I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 474 – สิ่งที่มีมูลค่ามหาศาล

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

หลังจากที่ได้ยินคำกล่างเช่นนั้นออกจากปากของราชาวานรนั้น ใบหน้าขอทุกคนในเหตุการณ์ต่างเต็มไปด้วยความตกตตะลึง ยกเว้นเพียง ‘ชูเฟิง’ และ ‘จื่อ หลิง’ ใบหน้าของพวกเขายังคงประดับไปด้วยรอยยิ้ม และสายตายังคงมองไปที่สถานการณ์ตรงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น

“ผู้อาวุโสกล่าวว่าเขาจะทำลายทุกๆ อย่าง ถ้าในแง่ของความอาวุโสนั้น เขายังคงเป็นหน้าใหม่ในรุ่นผู้อาวุโส มันจะไม่มากไปหน่อยรึ สิ่งที่ำพวกเราทำมาทั้งหมดจะไร้ความหมาย เพราะในตอนนี้ ชูเฟิง ยังคงมีชีวิตอยู่อย่างดี”

“มองกลับไปที่ เจี่ย ฉือ และเหล่าขุมอำนาจต่างๆ นั้น ในตอนนี้พวกเขาก็ได้จ่ายค่าตอบแทน ที่พวกเขาสมควรจ่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น เรื่องในครั้งนี้ก็ควรถึงคราวยุติสักที”

องค์จักรพรรดิ์ กล่าวพลางยิ้มบาง เขาไม่ได้โกรธเลยแม้แต่น้อย

เมื่อเห็นเช่นนั้น ‘เจี่ย ชิงเผิง’ ผู้นำนิกายโลกวิญญาณ และเหล่าผู้คนมมกมาย ต่างพากันตกใจอย่างมาก พวกเขาเข้าใจว่า ศักดิ์ศรีขององค์จักรพรรดิ์สูงค่า และเขาคงจะยอมตายมากกว่าที่จะยอมถอย

ใครจะไปคาดคิดกันว่า ในตอนนี้ องค์จักรพรรดิ์จะยอมลดศักดิ์ศรีของเขาลง นั่นทำให้ภาพลักษณ์ขององค์จักรพรรดิ์ในหัวใจของทุกคนพังทลายลง

อย่างไรก็ตาม ราชาวานรนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก จึงไม่น่าแปลกใจที่องค์จักรพรรพิ์ที่ปกครองทั้งเก้าอาณาจักรจะยอมถอยเช่นนี้

“ความแค้นทั้งหมดจะจบลงตรงนี้ใช่หรือไม่ ในอนาคตจะไม่มีการเกิดภัยพิบัติที่ไม่สิ้นสุดใช่หรือไม่”

“ข้าไม่ได้สนใจในสวะเหล่านี้ หากในอนาคตทายาทของข้า ถือกำเนิดขึ้นมา พวกเขาจะไม่ถูกจับเป็นตัวประกันเพื่อขู่ข้าใช่หรือไม่”

“หากในอนาคตทายาทของข้า ต้องพบเจอกับภัยพิบัติที่ไม่สิ้นสุด จนต้องสูญพันธุ์ไป รับรองได้เลยว่า พวกเจ้าจะได้เข้าไปนอนในโลงพร้อมกับความยุติธรรม”

‘ราชาวานร’ กล่างตอบอย่างเกรี้ยวกราด

หลังจากที่’ราชาวานร’กล่าวนั้น ทุกคนต่างพากันตกตะลึง เพราะทุกคนรู้ดีว่า ตระกูลเจี่ย และอีกสี่มหาอำนาจ จะไม่ยอมเลิกลา ในอนาคตพวกเขาจะต้องหาทางแก้แค้นอย่างแน่นอน

แต่องค์จักรพรรดิ์ไม่ใช่คนธรรมดา เมื่อเขาต้องเผชิญความกดดันของราชาวานร เขากลับไม่ได้ใส่ใจในคำกล่าวเหล่านั้นมากนัก เขายิ้มบางๆ และกล่าวออกมาว่า

“ผู้อาวุโส ไม่ต้องกังวลในเรื่องนั้น”

“ถึงแม้ข้าจะไม่ได้อยู่ยืนยงคำฟ้า แต่ราชวงศ์เจียงของข้านั้น ก่อตั้งขึ้นมาในเก้าอาณาจักรกว่าพันปี และข้าเชื่อมั่นว่า มันจะต้องคงอยู่ต่อไป”

“ในวันนี้ ข้าสามารถให้สัญญาได้ว่า ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นพวกเขา หรือเหล่าทายาทของพวกเขา จะไม่สามารถทำอันตรายเหล่าทายาทของท่าน ชูเฟิง และนิกายโลกวิญญาณได้”

“หากพวกเขาพผิดคำสัญญานี้ ไม่จำเป็นต้องให้ถึงมือผู้ใด ราชวงศ์เจียงจะเป็นคนจัดการสังหารพวกเขาเอง”

“คำกล่าวของเจ้าฟังดูดี แต่มันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า เจ้าได้เข้ากับฝ่ายใด หากข้าตายลง ราชวงศ์เจียงของเจ้าคงร่วมมือกับเหล่าทายาทของพวกนั้น และเข้าโจมตีเหล่าทายาทของข้า หากเป็นเช่นนั้น ข้าไม่ขาดทุนรึ”

‘ราชาวานร’ กล่าวพลางขดริมฝีปาก ใบหน้าเปลี่ยนแปลง โดยที่ไม่อาจยอมรับกับคำสัญญานั้นได้

“ผู้อาวุโส ถ้าท่านกล่าวเช่นนี้ ท่านต้องการสิ่งใด เพื่อที่จะละเว้นชีวิตของพวกเขา”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น องค์จักรพรรดิ์ ก็กล่าวถามออกมาตรงๆ แก่’ราชาวานร’ เพราะเขาต้องการให้เรื่องราวจบด้วยความประณีประนอม

“เจ้าหนู ข้ารู้ว่ามันเป็นเรื่องยากสำหรับเจ้า หากข้าทำลายพวกเขาทั้งหมด ที่มีประวัตศาสตร์ยาวนานกว่าพันปี มันจะส่งผลอย่างมากต่อเก้าอาณาจักรของเจ้า แต่ถึงอย่างไร คนทำผิดก็ต้องได้รับโทษ”

“ดังนั้น ข้าก็ไม่ใช่คนไร้เหตุผล ข้าจะให้โอกาสแก่พวกเจ้า”

“หากว่าพวกเจ้าทุกขุมอำนาจ มอบลูกแก้ววิญญาณขั้นแดนสวรรค์มา หนึ่งหมื่นเม็ด ข้าจะละเว้นโทษสำหรับพวกเจ้า”

‘ราชาวานร’ กล่าว

“อะไรนะ !! ลูกแก้วสวรรค์หมื่นเม็ด !!”

หลังจากได้ยินเช่นนั้น ตระกูเจี่ย และสี่ขุมอำนาจ ก็ตกตะลึงอย่างมาก

เพราะว่าลูกแก้วสวรรค์นั้นคือสมบัติอย่างแท้จริง ด้านพลังวิญญาณนั้น ลูกแก้วแดนสวรรค์เพียงหนึ่งลูก มีค่าเท่ากับลูกแก้วแก่นแท้วิญญาณหมื่นลูก และลูกแก้วสวรรค์หมื่นลูก ก็มีค่าเท่ากับลูกแก้วแก่นวิญญาณหนึ่งร้อยล้านลูก

ด้วยมูลค่ามหาศาลขนนาดนี้ มันสามารถทำให้ผู้คนอาเจียรออกมาเป็นเลือดได้เลยทีเดียว ไม่ต้องกล่าวถึงหมื่นลูก สี่ขุมอำนาจไม่มีแม้แต่ลูกเดียวของลูกแก้วสวรรค์ ทั้งเก้าอาณาจักรนั้น มีเพียงราชวงศ์เจียงเท่านั้นที่มี “ลูกแก้วสวรรค์”

แต่ว่า แม้แต่ในราชวงศ์เจียงเองนั้น ผู้ที่จะสามารถได้รับ ลูกแก้วแดนสวรรค์นั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีความดีความชอบเท่านั้น ดังนั้น ข้อเรียกร้องของราชาวานรจึงเป็นสิ่งที่สูงค่าอย่างมาก มันเป็นเหมือนกับการขุดหลุมฝังศพของพวกเขารอล่วงหน้า

“ผู้อาวุโส ไม่ต้องพูดถึงสี่ขุมอำนาจเลย แม้แต่ราชวงศ์เจียงของข้า ก็ไม่อาจมอบลูกแก้วแดนสวรรค์หมื่นเม็ดได้”

องค์จักรพรรดิ์ กล่าวพลางปาดเหงื่อที่เย็นเยียบบนหน้าผากของเขา เมื่อต้องเผชิญหน้ากับราชาวานรที่ป่าเถื่อนเช่นนี้

“แล้วถ้าเป็นทุกขุมอำนาจน่าย สิบล้านลูกแก้วแก่นวิญญาณล่ะ คงจะไม่มีเป็นใช่รึไม่”

‘ราชาวานร’ กล่าว

“นี่………”

องค์จักรพรรดิ์มองไปที่ ‘เจี่ย ชิงเผิง’ และอดีตผู้นำของทั้งสี่มหาอำนาจและกล่าวออกมาว่า

“ผู้อาวุโส กล่าวตามตรง พวกเขาไม่สามารถจ่ายสิ่งที่มีมูลค่ามากเช่นนั้นได้ แม้ว่าพวกเขาจะจำหน่ายสิ่งของทั้งหมดของพวกเขาออกไป ก็ไม่สามารถที่จ่ายได้”

“มันคงจะง่ายกว่า หากท่านฆ่าพวกเขา แทนที่จะให้พวกเขามอบลูกแก้วแก่นวิญญาณสิบล้านลูก”

องค์จักรพรรดิ์กล่าวอย่างอับจนปัญญา พลางส่ายศรีษะช้าๆ

“ดี !! ข้าจะฆ่าพวกเขาซะ หากพวกเขาไม่สามารถจ่ายได้”

ขณะที่ราชาวานรกล่าวนั้น ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานราวกับสีเลือด พลังวิญญาณที่ไร้ขีดจำกัดถูกปลดปล่อยมาจากร่างกายของเขาทันที

แรงกดดันมหาศาลเข้าปกคลุมพื้นดิน และท้องนภา บดบังแม้กระทั่งดวงจันทร์ และเมฆหมอก แม้แต่กองทัพของราชวงศ์เจียงที่ยืนอยู่กลางอากาศ ก็ไม่อาจต้านทานแรงกดดันที่ราวกับพายุเช่นนี้ได้ พวกเขาต่างถูกแรงกดดันโหมกระหน่ำจนแตกกระเจิง

“หยุดก่อน ผู้อาวุโส !!”

เมื่อเห็นเช่นนั้น ใบหน้าขององค์จักรพรรดิ์ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เขารีบตะโกนออกมา พร้อมกับปลดปล่อยพลังวิญญาณที่ไร้ขีดจำกัดออกมา เพื่อต้านทานแรงกดดันของราชาวานร

แรงกดดันมหาศาลของทั้งสองคนเข้าปะทะกันอย่างบ้าคลั่ง ท้องฟ้ายามราตรีที่เคยเงียบสงบ พลันแปรปรวนอย่างนวดเร็ว ด้วยเสียงคำรามของพายุ และสายฟ้าฟาด

ด้วยพลังแรงกดดันที่มหาศาลเช่นนั้น ทำให้หลายๆ คนกระอักเลือดออกมา โชคดีที่แรงกดดันมหาศาลนั้นกินเวลาเพียงไม่นาน แต่แม้จะไม่นานนั้น ก็ทำให้หลายคนบาดเจ็บ และบางคนตายลง

“เจ้าหนู เจ้าคิดจะสู้กับข้าเช่นนั้นรึ !!”

ราชาวานร กล่าวถามพลางจ้องมองไปที่องค์จักรพรรดิ์ด้วยความกราดเกรี้ยว ท้องฟ้า และผืนแผ่นดินสั่นสะเทือนด้วยคำกล่าวของเขา นี่แสดงให้เห็นได้อย่างชึดเจนถึงความแข็งแกร่งของเขา

“ผู้อาวุโส ข้าไม่คิดที่จะต่อสู้กับท่านทข้าเพียงแต่จะเปลี่ยนข้อเสนอ ตระกูลเจี่ย นิกายไป๋ หุบเขาไร้ใจ สำนักหยวนกัง และสำนักเทพอัคคี ทั้งหมดจะจ่ายท่านด้วยลูกแก้วแก่นวิญญาณห้าล้านลูก”

องค์จักรพรรดิ์ ยอมถอย และยื่นข้อเสนอใหม่ออกมา

..

แปลโดยคุณ#

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments