ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป* * * * * โฮ่กกก ~~~~~~ * * * * *
หลังจากที่อสูรราชันย์วานรพูดจบ อสูรวิญญาณชั้นสูงทั้ง 8 จากพิภพอสูร ก็ได้คำรามออกมาจากนั้นพวกมันก็จ้องมองลงมาจากท้องฟ้าร้อมกับก้าวเท้าลงมาอย่างรวดเร็ว ในขณะนั้นพวกมันเปิดปากที่ใหญ่โตไล่สังหารผู้เชี่ยวชาญจากตระกูลเจี่ย และ สี่มหาอำนาจ จนกำลังพลของพวกนั้นล้มตายจำนวนมาก
เมื่อผู้คนจากตระกูลเจี่ยและสี่มหาอำนาจเห็นฉากนองเลือด พวกเขารีบหลับตาลงด้วยความหวาดกลัวอย่างหาใดเปรียบ
ในทางกลับกัน คนของนิกายโลกวิญญาณนั้นมีใบหน้าที่สะใจเหมือนกับว่าพวกเขาได้ระบายความแค้น โดยไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวแห่งความเห็นอกเห็นใจอยู่บนใบหน้าของพวกเขา อีกทั้งยังแอบเอาใจช่วยส่งเสริม 8 อสูรวิญญาณให้รีบๆทำลายศัตรูที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขาให้สิ้นซาก
แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะยื่นมาออกมาร่วมสู้รบ เพราะพวกเขากลัวอสูรวิญญาณทั้ง 8 ตนอย่างมาก พวกเขากลัวลึกลงไปในจิตใจว่าในสนามรบแห่งนี้หากพวกเขาโดนลูกหลงจากอสูรวิญญาณ คงไม่จบที่แค่บาดเจ็บ หากคิดดีๆมันได้ไม่คุ้มเสีย
” ทุกคนโปรดยั้งมือเดี๋ยวนี้!!! “
ในช่วงเวลาที่สำคัญก็มีเสียงดังออกมาจากฟากฟ้าไกลอีก ที่มาพร้อมกับพลังอำนาจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
* โฮ่กกกก *
หลังจากได้เสียงนั้นดังขึ้น อสูรวิญญาณทั้งแปดก็คำรามออกมาเบาๆ พร้อมกับก้าวถอยหลังกลับไปหา อสูรราชันย์วานร ขณะที่สายตาของพวกมันเต็มไปด้วยความกลัว ในขอบฟ้า ณ เวลานั้น สายตาของทุกคนเหวี่ยงไปด้านที่มาของเสียง
*** ปึ้ง ปึ้ง ปึ้ง ปึ้ง ***
ในตอนนั้นก็มีเสียงระเบิดดังสนั้นจากขอบฟ้าทิศใต้ ในตอนนั้นมีรถศึกสีทองหลายคันปรากฏขึ้นมาในยามค่ำคืนยิ่งกว่านั้นมันยังมุ่งหน้ามายังทิศทางนิกายโลกวิญญาณด้วยความรวดเร็ว
รถศึกนั้นถูกลากโดยสัตว์มหึมา อาณาจักรสวรรค์ พวกเขาดูน่าเกรงขาม ยิ่งในเวลาราตรี รถศึกสีทองเหล่านั้น ดูพลั่งพราวและเปล่งประกายอย่างมาก
ดานข้างรถศึกสีทองเต็มไปด้วยกำลังพลมากกว่าพันคน
คนเหล่านั้นทั้งหมดสวมเกราะสีทองและขี่อาชาสี่ขาที่สามารถบินได้ ภายในกองทัพมีธงสัญลักษณ์ตั้งอยู่บนนั้นมีอักษรสองคำ ตัวใหญ่ปักไว้ว่า ” ราชวงศ์เจียง “
” ในที่สุดราชวงศ์เจียงก็ออกมาสินะ ? “
‘ชูเฟิง’พึมพำกับตัวเองเมื่อเขาได้เห็นกองทัพของราชวงศ์เจียง
” แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง “
‘จื่อ หลิง’ ที่ยืนอยู่ข้างๆกล่าว
” แต่จากสิ่งที่ข้าเห็น นั้นถือว่าพวกเขามาได้ถูกจังหวะ “
อสูรราชันย์วานร หัวเราะขณะที่มอง ‘ชูเฟิง’ และ ‘จื่อหลิง’ จากนั้นก็เหวี่ยงสายตาไปที่กองทัพราชวงศ์เจียง
ในตอนนั้นกองทัพราชวงศ์เจียงถูกจ้องมองโดยสายตาของผู้คนนับไม่ถ้วน ขณะที่หยุดอยู่กลางอากาศ พวกเขาไม่ได้หยุดอยู่เหนือนิกายโลกวิญญาณ แต่อยู่นอกเขตของนิกาย
” ผู้นำของตระกูลเจี่ยและนิกายโลกวิญญาณออกมานี่!!! “
ทันใดนั้นหลังจากที่กองทัพขนาดใหญ่หยุดก็มีเสียงดังระเบิดออกมา เสียงที่ออกมานั้นเต็มไปด้วยพลังที่แข็งแกร่งอย่างมาก มันเข้าโอบล้อมพื้นที่โดยรอบ นอกจากอสูรราชันย์วานร ผู้คนจากตระกูลเจี่ย และสี่มหาอำนาจต่างถูกพัดไปด้วยแรงกดดัน
” นั้นองค์จักรพรรดิ!!! เขาคือจักรพรรดิแห่งราชวงศ์เจี่ยง!!! “
ในตอนนั้นอาวุโสระดับสูงของนิกายโลกวิญญาณขมวดคิ้วแน่นหลังจากที่ได้ยินเสียง พวกเขาสามารถบอกได้เลยว่าที่มาของพลังนั้นคือจักรพรรดิแห่งราชวงศ์เจียง
” นั้นองค์จักรพรรดิจริงๆด้วย นี้มันช่างน่ายินดียิ่งนัก ฮ่า ๆ ๆ “
ในตอนนั้นเทียบกับใบหน้าของอาวุโสจากนิกายโลกวิญญาณ คนจากตระกูลเจี่ย และ สี่มหาอำนาจต่างมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า
****พรึบ****
ในเวลาเดียวกัน ‘เจี่ย ฉิงเผิง’ ก็โดดลอยไปยังทิศทางรถศึกที่มีองค์จักรพรรดิประทับอยู่ อย่างเริงร่า
ประมุขนิกายโลกวิญญาณเองก็เช่นกัน เขารีบโดดลอยเข้าไปในรถศึกในชั่วพริบตา
” พี่ใหญ่ ตอนนี้เราควรทำยังไง ? “
ในตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ถาม
” ไม่ต้องกังวล มันก็คือกลุ่มของพวกขยะ ข้าจะดูสิว่าพวกมันจะมาไม้ไหน “
ราชันย์วานรยืนอยู่บนอากาศ ขณะที่ไร้ซึ่งท่าทีตื่นตระหนก เหมือนกับว่าไม่เห็นราชวงศ์เจียงอยู่ในสายตา
ผ่านไปไม่นาน ประตูที่ปิดก็เปิดออก ในตอนนั้นมีชายวัยกลางคนที่ท่าน่าเกรงขาม สวมมงกุฏสีทองไว้บนหัว บนร่างกายของเขาเองก็เป็นชุดสีทอง ขณะก้าวออกมา จากนั้น ‘เจี่ย ฉิงเผิง’ และ ประมุขนิกายโลกวิญญาณก็ตามหลังเขาออกมาเช่นกัน
ผู้ชายคนนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก แม้แต่พลังวิญญาณของ ‘ชูเฟิง’ ก็ยังไม่อาจตรวจสอบความแข็งแกร่งของชายผู้นั้นได้ ดูแล้วเหมือนว่า ‘เจี่ย ฉิงเผิง’ และ ประมุขนิกายโลกวิญญาณ จะเคารพผู้ชายคนนั้นอย่างมาก
ไม่ต้องบอก’ชูเฟิง’ก็รู้ว่าเขาคือผู้ปกครองอาณาจักรทั้ง 9 ผู้นำของราชวงศ์เจียงคนปัจจุบัน
” ข้าน้อยคือจักรพรรดิแห่งราชวงศ์เจียง ขอคารวะราชันย์วานรและกู๋ เทียนเซิน “
หลังจากที่จักรพรรดิก้าวเข้ามาในอาณาเขตของนิกายโลกวิญญาณ เขาก็ยิ้มออกมา ขณะที่ประสานมือโค้งตัวเล็กน้อย ทำความเคารพอสูรราชันย์วานรและ’กู๋ เทียนเซิน’
” โอ้ เจ้าหนุ่ม เจ้ารู้จักข้าด้วยหรอ “
อสูรราชันย์วานร หลี่่ตาลงเบาๆ พร้อมกับปรากฏความประหลาดใจ
” อาวุโส เมื่อร้อยปีก่อน ท่านทำให้ทั้งทวีปต่างตกตะลึง ในเวลานั้นข้าได้ไล่ถามเรื่องราวของท่านกับอาวุโสของราชวงศ์เจียง ข้าจึงทราบชื่อเสียงเรียงนามของท่าน “
” อาวุโส ข้าน้อยสามารถกล่าวได้ว่าเติบโตมาพร้อมกับเรื่องราวความสำเร็จของท่าน ข้าไม่เคยนึกเลยว่าท่านยังมีชีวีตและจะได้มาเห็นท่านด้วยตาคู่นี้ นับว่าเป็นเกียรติของข้าจริงๆ “
จักรพรรดิไม่มีท่าทียโสโอหังใดๆ อาจบอกได้ว่าเขาเป็นคนที่ถ่อมตัวมากๆเลยซะด้วยซ้ำ
” องคฺ์จักรพรรดิ ท่านกล่าวเกินไปแล้ว ข้า กู๋ เทียนเซิน ขอคารวะท่านองค์จักรพรรดิ “
แม้ว่าในแง่ของอายุ เขาอยู่เหนือจักรพรรดิ แต่ในเรื่องสถานะตำแหน่ง รวมทั้งความแข็งแกร่งในปัจจุบัน เขานั้นยังห่างไกลกับจักรพรรดิ แต่เมื่อจักรพรรดิทักทายเขาก่อน เขาจึงไม่กล้าที่จะหยาบคาย
” เจ้าหนุ่ม เจ้าน่าสนใจเลยทีเดียว อีกทั้งยังรู้จักทักทายผู้ที่อาวุโสกว่า แต่ทั้งๆที่เจ้าเป็นผู้ปกครองทั้ง 9 อาณาจักร กับไม่สนใจเรื่องราวของยุทธภพ แม้แต่ลูกน้องที่ชั่วช้าของเจ้ากระทำความผิด เจ้ายังละเลยหน้าที่ เจ้ารู้ความผิดของตัวเองไม๊ ? “
อสูรราชันย์วานรม้วนปากพร้อมกับกล่าวว่าจักรพรรดิต่อหน้าผู้คน
” เจ้าปีศาจ ช่างกล้าอวดดีต่อหน้าองค์จักรพรรดิ!!! เจ้าคงอยากตายสินะ!!! “
เห็นเช่นนั้น ‘เจี่ย ฉิงเผิง’ ก็ต่อว่าอสูรราชันย์วานร เพื่อเอาหน้าจากองค์จักรพรรดิ
” หุบปากก!!! “
คงไม่มีใครคิดว่าจักรพรรดิจะโกรธ จนถลึงตาใส่ ‘เจี่ย ฉิงเผิง’
” ข้าน้อยผืดไปแล้ว ! “
ตอนนั้น ‘เจี่ย ฉิงเผิง’กลัวอย่างมาก จนร่างกายของเขาสั่นระรัว หลังจากนั้นเขาก็ถอยไปหนึ่งก้าว พร้อมกับก้มหัว โดยไม่กล้าพูดใดๆต่อ
” อาวุโส คำพูดของท่านถูกต้อง เหตุผลที่อาณาจักรทั้ง 9 ปั่นปวนเช่นนี้ มันคือความผิดของข้าที่ปล่อยปะละเลย “
” แต่ข้ามีเรื่องบางอย่างที่ต้องทำ จึงเดินทางออกจากทวีปไปเวลา 2 ปี เมื่อกลับเข้ามายังอาณาจักรฮั่นข้าก็ทราบข่าวเรื่องของสงครามที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น ข้าจึงรีบมุ่งหน้ามายังที่นี่เพื่อหยุดมัน แต่ข้าไม่คิดว่าจะมาช้าเกินไปหนึ่งก้าว “
” ตอนนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับอาวุโส เจี่ย ฉื่อ ที่ถูกท่านฆ่าตาย ไม่ว่าใครจะผิดหรือถูก ทุกคนก็ต่างได้รับความสูญเสีย “
” จากที่ข้าเห็น มันยังไม่ได้ลุกลามเป็นเรือง้ร้ายแรง ในตอนนี้มันยังพอมีหนทางแก้ไข และข้าก็อยากขออะไรสักอย่าง ข้าอยากข้อให้เรื่องของวันนี้ผ่านแล้วผ่านไปอย่าได้เก็บมาเจ็บแค้น ทุกคนคิดว่ายังไง ? “
จักรพรรดิกวาดสายตามองผู้เชี่ยวชาญทุกคนที่เกี่ยวข้อง
” องค์จักรพรรดิกล่าวได้ถูกต้อง พวกเรายินดีปฏิบัติตามที่ท่านเสนอ “
ในตอนนั้นเกือบจะทุกคนก้มตัวลงเพื่อแสดงความเคารพ แม้แต่ ‘กู๋ เทียนเซิน’ก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธ
แต่ใครจะคิดว่าราชันย์วานรจะไม่เต็มใจยอมรับเรื่องที่เสนอ ตอนนั้นเขาเบิกตากว้าง อ้าปากตะโกนกล่าว
” ไม่ !!! “
..
: เอาแล้วๆ พี่ลิงจะซัดราชวงศ์เจียงแล้ว
: จะบ้าหรอ เราพวกเดียวกัน!!!
: พวกเดียวกันบ้าไร ดูนิสัยของพี่ลิงแล้ว แม่งถอดแบบมาจากชูเฟิงไม่มีผิด
: ก็จริงว่าด้วยนิสัยของพี่ลิง อาจจะเป็นคนไม่ยอมใคร แต่ใช้ว่าจะเป็นคนที่ไร้เหตุผล อีกทั้งจักรพรรดิเองก็ยังถ่อมตัว ไม่อวดดี พวกเขาคงจะตกลงกันได้
: เออ งั้นมารอดูกันเลยว่าใครจะถูกหรือผิด
ที่มา: