ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“นี่มันเป็นไปได้ยังใงกัน? นี่เจ้าสามารถรับมันได้จริง!”
เมื่อเห็นว่าสองยุทธภัณฑ์ของเขานั้นจริงถูกปราบปรามโดยชูเฟิงมันก็ได้ทำให้ตาของ เซินถู่ หลาง นั้นเบิกกว้างขึ้นมาในทันทีและในสายตาของเขานั้นก็ยังเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“ต้องบอกก่อนเลยว่าในแง่ของประสิทธิภาพทั้งสองยุทธภัณฑ์ชั้นยอดนี้ แม้มันจะเป็นด้อยกว่า ขวานอสูรฟ้า ของข้าเพียงเล็กน้อยแต่ก็ยังนับได้ว่ามันเหนือชั้นกว่ายุทธภัณฑ์ชั้นยอดชิ้นอื่น ๆ ที่ข้านั้นได้เคยเห็นมา”
“น้องรู่ น้องเหม่ย ข้านั้นต้องการที่จะยกสองยุทธภัณฑ์ชั้นยอดทั้งสองชิ้นนี้ให้แก่เจ้าเพื่อเอาไว้สำหรับเป็นเครื่องป้องกันตัวเจ้าคิดว่าเช่นไร?”
ชูเฟิงนั้นได้ยิบทั้งสองยุทธภัณฑ์ชั้นยอดยืนไปให้แก่ ซูรู่ และ ซูเหม่ย
“แน่นอนข้ารับมัน!”
เมื่อเห็นเช่นนั้น ซูรู่ และ ซูเหม่ย นั้นก็ต่างพยักหน้ากันและใบหน้าของพวกเธอนั้นก็ยังเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ถึงแม้ว่ายุทธภัณฑ์ทั้งสองนี้จะมีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้วนั้น แต่ทว่าลักษณะภายของมันนั้นก็นับว่ามีความสวยงามที่ไม่แพ้ประสิทธิภาพของมันเลยและมันก็ยังอาจกล่าวได้อีกว่าชั่งเหมาะสมกับ ซูรู่ และ ซูเหม่ย ยิ่งนัก
“ไอ้เวรบัดซบเอ้ยนี่เจ้ากล้าคิดที่จะขโมยยุทธภัณฑ์ชั้นยอดของข้าซึ่ง ๆ หน้าเลยอย่างนั้นรึ? หน่อยเจ้ามันจะดูถูกข้าเกินไปแล้ว!!.”
เมื่อเห็นว่าชูเฟิงจริงนั้นปล้นทรัพย์สมบัติของเขาทั้งสองชิ้นไปให้คนอื่นเช่นนี้ต่อหน้าต่อตาของเขามันก็ยิ่งทำให้ เซินถู่ หลาง โกรธแค้นมากขึ้นตาของเขานั้นเป็นเผยเจตนาฆ่าอย่างเต็มที่เขาในตอนนี้นั้นได้กัดฟันของเขาแน่นด้วยความโกรธ
แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเขาในตอนนี้ก็ยังไม่ได้แสดงความวู่วามออกมามากจนเกินไปเพราะว่าเขานั้นได้ทำพันธสัญญากับยุทธภัณฑ์ชั้นยอดเอาไว้แล้ว! สมบัติที่ได้ถูกเชื่อมต่อกันด้วยจิตใจนั้นจะสามารถสั่งการณ์มันได้แม้เพียงแค่ความคิดเขานั้นสามารถควบคุมมันได้อย่างอิสระ
ฉะนั้นแล้วในช่วงเวลานั้นฝ่ามือทั้งสองข้างของเขาก็ได้เกิดแสงประกายเจิดจ้าขึ้นมา มันได้กลายเป็นสายใยอำนาจที่เชื่อมต่อไปยังสองยุทธภัณฑ์ชั้นยอดที่อยู่ในมือของชูเฟิง แท้จริงเขาต้องการที่จะเรียกอาวุธของเขากลับมาอยู่ในมือของเขา
“เฮอะ”
แต่ในทันทีที่ชูเฟิงนั้นได้เห็นการกระทำของ เซินถู่ หลาง ชูเฟิงก็ได้ถอนหายใจออกมาด้วยความเย็นชาฝ่ามือของเขานั้นได้สั่นไหวเล็กน้อยพร้อมกับถ่ายอำนาจสวรรค์อันไร้ขีดจำกัดลงไปที่ทั้งสองยุทธภัณฑ์ชั้นยอด
จากนั้นก็ได้เกิดเสียงดัง
*** ปัง ***
ออกมาจากยุทธภัณฑ์ชั้นยอดทั้งสอง และในขณะเดียวกันใบหน้าของ เซินถู่ หลาง ก็ได้กลายเป็นซีดขาวราวกับคนตายในทันที ประกายแสงบนฝ่ามือของเขาได้หายไปพร้อมกับเลือดก้อนใหญ่ได้ทะลักออกมาจากปากของเขา
“นั่นเกิดอะไรขึ้น?”
ในทันที จาง เทียนยี และก็คนอื่น ๆ นั้นก็ได้ตกอยู่ในความประหลาดใจอย่างถึงที่สุดเพราะว่าฉากในด้านหน้าของพวกเขานั้นมันเห็นได้อย่างชัดเจนว่าชูเฟิงนั้นยังไม่ได้เคลื่อนไหวใด ๆ เลยแม้แต่นิดเดียวแต่ทำใม เซินถู่ หลาง ถึงได้รับอาการบาดเจ็บหนักได้?
“นี่เจ้า…เจ้า…เจ้ากล้าตัดการเชื่อมต่อของข้ากับสองยุทธภัณฑ์ชั้นยอดนี้งั้นหรอ ?!”
ในขณะนี้ใบหน้าของ เซินถู่ หลาง ได้ตกอยู่ในอาการที่เต็มไปด้วยความตกใจอย่างแท้จริง ความหยิ่งผยองของเขาก่อนหน้านี้นั้นได้ถูกแทนทีไปด้วยความหวาดกลัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ในขณะที่เขานั้นเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบอยู่นี้นั้นเขาย่อมต้องเข้าใจอย่างแท้จริงว่ามันเกิดอะไรขึ้น เหตุผลที่ว่าทำใมเขาถึงได้รับอาการบาดเจ็บหนักนั้นมันก็ไม่มีทางที่จะเป็นอย่างอื่นไปได้นอกเสียจากว่า ชูเฟิงนั้นได้ตัดการเชื่อมโยงกันระหว่างเขาและทั้งสองยุทธภัณฑ์ และถ้าจะพูดให้ถูก็คือทั้งสองยุทธภัณฑ์ชั้นยอดนี้นั้นไม่ได้เป็นของเขาอีกต่อไปแล้ว
มันไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่เขาเคยได้ยินมาก่อนเพราะว่าผู้ที่จะสามารถตัดการเชื่อมโยงระหว่างผู้ใช้และยุทธภัณฑ์ชั้นยอดได้นั้น เขาผู้นั้นจำเป็นจะต้องมีความแข็งแกร่งกว่าเจ้าของเดิมของยุทธภัณฑ์เป็นอย่างมากไม่เช่นนั้นแล้วก็ไม่อาจที่จะทำมันได้ และในตอนนี้มันก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าชูเฟิงนั้นมีกลิ่นอายเพียงแค่ระดับ 6 แดนสวรรค์วิญญาณเทียบเท่าเขาเท่านั้น แล้วเหตุใดสถานการณ์มันถึงได้กลายเป็นเช่นนี้ไปได้
การกระทำต่าง ๆ ของชูเฟิงในตอนนี้นั้นมันได้ทำให้เขาตระหนักถึงความน่ากลัวที่แท้จริง เขาในตอนนี้นั้นกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่หน้าหวาดกลัวเข้าให้แล้ว
*** หวืบ ***
เซินถู่ หลาง นั้นลุกขึ้นมาอย่างโซซัดโซเซแล้วรีบพลันหันหลังของเขาออกไปโดยรอบ เขาได้ใช้ทักษะการต่อสู้เฉพาะตัวสร้างแรงลมขึ้นมาใต้ฝ่าเท้าของเขาและพยายามที่จะบินหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
“ไอ้ปัญญาอ่อน”
เพียงแต่ในขณะนั้นชูเฟิงได้ยิ้มเหยียดหยันต่อการกระทำของ เซินถู่ หลาง และเขาได้ยื่นฝ่ามือของเขาออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับปล่อยอำนาจสวรรค์เป็นรูปร่างของฝ่ามือขนาดใหญ่บนอากาศคว้าตัวของ เซินถู่ หลาง เอาไว้โดยพลัด
*** ตูมมม ***
หลังจากที่ชูเฟิงนั้นได้คว้าตัว เซินถู่ หลาง ที่อยู่บนอากาศเอาไว้ได้จู่ ๆ เขาก็ได้สะบัดแขนของเขาและเหวี่ยง เซินถู่ หลาง ลงมาที่พื้นดินอย่างรุนแรง
“อ้า!”
ด้วยความแข็งแรงอันมหาศาลมันได้สร้างหลุมลึกขนาดใหญ่บนพื้นดินในทันทีร่างกายของ เซินถู่ หลาง ในตอนนี้นั้นได้อยู่ในสภาพที่สะบักสะบอมเป็นอย่างมากกระดูกทุกส่วนบนร่างกายของเขานั้นจริงได้ถูกทำลายไปจนหมดแล้วในตอนนี้โดยชูเฟิง
หลังจากที่ชูเฟิงได้เหวี่ยง เซินถู่ หลาง ลงมายังที่พื้นดินเขาก็ค่อย ๆ เดินเข้ามาเรื่อย ๆ จนในที่สุดเขาก็ได้มาถึงและประทับฝ่าเท้าของเขาลงไปที่ศีรษะของ เซินถู่ หลาง
“ไอ้เวรบัดซบเอ้ยเจ้ากล้าทำเช่นนี้กับข้าได้เยี่ยงไร เจ้ารู้ไหมว่าข้านั้นเป็นใคร ?! ถ้าท่านพ่อของข้าได้รู้เรื่องในวันนี้เข้าละก็เขาจะต้องมาฆ่าเจ้าแน่ ๆ ! เขาจะต้องมาฆ่าพวกเจ้าทุก ๆ คน!”
ในทันที เซินถู่ หลาง ได้คำรามออกมาอย่างบ้าคลั่งเพราะในฐานะที่เขานั้นได้เป็นองค์ชายผู้สูงส่งเขาไม่เคยที่จะได้รับการกระทำและการถูกเย้ยหยันเช่นนี้มาก่อน
“เจ้าคิดว่าพ่อของเจ้านั้นจะสามารถรับรู้เรื่องราวในวันนี้ ได้อย่างนั้นหรือ?”
ในขณะนั้นบนมุมปากของชูเฟิงก็ได้ปรากฏรอยยิ้มที่แปลก
*** อ่ะ ***
เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนั้น เซินถู่ หลาง นั้นกลายเป็นช็อคในทันทีเขาอดไม่ได้ที่จะต้องกลืนน้ำลายของเขา ความหยิ่งผยองของเขานั้นได้ถูกแทนที่ด้วยความหวาดกลัวในทัน เพราะเขาได้เขาใจความคิดของชูเฟิงแล้วว่าเขานั้นต้องการที่จะตัดไฟตั้งแต่ต้นลม
“เพียงแต่ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าพวกข้านั้นทำให้เจ้าต้องมีการเดินทางที่ล่าช้าฉะนั้นแล้วพวกข้าจึงต้องไถ่โทษด้วยความตายอย่างนั้นใช่หรือไม่”
“แล้วเจ้ารู้หรือไม่ ว่าการที่เจ้านั้นได้บังอาจหาญกล้ามาแตะต้องสหายของข้านั้นมันจะต้องได้รับโทษเช่นไร?”
ชูเฟิงกล่าวอย่างหนักแน่นและจ้องมองไปที่ เซินถู่ หลาง ที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา
“ฮ่า ๆ แหม่พี่ชายสุดหล่อมันอาจเป็นเพียงแค่ความเข้าใจผิดกันเท่านั้น! มันเป็นความเข้าใจผิดน่ะ! มันก็แค่เป็นเรื่องความเข้าใจผิดเท่านั้นเองข้าหาได้ต้องการจะแตะต้องเหล่าสหายของท่านไม่…อ้าพี่ชายสุดหล่อ! ท่านกำลังจะทำอะไรท่านกำลังจะพาข้าไปที่ไหน? เพียงแค่ท่านและข้าสามารถเจรจาและพูดคุยกันได้ด้วยคำพูดนะ”
ในทันที เซินถู่ หลาง ก็ได้ตกอยู่ในความตื่นตระหนกเพราะว่าเขานั้นจริงได้หวาดกลัวว่าชูเฟิงนั้นจะฆ่าเขา แต่ชูเฟิงนั้นไม่ได้ให้โอกาสใด ๆ ในการแก้ตัวของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว เขายก เซินถู่ หลาง ขึ้นมาด้วยมือเพียงข้างเดียวของเขาและกระจายพลังอำนาจจิตวิญญาณสีฟ้าปกคลุ่มร่างกายของเขาเอาไว้ ก่อนที่จะบินไปยังทางทิศเหนือ
จาง เทียนยี และคนอื่น ๆ นั้นได้รู้สึกงงงวยต่อการกระทำของชูเฟิงฉะนั้นแล้วเขาจึงรีบลุกขึ้นและบินไปยังท้องฟ้าในทิศทางที่ชูเฟิงได้บินไป
หลังจากที่พวกเขาได้บินขึ้นมายังบนท้องฟ้านั้นพวกเขาก็ได้เห็นว่าโรงเตี๊ยมที่สุดจะหรูหราและสวยงามในตอนนี้นั้นมันได้กลายเป็นซากปรักหักพังไปเรียบร้อยแล้ว สภาพของพื้นที่โดยรอบนั้นมันได้ถูกเติมเต็มไปด้วยซากศพของฝูงชน
มันเป็นเรื่องที่ง่ายดายมากสำหรับผู้คนของราชวงศ์ เซินถู่ จะฆ่าผู้คนที่อยู่ที่นี่ไปทั้งหมด
แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการสังหารหมู่ของผู้คนจากราชวงศ์ เซินถู่ บรรดาฝูงชนที่ได้รอดชีวิตนั้นพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะอยู่ในสถานที่แห่งนี้นานมากนักพวกเขาได้โพล่ออกมาจากที่หลบซ่อนและหลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
*** ตูม ***
แต่ในขณะเดียวกันเมื่อชูเฟิงได้มาถึงยังสถานที่ของโครงสร้างแห่งหนึ่งของเขาก็ได้ยื่นฝ่ามือของเขาออกไปและระเบิดทำลายมันโดยทันที หลังจากที่โครงสร้างชิ้นนั้นได้ถูกทำลายออกไปมันก็ได้ปรากฏก้อนสีเหลือง ๆ ปนดำเล็กน้อยกระจัดกระจายอยู่ตามพื้น ประจวบกับกลิ่นของพวกมันที่ได้โชยขึ้นมาบนอากาศนั้นต้องบอกได้ว่ามันชั่งเหม็นอย่างเหลือใจแน่นอนว่าสถานที่ที่ชูเฟิงได้ทำลายไปนั้นก็คือบ่ออุจจาระขนาดใหญ่
4 : หรือจะให้พูดอีกอย่างก็คือบ่อขี้นั้นเอง 5555 โครตจี๊ด
*** อ่า ***
หลังจากที่ชูเฟิงได้ยื่นฝ่ามือของเขาออกไปและระเบิดฝ่าปิดหลุมอุจจาระไปนั้นเขาก็ได้ใช้พลังอำนาจวิญญาณสีฟ้าครอบคลุมร่างกายของ เซินถู่ หลาง เอาไว้
นอกจากนี้ชูเฟิงยังได้ว่าการก่อตัวของบนปากบ่อของหลุมอีกด้วยพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้ายต่อ เซินถู่ หลาง และกล่าวว่า
“ไม่ต้องห่วงข้านั้นจะไม่ฆ่าเจ้า’
“ไม่…ไม่…ไม่…เจ้ากำลังจะทำอะไรข้า?!”
เมื่อเห็นรอยยิ้มที่ชั่วร้ายของชูเฟิงนั้นเขาก็ได้กลืนน้ำลายลงไปในทันทีพร้อมพลันปรากฏเหงื่อเย็นขึ้นมาทั่วร่างกายของเขา แม้แต่เสื้อผ้าของเขานั้นก็ยังชุ่มไปด้วยเหงื่อ เพราะว่าเขาในตอนนี้นั้นได้ตกไปอยู่ในห้วงลึกแห่งความหวาดกลัวอย่างแท้จริง
“เดียวอีกไม่ช้าเจ้าก็จะรู้เองว่าข้านั้นต้องการที่จะทำอะไร’ “
ร้อยยิ้มที่ชั่วร้ายได้โพล่ขึ้นมาบนใบหน้าของชูเฟิงพลันโยน เซินถู่ หลาง ลงไปในทันทีพร้อมกับโบกมือ บ๊ายบ่าย
เมื่อสิ้นสุดคำพูดนั้น เซินถู่ หลาง ก็ได้ถูกโยนลงสู่ความเวิ้งว้างในบ่ออุจจาระในทันที
“อ้า ~~~~~~ ข้าขอสาปแช่งบรรพชนของเจ้า! เจ้ากล้าที่จะโยนข้าลงมายังหลุมนี้จริง ๆ ?! บัดซบ ข้าขอสาบานว่าข้าจะฆ่าเจ้า! ข้าจะฆ่าเจ้า !!”
ในขณะนี้นั้น เซินถู่ หลาง ได้แสดงความโกรธออกมาอย่างเหลือใจและคำรามออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
แต่ชูเฟิงนั้นก็ไม่ได้ให้ความสำคัญแก่คำพูดใด ๆ ของเขาทั้งสิ้นมีเพียงแต่รอยยิ้มจาง ๆ เกิดขึ้นอยู่บนใบหน้าของเข้าเท่านั้น เขาได้เริ่มวางรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณปกคลุมปากหลุมบ่ออุจจาระนี้อีกครั้งและทำให้มันเป็นยิ่งแน่นหนามากขึ้นเพราะว่าเขานั้นจริงต้องการที่จะให้ที่นี้เป็นหลุมฝังศพของเขา
#################################################################################################
ที่มา: