I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 770 – ตำนาน

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 770 – ตำนาน

 

ในสายตาที่พวกเขามอง ต้านต้าน เห็นได้ชัดว่า มู่หรง ซุน , มู่หรง ว่าน และ หย่า เฟย นั้นประหลาดใจกันอย่างมาก

 

ด้วยประสบการณ์ของพวกเขา สามารถบอกได้ทันทีว่า ที่มาของต้านต้านนั้นไม่ธรรมดา ความคิดแรกของพวกเขาคิดว่านางมาจากโลกวิญญาณพิภพปีศาจ หลังจากที่ได้เห็น ออร่าที่มืดดำของนาง มันจึงน่ามาจากสถานที่แห่งนั้น

 

แต่ในไม่ช้า พวกเขาก็ต้องทิ้งความคิดเหล่านั้นออกไป เพราะออร่าของต้านต้าน นั้นอยู่ในแค่ระดับ 2 จ้าวแห่งสงคราม แต่ หย่า เฟย กับ มู่หรง ว่าน กับสู้นางไม่ได้ ซึ่งพวกเขารู้ว่า อสูรวิญญาณพิภพปีศาจไม่น่าจะมีความแข็งแกร่งได้ขนาดนี้

 

ดังนั้น พวกเขาจึงสรุปว่า ต้านต้าน อาจจะเป็น อสูรวิญญาณ ที่มาจาก พิภพอสูรฟ้า

 

อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่เคยนึกว่า จะมีอสูรวิญญาณที่งดงามได้แบบนี้ ไม่ต้องเทียบกับ มู่หรง ว่าน แม้แต่ หย่า เฟย ที่ว่างดงาม ยังต้องชิดซ้าย พวกนางอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉาในความงามของต้านต้านที่ปรากฏออกมา

 

มู่หรง ซุน เองก็ถึงกับผิวถอดสี แม้ว่าเขาจะพยายามปกปิด แต่เห็นได้ชัดว่าเขานั้นรู้สึกอิจฉา ชูเฟิง อย่างมาก เขารีบกวาดสายตาซ้ายขวา มองใต้กระโปรงของนาง ที่เต็มไปด้วยขนนกสีดำกับขาวเรียวยาวที่ขาวจั๊ว เขาตะลึงในความงดงาม และ หน้าอก ที่น่าภาคภูมิ จนไม่อาจละสายตา

 

แม้แต่คนโง่ยังมองออก ว่ามู่หรง ซุน คิดอะไรอยู่ ขนาดชูเฟิงยังบอกได้ว่า เขาเป็นคนที่หลงไหลหญิงสาวที่งดงาม

 

อย่างไรก็ตาม หากมองสายของเขาดีๆ ชูเฟิง ยังพบกับสายตาที่บ่งบอกอารมณ์ได้อีก 2 ประการ นั้นคือความอิจฉาและความโกรธจากก้นบึงภายในจิตใจ ความอิจฉาและความโกรธนั้นไม่ได้มุ่งตรงไปยังต้านต้าน แต่เป็นเขา

 

เห็นได้ชัดเลยว่า มู่หรง ซุน ไม่พอใจ ที่ชูเฟิงสามารถทำสัญญากับอสูรวิญญาณ แบบนางได้ “ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเจ้าถึงยโสโอหัง กล้าตั้งตัวเป็นศัตรูของหมู่เกาะประหาร ที่แท้เจ้าก็ทำสัญญากับอสูรวิญญาณที่มาจากพิภพอสูรฟ้า”

 

มู่หรง ซุน พูดออกมาด้วยความริษยาอันรุนแรง จากนั้นเขาก็หันไปพูดกับต้านต้านว่า”

 

แม่นางน่าเสียดายจริงๆ ที่เจ้าเลือกรับใช้คนผิด หวู่ชิงเขาไม่คู่ควรที่จะเป็นเจ้านายเจ้า””ข้าจะเลือกใครเป็นเจ้านายมันก็เรื่องของข้า ข้าไม่ต้องให้เจ้ามาบอก ว่าใครเหมาะไม่เหมาะ ? ไม่ใช้ว่าข้าดูถูกเจ้า แต่เจ้ามันไม่คู่ควรแม้จะเทียบรอยเท้าของเจ้านายข้า”

 

ต้านต้าน กล่าวอย่าง เย้ยหยัน “เจ้า . . . . .”

 

ได้ยินคำเหล่านั้น ใบหน้าของ มู่หรง ซุน ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก “พลังที่เจ้ามี ? คิดว่ามันน่าภาคภูมิใจแล้วหรอ กับอีแค่การเพาะปลูกระดับนี้ เจ้าลองก้มมองดูตัวเองสิ อายุจะปาไป 30 แล้ว แต่ยังเป็นแค่ผู้เชี่ยวชาญ จ้าวแห่งสงคราม ไม่คิดว่ามันน่าทุเรศบ้างหรอ””เจ้ามันก็แค่ กบก้นบ่อ ที่มองเห็นแต่ท้องฟ้าแคบๆ เจ้าคงคิดว่าตัวเองเหนือที่สุดในสถานที่แห่งนี้ แต่ยังไงก็ตาม ข้าจะบอกอะไรให้เจ้าฟัง แน่นอนเจ้าคงเคยได้ยินมา ว่า ‘ เหนือฟ้ายังมีฟ้า ‘ เจ้าคงไม่คิดว่าตัวเองเก่งกว่าใคร เพราะใหญ่ได้ที่นี่ จะบอกอะไรให้เจ้ารู้ไว้ ว่าในโลกแห่งนี้ ยังมีสถานที่อีกนับไม่ถ้วน และยังมีคนที่อายุน้อยกว่าเจ้าแต่สามารถฆ่าเจ้าได้แค่การบ้วนน้ำลายใส่ อยู่อีกเพียบ”

 

ต้านต้านแสยะยิ้มขณะที่พูดออกมา คำพูดที่เสียดแทงของนางไม่เพียงแต่จะแสดงออกถึงการเหยียดหยาม แต่มันยังทำให้ มู่หรง ซุน ขายหน้าอย่างมากอีกด้วย

 

เขาที่เป็นทายาทสืบทอดตำแหน่งผู้นำของหมู่เกาะประหาร ที่ได้ชื่อว่าอัจฉริยะอันดับ 1 ในทะเลตะวันออก กับถูกเยาะเย้ย ต่อหน้าต่อตา คู่หมั่นและน้องสาว ไม่ว่าเขาจะมีความอดทนมากแค่ไหน มันก็ย่อมมีขีดจำกัด “ฮ่า ฮ่า ฮ่า . . . . !!!”

 

มู่หรง ซุน มาถึงขีดสุดของความอดทนจนระเบิดเสียงหัวเราะออกมาราวกับคนบ้า จากนั้นเขาก็กล่าวว่า”

 

ปกติผู้รับใช้กับนายมันมักจะเหมือนๆกัน แต่นี้เจ้านายยโสส่วนผู้รับใช้กับอวดดีมากยิ่งกว่า””อย่างที่เจ้าพูดมา แม้ข้า มู่หรง ซุน จะเป็นแค่กบในก้นบ่อ แต่ข้าจะบอกให้รู้ไว้ ว่าแม้แต่ดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ มู่หรง ซุน คนนี้ ก็ยังคงเป็นบุคคลที่โดดเด่นเหนือใครๆ””ดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ ?! เจ้ารู้ชื่อนี้มาได้ยังไง””ไหนเจ้าบอกว่าข้าเป็นกบก้นบ่อ ไง๊ถึงตกใจแบบนั้น””กบน้อย โลกนี้มันเกินกว่าที่เจ้าจะจินตนาการได้ แม้เจ้าจะรู้เรื่องชื่อเสียงของมัน แต่เจ้าคงไม่เคยไปเหยียบมัน ดังนั้นแค่ฟังคำพูดของมันจะฟังเกินไปหน่อย หากเจ้าเคยไปจริงๆข้าเกรงว่าเจ้าจะต้องร้องไห้ ฉี่แตกฉี่แตน ด้วยความหวาดกลัว”

 

ต้านต้านเผยรอยยิ้มที่เย้ยหยัน ภายในดวงตาของนางก็เต็มไปด้วยการดูถูก จริงๆแล้ว คนอย่าง มู่หรง ซุน ไม่มีค่าที่จะไปดินแดนแห่งนั้นเลยด้วยซ้ำ “คำพูดคำจาของเจ้ามันช่างน่ารังเกียจ เป็นแค่อสูรวิญญาณแท้ๆ กับมาเจ๋อกับคนของหมู่เกาะประหาร ?””ต่อให้เจ้ามาจากโลกวิญญาณอสูรฟ้าจริงๆ ก็คงไม่ต้องถึงมือข้า แค่อสูรวิญญาณของข้าก็สามารถจัดการเจ้าได้แล้ว”

 

มู่หรง ซุน โกรธอย่างมาก เนื่องจากต้านต้านเป็นอสูรวิญญาณ เขาจึงคิดจะจัดการนางด้วยอสูรวิญญาณของเขา ขณะที่เขาพูด ประตูทั้ง 20 บาน ก็ปรากฏขึ้นมาจากด้านหลังของเขา จากนั้น ปีศาจขนาด 20 ตน มีขนาด 30 เมตร ก็พากันก้าวออกมา

 

อสูรวิญญาณทั้ง 20 ตน มีพลังในระดับ 6 จ้าวแห่งสงคราม

 

การปรากฏตัวของพวกมันดูพิเศษออกไป รูปร่างมันคล้ายคนแต่พวกมันมีตัวขนาดใหญ่มากกว่ามนุษย์ นอกจากนี้หูของมันยังแหลมยาว ดวงตาสีแดงก่ำ อีกทั้งยังมีกรงเล็บและฟันที่แหลมคม

 

ที่ต้องพูดถึงคือ ออร่าที่ทรงพลังของพวกมัน เพราะมันมีศักยภาพมากกว่ามนุษย์หลายขุม และยังเป็นอสูรวิญญาณที่เหนือกว่าอสูรวิญญาณพิภพภูตพราย “อสูรวิญญาณปีศาจ ชิร์ พวกเขายังอ่อนกว่าข้าหลายขุม”

 

หลังจากเห็นกองทัพอสูรวิญญาณ มุมปากของต้านต้านก็เผยให้เห็นการดูถูก เพราะนางเป็นอสูรที่มาจากพิภพอสูรฟ้า อย่าว่าแต่ อสูรวิญญาณพิภพปีศาจ ต่อให้เป็นอสูรวิญญาณพิภพนางฟ้า หรือ อสูรวิญญาณพิภพศักดิ์สิทธิ์ ก็ไม่อยู่ในสายตาของนาง “หึหึ เป็นอย่างที่เขาว่ากันมาจริงๆ ว่าอสูรวิญญาณพิภพอสูรฟ้า มักจะหยิ่งยโส ไม่เห็นอสูรวิญญาณจากโลกอื่นๆอยู่ในสายตา อีกทั้งยังคิดว่าตนเป็นผู้ยืนสูงสุดในบรรดาพิภพทั้ง 7 วันนี้เรามาดูสิว่า อสูรวิญญาณพิภพอสูรฟ้า มันจะแน่สักแค่ไหน”

 

อสูรวิญญาณเหล่านั้นตรวจสอบต้านต้านอย่างละเอียด หลังจากที่ยืนยันได้แล้วว่านางมีพลังแค่ระดับ 2 จ้าวแห่งสงคราม อสูรวิญญาณทั้งหมดจึงแสดงความหาญกล้าและความมั่นใจออกมา พวกมันทั้งหมดแทบรอการต่อสู้ไม่ไหว “สวะ พวกเจ้ามาพร้อมๆกันเลย เสียเวลาให้ข้าจัดการทีละตัวทีละตัว”

 

ต้านต้านไม่หวาดหวั่น แม้จะเผชิญหน้ากับ อสูรวิญญาณ 20 ตน ที่อยู่ในระดับ 6 จ้าวแห่งสงคราม “คำพูดเจ้าช่วงอวดดียิ่งนัก ดีล่ะพวกเรามาสั่งสอนผู้หญิง ปากดีที่มาจากพิภพอสูรฟ้ากันเถอะ”

 

* พรึบ พรึบ พรึบ ฯลฯ * ทันใดนั้น อสูรวิญญาณทั้ง 20 ตนก็เข้าจู่โจมพร้อมๆกัน

 

ควันสีเขียวอ่อน แผ่กระจายออกจากร่างของพวกเขา อำนาจพลังของมันน่ากลัวยังมาก อีกทั้งยังพุ่งเข้าหาต้านต้านในทันที

 

แม้ว่าพวกมันจะได้เปรียบด้านจำนวนคน หรือ ความแข็งแกร่งที่เหนือกว่า แต่ต้านต้านก็ยังไม่เสียเปรียบพวกนั้น

 

* วู่บบบบ * เปลวไฟสีดำ คล้ายกับพลังปีศาจร้องกู่ก้องทะยานสู่ฝากฟ้าบดบังดวงตะวันให้มืดมิด ในขณะนั้นต้านต้านตั้งใจ จะไม่ทำให้การต่อสู้ครั้งนี้ยืดเยื้อ นางจึงใช้การโจมตีที่รุนแรงที่สุด

 

ในสถานการณ์เช่นนั้น อสูรวิญญาณจากพิภพปีศาจที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ และกำลังคิดว่าพวกเขาสามารถลดช่องว่างของความต่างชั้นด้วยระดับการเพาะปลูก ถึงกับตกตะลึง จากที่ต้านต้านเริ่มใช้พลังนั้นพวกมันก็ถูกกดดันให้เข้าสู่สถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคลายไม่ออก ไม่รู้ว่าจะโจมตีสวนหรือป้องกันไว้ดี พวกมันถูกดูดสู่สถานการณ์ที่น่าหวาดกลัวอย่างสมบูรณ์

 

ต้านต้าน ไม่เพียงสู้กับทั้ง 20 ตน เพียงลำพัง นางยังสู้ด้วยพลังระดับ 2 ที่หากจากพวกนั้นหลายระดับ แต่นางกับสามารถหยุดยั้งพวกมันได้ “นี่คืออสูรวิญญาณที่มาจากโลกวิญญาณอสูรฟ้างั้นหรอ ? ทำไมถึงได้ทรงพลังขนาดนี้”

 

ใบหน้าของหย่า เฟย และ มู่หรง ว่าน ถึงกับตึงเครียดเมื่อเห็นฉากแบบนั้น ดวงตาพวกนางเป็นประกาย ด้วยความตะลึงในพลังของต้านต้าน ระดับการต่อสู้นี้ เป็นพลังที่พวกนางไม่เคยเห็นมาก่อน หรือเคยได้ยินจากที่ไหน อีกทั้งยังไม่คิดว่ามันจะมีใครใช้พลังได้ในระดับนี้ “อสูรวิญญาณแห่งพิภพอสูรฟ้า!!!”

 

ในตอนนั้นแม้แต่มู่หรง ซุน ที่มักจะวางท่าโอ้อวดก็ยังขมวดคิ้วลง ความเย็นชาผ่านมาทางดวงตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาจนสามารถมองเห็นเป็นประกาย

 

ตอนนี้ พวกเขาเข้าใจแล้วว่า อสูรวิญญาณจากพิภพอสูรฟ้า ที่ว่าสูงส่งนั้น สมแล้วที่เรียกกันว่า อสูรวิญญาณในตำนาน

 

ReaDMGA////////////////////////////////////////A : ชื่อตอนนี้ เปลี่ยนเป็นเมื่อไหร่จะได้แดก ได้ป่ะ!!!

 

C : ทำไม!!!

 

A : ก็ตำนานไง ถ้าตำไวๆ ก็ได้แดกไวๆ!!!

 

C : ไปเล่นกะแม่ค้า ขายส้มตำไป!!! มืงจะได้โดน สากกระเบือตำเบ้าตา!!!

 

B : . . . . . . . . . . . .

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments