ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“ฮ่า ๆ ดี ตรงไปตรงมาดี!”
“ทุกคน มันก็แค่ 1 ล้านเม็ด จากพวกเราแปดมหาอำนาจช่วยกันออกคนละ 125,000 เม็ดก็ครบแล้ววไม่มีใครคัดค้านใช่หรือไม่ “
‘เจี่ย หยาน’กล่าวว่า
“ไม่คัดค้าน”
ผู้นำของสำนักอื่นๆพูดขึ้น มีแต่สมาคมโลกวิญญาณเท่านั้นที่บอกว่าไม่ แล้วเขาก็หันไปมอง’ชูเฟิง’ จึงทำให้’ชูเฟิง’รู้ว่าเขากำลังคิดอะไร
“ไม่ เพียงเจ็ดมหาอำนาจของเจ้าเท่านั้น.”
แต่อยู่ๆ’ชูเฟิง’ก็พูดขึ้นมา
“เจ้าหมายความว่ายังไง”
ผู้นำสำนัก ‘หยวน กัง’ ถาม
“ในฐานะที่ข้าเป็นส่วนหนึ่งของสมาคมโลกวิญญาณ ข้าจะเอาทรัพยากรของฝ่ายตัวเองไปทำไม นอกจากนี้ สมาคมโลกวิญญาณ ไม่ต้องการแขนขวาข้า และในทำนองเดียวกันข้าเชื่อว่า เขาไม่ต้องการ สมบัติใน ขวานอสูรฟ้าของข้า “
“ดังนั้นการแลกเปลี่ยนครั้งนี้จึงเกิดขึ้นระหว่างข้า และมหาอำนาจทั้ง 7เท่านั้น “
‘ชูเฟิง’ ยิ้มและพูด
“เจ้า .. “
หลังจากที่ได้ยิน’ชูเฟิง’พูดใบหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนแปลง เพราะคำพูดของ’ชูเฟิง’นั้นเป็นเรื่องจริง
“ทุกคน นี่ก็แค่จ่ายลูกแก้วแก่นแท้วิญญาณเพิ่มขึ้นแค่นั้นเอง หรือว่าเราไม่สามารถจ่ายมันได้ล่ะ “
“เราก็แค่เพิ่มเป็นคนละ 150000 และอีก 5 หมื่นสำหรับมือของเขา “
“จากที่ทุกท่านทราบดี ต่อให้เป็นอัจฉริยะแต่ถ้าเสียมือไปข้างนึงก็จะมีผลกระทบอย่างมากในอนาคต “
‘เจี้ย หยาน’พูด และยิ้มด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยการเหยียดหยาม
“ถูกต้อง. มันก็แค่จ่ายลูกแก้วแก่นแท้วิญญาณเพิ่งขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น พวกเราะไม่มีปัญญาจ่ายงั้นหรือ ชูเฟิง 1 ล้าน 5หมื่นนเหม็โคงพอที่จะทำใหเจ้าใช้ชีวิตที่เหลืออย่างสบายๆเลยใช่หรือไม่ ฮ่าๆๆๆ… “
ตอนนั้น ผู้นำคนอื่นๆก็หัวเราะเช่นกัน ในการหัวเราะของเขามีการเยาะเย้ยดูถูก’ชูเฟิง’อยู่ ว่าเขาเห็นเงินมากกว่าชีวิต
‘ชูเฟิง’ ยิ้มเล็กน้อย เขาสะบัดมือขวาและนั่นทำให้ขวานอสูรฟ้าปรากฏอยู่บ้านมือเขา เขามองไปที่ฝูงชน กล่าวว่า
“ พวกท่านไม่ต้องกังวลหรอก ว่ามันจะพอสำหรับการใช้ชีวิตที่เหลือของข้าหรือไม่ “
“ดังนั้น ถ้าพวกท่านจ่ายมาเมื่อใด ขวานนี้ก็จะเป็นของพวกท่านทันที “
“นี้…”
‘เจี้ย หยาน’และคนอื่นๆ ถูกคุมเกมส์โดย’ชูเฟิง’ ด้วยคำพูดแค่นั้น ใครจะบ้าพก ลูกแก้วแก่นแท้นับแสนเม็ดในตัวโดยไม่มีเหตุผล แม้รวบรวมทั้งหมด ของพวกเขาด้วยกันอย่างมากกว่าก็แสนเม็ด
“เจ้านคร ฉิน … “
ในตอนนั้น พวกเขามองด้วยสายตา ขอร้องไปยังเจ้านครอันทรงเกียรติ ‘ฉิน เล่ย’
“โฮ่ … ทุกคนนี่มันเกินข้อจำกัดของนครอันทรงเกียรติแล้ว และ ข้าก็ไม่มีเพียงพอที่จะสนับสนุนพวกท่านหรอกนะ “
เห็นเยี่ยงนั้น ‘ฉิน เล่ย’ รีบยิ้มและกล่าวขอโทษขอโพย ต่อให้เขามีพอมันก็ต้องขายหลายอย่างไป และเขาก็ไม่โง่ที่จะให้คนเหล่านั้นยืม เพราะจำนวนล้านเม็ดมันไม่ใช่จำนวนน้อยๆเลย มันอาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนักให้นครอันทรงเกียรติ
“อะไรนะ พวกท่านไม่สามารถจ่ายได้หรือ ผู้นำสำนักอย่างพวกท่านนี้ข้าคิดว่าจะรวยกว่านี้อีกนะเนี่ย “
‘ชูเฟิง’พูด พร้อมยิ้มเย้ยหยัน
“ไร้สาระ ใครจะบ้าพก ลูกแก้วแก่นแท้วิญญาณขนาดนั้นโดยไม่มีเหตุผลล่ะ “
ผู้นำ สำนัก หยวนกังพูด
“ฮึ่ม นี่มันก็เรื่องของพวกท่าน ข้าให้เวลาพวกท่าน 10วัน พวกท่านต้องเอา ลูกแก้วแก่นแท้วิญญาณ 1 ล้านเม็ดมาให้ข้า หลังจากนั้นพวกท่านไม่สามารถโทษข้าได้เมื่อข้าออกจากที่นี่ “
‘ชูเฟิง’เสียงแค่นเสียงอย่างเย็นชาแล้วพูดออกมา
“อะไรนะ สิบวัน มันไม่น้อยไปอย่างนั้นหรือ”
“นั่นคือปัญหาของท่านไม่ใช่ของข้า “
“เจ้า … “
หลังจากที่ได้ยินคำพูด’ชูเฟิง’ เจ้าสำนักทั้งหลายถึงกับโกรธเล็กน้อย
‘เจี้ย หยาน’ ยังคงนิ่งสงบ เขายิ้มเบาๆและพูดว่า
” ชูเฟิง ในอีก 10 วัน เราจะมาพบกันที่นี่ แล้วจงจำไว้ว่าอย่างเล่นตุกติกใดๆ เพราะไม่มีใครช่วยเจ้าได้ “
หลังจากที่พูดเสร็จ ‘เจี้ย หยาน’ เดินจากไปอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับฝูงชนที่พวกเขากำลังเดินออกเช่นกัน
“ท่านเจ้านคร ฉิน นี่คือการตอบแทนของท่านที่ข้านั้นได้ช่วยชีวิตท่านไว้อย่างนั้นหรือ “
‘ชูเฟิง’พูดพร้อมแฝงเจตนาฆ่าไปในสายตาของเขา
เมื่อได้ยินคำพูด’ชูเฟิง’ ใบหน้าของ ‘ฉิน เล่ย’ เปลี่ยนทันที มันแฝงไปด้วยความโกรธและความอับอาย หลังจากลังเลสักพักเขาก็รีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
“ชูเฟิง เจ้าบ้าไปแล้วหรือ เจ้าจะให้ขวานอสูรฟ้ากับพวกมันจริงหรือ “
‘กู โป๋’ ยิงคำถามใส่ชูเฟิงด้วยใบหน้าที่สับสน
“ขวานอสูร ฟ้าเป็นยุทธภัณฑ์ชั้นยอดและในอนาคตเจ้าคิดว่าเจ้าจะได้รับของเช่นนี้อีกหรือ “
“น้องชายชูเฟิง เจ้ายินดีเสียแขนไปข้างนึงเพื่อนแลกกับลูกแก้ว 1 ล้านเม็ดจริงๆหรือ เจ้าช่างใจร้อนเหลือเกิน “
‘สู จงหยู’ พูดพร้อม ส่ายหัว
“ตระกูลเจี้ยนั้นไม่พอใจเจ้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพบว่าเจ้าเป็นอัจฉริยะที่หาจับตัวได้ยาก ต่อให้ไม่มีเรื่องขวานพวกมันจะต้องหาทางกำจัดเจ้าแน่นอน “
“มันก็แค่นั้นแหละ …ชูเฟิงเจ้าเป็นพรรคพวกของเรา การที่เห็นเจ้าต้องโดนตัดแขน มัน … “
ใบหน้าของรองประมุข เกา ก็ซีดลงเล็กน้อย
“รองประมุขอย่างพูดเรื่องนั้นเลย ข้าชูเฟิงซาบซึ้งในน้ำใจของสมาคมโลกวิญญาณจริงๆ และเรื่องวันนี้มันเริ่มต้นโดยข้าและข้าไม่ต้องการลากสมาคมไปลงนรกด้วย และทำให้คนบริสุทธิ์ต้องตายเพราะข้า “
‘ชูเฟิง’ พูด
“อ่า … “
รองประมุข เกา ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้และถาม’ชูเฟิง’ว่าว่า
” ชูเฟิงมีอะไรที่ข้าพอจะช่วยเจ้าได้ไหม”
‘ชูเฟิง’มองไปรอบๆหลังจากไม่พบอะไรก็ไปกระซิบที่หูของท่านรองเกา ว่า
“ข้าต้องการยาต้องห้ามที่สามารถยกระดับการบ่มเพาะของข้า ที่ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับผลกระทบ “
“ข้าต้องการยันต์ทะลวงวิญญาณไม่ต่ำกว่า 10 อันเพื่อทะลวงไปยังรูปแบบวิญญาณระดับสีฟ้า ท่านรองท่านจะช่วยข้าเรื่องนี้ได้หรือไม่ “
“ชูเฟิงนี่เจ้าจะ … “
หลังจากที่ได้ยิน’ชูเฟิง’ พูดเขาเบิกตากว้างและเขาคิดว่า’ชูเฟิง’จะทำบางอย่าง
และเมื่องมองที่’ชูเฟิง’ และเห็นว่ามีรอยยิ้มบนหน้าของเขา และ’ชูเฟิง’กำลังรอคำตอบจากท่านรองเกาอยู่
“อ่า บางทีวิธีนี้อาจจะดีกว่าไม่ทำอะไรเลย เพียงแต่ข้ากลัวว่าเจ้าจะทะลวงมันได้ไม่ทันวันนั้นน่ะสิ เพราะมันเป็นเรื่องยากจริงๆที่จะเข้าไปสู่ระดับสีฟ้า “
ใบหน้าของรองประมุข เกา ตอนนี้นั้นบอกได้ว่าเขานั้นทำอะไรไม่ถูกเลย หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า
” ชูเฟิงไม่ต้องกังวลภายใน10วันข้าจะให้คำตอบที่น่าพอใจแก่เจ้าแน่นอน “
หลังจากนั้นท่านรอง เกา และคนอื่นๆจากสมาคมก็พูดคุยกับ’ชูเฟิง’สักพัด
อย่างไรก็ตามเพื่อความปลอดภัยของ’ชูเฟิง’ ‘สู จงหยู’ และ ‘กูโป๋’ มาเป็นบอดี้การ์ดให้’ชูเฟิง’ เพราะเขาไม่แน่ใจว่าใน10วันนี้จะมีคนกล้าโจมตี’ชูเฟิง’
แน่นอนว่า ‘เจีย หยาน’ และคนอื่นๆ ไม่ค่อยไว้ใจ’ชูเฟิง’เท่าไหร่นัก พวกเขาต้องสั่งให้คนคอยจับตาดู’ชูเฟิง’แน่นอน หาก’ชูเฟิง’มีท่าทีที่จะหนี พวกเขาจะโจมตี’ชูเฟิง’ และ ปิดชีวิตของเขา
แปลโดยท่าน#ฮาย
ที่มา: