้งข้อความไว้ ชูเฟิงต้องใช้ทักษะบางอย่างที่บังสายตาเราแล้วหนีออกไปอย่างแน่นอน”
‘หยาน หยางเทียน’พูด
“แล้วตอนนี้เราต้องทำยังไง “
‘หลิน โม่หลี่’ ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของคฤหาสน์องค์ชายกิเลน ได้สูญเสียความเยือกเย็นของเขาและคิดอะไรไม่ออก
“เราจะไปทำอะไรได้ ตอนนี้มีแค่ทางเดียวต้องไปที่สำนักมังกรฟ้า!! “
‘หยาน หยางเทียน’ ตอบ
2 วันต่อมา ภายในวิหารในหุบเขาร้อยเลี้ยว ‘ฉี เฟิงหยาง’ได้ลืมตาขึ้น เขาจำได้ว่าเขาโดน’ชูเฟิง’แบกอยู่และกำลังหนีจากนั้นก็ร่วงเข้าไปในป่าหลังจากนั้นเขาจำอะไรไม่ได้อีกเลย
“เจ้าตื่นแล้ว!”
เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น เขายกหัวขึ้นมองและพบว่าเป็นสหายเก่าของเรา เจ้าของวิหารนี้ที่เป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดสีฟ้า
“ชูเฟิงเป็นไงบ้าง เขาอยู่ไหน ท่านได้ช่วยเขาไว้ใช่หรือไม่ “
‘ฉี เฟิงหยาง’ ลุกขึ้นนั่ง และมองหาตัว’ชูเฟิง’
“ไม่ต้องห่วง ข้าช่วยเขาไว้แล้ว “
ผู้เชี่ยวชาญลึกลับตอบ
“พี่ชาย เฮิงหยวน ข้ารู้ว่าท่านไม่ทิ้งให้ข้าตายแน่นอน “
หลังจากพูดเสร็จเขาก็ยิ้มและพูดอีกว่า
” ตอนนี้ชูเฟิงอยู่ที่ไหนหรือ “
“ข้าได้ส่งเขาไปสถานที่ที่เขาควรจะไป “
ผู้เชี่ยวชาญลึกลับตอบ
“ที่ๆเขาควรจะไปอย่างนั้นหรือ”
‘ฉี เฟิงหยาง’ พูดอย่าสงสัย
“ข้า เจียง เฮิงหยวน ได้สาบานไว้แล้วว่าจะไม่ยุ่งกับอาณาจักรมังกรฟ้า และ ไม่มีส่วนร่วมใดๆกับอาณาจักรมังกรฟ้า ข้านั้นแค่ตามหาผู้ที่มีกายาศักดิ์สิทธิ์ “
“ข้านั้นได้ฝ่าฝีนคำสาบานของตัวเองและได้ช่วยเจ้ากับชูเฟิงไว้ เหตุผลที่ข้าช่วยชีวิตของพวกเข้าไม่ใช่เพราะเจ้าหรอกนะ เป็นเพราะว่าชูเฟิงนั้นเป็นต้นกล้าชั้นดีของอาณาจักร ข้าจึงต้องช่วยเขาไว้ “
“เขามีความสามารถมากมายเพียงอายุแค่นี้ เขายังสามารถพัฒนาได้ขึ้นเรื่อยและในอนาคตเขาอาจจะเหนือกว่าเด็กรุ่นใหม่ของอาณาจักรอื่นๆ. “
“ข้ากลัวว่าซักวันนึงนั้น เขาจะสามารถก้าวข้ามสัตว์ประหลาดน้อยของราชวงศ์ข้าไป เพราะข้าสัมผัสได้ว่าในร่างของเจ้าหนุ่มนั่นมีบางอย่างที่พิเศษอยู่ แต่สำหรับสิ่งนั้นแม้เป็นข้าก็ไม่สามารถระบุถึงมันได้ “
“แต่มีสิ่งนึงที่เขาทำให้ข้าประหลาดใจ มันก็คือ เขาเสี่ยงชีวิตของตัวเองเพื่อช่วยเจ้า ไม่มีคนมากนักหรอกที่จะทำแบบเขาดังนั้นเขาจึงมีค่าพอที่ข้าจะช่วย “
‘เจียง เฮิงหยวน’ พูด ในตอนนั้น ‘ฉี เฟิงหยาง’ ก็ยิ้มเบาๆและไม่ถามถึง’ชูเฟิง’อีก เขาเปลี่ยนหัวข้อสนทนากับ’เจียง เฮิงหยวน’เป็นเรื่องอื่นๆ เขาได้เข้าใจถึง ‘เจียง เฮิงหยวน’ที่มาช่วยเขาในครั้งนี้ และ การประเมิน’ชูเฟิง’ จาก’เจียง เฮิงหยวน’นั้นบอกได้ว่า
ปัจจุบัน’ชูเฟิง’นั้นอยู่ในที่ปลอดภัย
“อืม ~~~”
ในที่ที่ห่างไกลจากหุบเขาร้อยเลี้ยว ‘ชูเฟิง’ ลืมตาขึ้นด้วยความงุนงง เขารู้สึกปวดหัวอย่างมากในขณะที่สำรวจตัวเองอยู่หลังจากที่ตรวจสอบเสร็จแล้ว เขาพบว่าไม่มีอะไรผิดปกติ เขาจึงกวาดตามองรอบๆ จากนั้นมีความประหลาดใจเกิดขึ้นในสายตาเขาและเขาก็ได้ถามตัวเองว่า
“ที่นี่คือที่ไหน”
แปลโดยคุณ#
ที่มา: