ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปชูเฟิง ณ ตอนนั้นยืนอยู่บนอากาศ ก้มมองลงมาเบื้องล่าง หลังจากที่สังเกตุอยู่นาน แต่เขาก็ยังไม่พบตัวถ้ำ ที่มีกลิ่นอายอำนาจจิตวิญญาณหรือตำแหน่งการวางรูปแบบใดๆ เขาจึงตระหนักขึ้นได้
หากเขาจะไม่ลงมือทำอะไรเลยก็ไม่ได้ จึงตัดสินใจบินลงไป และเริ่มค้นหาทางเข้าหุบเขาเขี้ยวหมาป่า เพื่อค้นหาทางเข้าที่ถูกซ่อนไว้ด้วยอำนาจพลังวิญญาณ แบบละเอียดทุกตารางนิ้ว
**** บูม บูม บูม ****
แต่เมื่อ ชูเฟิงมาถึงส่วนใจกลางของหุบเขา ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากทิศตะวันออกของหุบเขา
เสียงนั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ชูเฟิงพบว่านั้นคือเสียงที่เกิดระหว่างการต่อสู้ระหว่างสัตว์มหึมาและใครคนนึง
สัตว์มหึมาสูงยี่สิบเมตร ลำตัวขนาดสิบเมตร เมื่อที่มันยึดตัว มันดูเหมือนภูเขาลูกเล็กๆลูกนึง
มันมีลักษณะคล้ายตัวนิ่ม ตามตัวมันเต็มไปด้วยเกล็ดที่ราวกับชุดเกราะ ที่สำคัญมันมีพลังวิญญาณอยู่ในระดับ 7 อาณาจักรสวรรค์
ซึ่งสัตว์มหึมาตัวนี้ไม่อาจมองข้าม ในแต่ละก้าวที่มันไป มันพัดกวาดเอาทุกอย่างที่มันย่ำกาย ภายในรอบรัศมีร้อยไมลฺ์ล้วนแต่สั่นสะเทือน ต้นไม้ใบหญ้าโดยรอบเขย่าราวกับว่าจะหักโค่นลงมา
มือของมันถือค้อนขนาดใหญ่ มันฟาดลงใส่พื้นอย่างรุนแรง จนเกิดหลุมลึก ทุกครั้งที่มันสะบัดค้อนต้นไม้จะปลิวว้อนดั่งพายุพัดกระหน่ำ แล้วพื้นที่โดยรอบนั้นก็ต่างมีหลุมอยู่นับไม่ถ้วน ป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ก็ต่างไปจากเดิมจนไม่เหลือเค้าโครงเดิม
คนที่สู้อยู่กับมันก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน เขาก็อยู่ในระดับ 7 อาณาจักรสวรรค์ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเป็นผู้หญิง
นางเป็นหญิงวัยกลาง มีแนวโน้มว่านางจะมีอายุมากกว่า 30 ก็นางก็ยังดูงดงาม แต่ที่สำคัญการเพาะปลูกนางที่อยู่ระดับนี้ มันช่างน่าประทับใจอย่างมาก
หากเทียบกับคนจากอาณาจักรทั้ง 9 การที่ก้าวเข้าสู่ระดับ 7 อาณาจักรสวรรค์ สามารถนับด้วยนิ้วมือได้เลย และไม่มีใครที่ไม่อยู่ในวัยชรา แต่การที่นางสามารถฝึกฝนมาจนถึงวันนี้ได้ ด้วยวัยนี้ มันไม่ได้แปลว่านางร้ายกาจแต่อย่างใด แต่มันหมายความว่า ผู้เชี่ยวชาญในภาคทะเลตะวันออกนั้น มีระดับที่เหนือกว่าต่างจากคนของ 9 อาณาจักร
*** บูม บูม บูม ***
สัตว์มหึมาและหญิงคนนั้นต่อสู้กันอย่างต่อเนื่อง จนเกิดแรงปะทะที่น่ากลัว แต่ ชูเฟิง รู้ว่าหญิงคนนั้นคงจะพ่ายแพ้ให้แก่ สัตว์มหึมา นางคงกำลังคิดจะหาวิธีที่จะหลบหนีการโจมตีของสัตว์มหึมา แต่นางก็ถูกบังให้ต้องอยู่ในบริเวณ โดยที่ไม่มีโอกาศ
” สัตว์มหึมาตัวนี้ ดูเหมือนว่ามันจะเสียการควบคุมสินะ “
ชูเฟิงตรวจสอบมันด้วยอำนาจพลังฯที่เฉียบคมของเขา และพบว่าสัตว์มหึมาที่กำลังกระหายเลือดนั้น เสียสติ แม้แต่ตัวผู้หญิงเองก็ยังถามมันว่าเหตุใดมันถึงเข้ามาทำร้ายนาง แต่สัตว์มหึมาก็ไม่ได้ตอบกลับใดๆ มันเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาโจมตีใส่ผู้หญิงคนนั้น
มันหมายความว่าสัตว์มหึมาตัวนั้นมันสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง หรือเกิดบางอย่างขึ้นกับมัน นอกจากนี้ ชูเฟิง เข้ายังได้เดินไปรอบๆทุกพื้นบริเวณหุบเขา และพบว่าสัตว์มหึมานั้นมีอยู่น้อยมาก ยิ่งระดับอาณาจักรสวรรค์นั้นยิ่งแล้วเลย แล้วทำไมจู่ๆมันถึงปรากฏขึ้นมาได้
” อีกอย่างมันยังดูแปลกๆ มันต้องมีเงื่อนงำอะไรบางอย่างสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม น่าเสียดาย มันไม่เกี่ยวกับเจ้า ดังนั้นไม่ต้องเป็นห่วง “
ต้านต้านรู้สึกหน่ายชูเฟิงที่ชอบเอาตัวเองเข้าไปยุ่งกับเรื่องชาวบ้าน หากคนที่อยู่ตรงหน้าเขา เป็นแค่คนธรรมดาๆเผชิญกับฝ่ายตรงข้ามที่แข็งแกร่งกว่า ชูเฟิงก็อาจจะเข้าไปช่วย
ในตอนนั้น ทั้งสองต่างก็มีความแข็งแกร่งพอๆกัน บางทีอาจจะเป็นเพราะความขัดแย้ง หรืออาจจะเป็นความแค้นระหว่างพวกเขา หรือจะด้วยเหตุผลอื่นๆ ดังนั้น ชูเฟิง จึงตัดสินใจไม่เข้าไปยุ่ง
ในโลกนี้คือยุคแห่งการต่อสู้ ผู้มีอำนาจเท่านั้นที่จะยืนอยู่จุดสูงสุด ซึ่งมันมีการต่อสู้กันอยู่นับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะที่ไหนๆ หากชูเฟิงเอาตัวเองเข้าไปยุ่ง โดยที่เขาไม่ได้รับผลประโยชน์ มันจะทำให้เขาเสียเวลา และอาจจะเดือดร้อน
” เด๋ว!! ยังมีคนอื่นอยู่อีก “
แต่ในตอนนั้นชูเฟิงก็พบว่า จุดที่ห่างจากการต่อสู้ไปไม่ไกล มีคนสองคนกำลังหลบซ้อนตัวอยู่ภายในป่า
คนนึงเป็นชาย คนนึงเป็นหญิง ทั้งสองดูชรา พลังวิญญาณของพวกเขาก็ไม่ใช่ธรรมดาเขาทั้งคู่อยู่ในระดับ 8 อาณาจักรสวรรค์ ซึ่งแข็งแกร่งกว่าหญิงที่สู้กับสัตว์มหึมา หากดูที่เสื้อผ้าของพวกเขา จะเห็นได้ชัดว่าเขามีแนวโน้มเกี่ยวข้องกับผู้หญิงคนนั้น
แต่ในปัจจุบัน ไม่เพียงแต่พวกเขาไม่ช่วยผู้หญิงคนนั้นสู้กับสัตว์มหึมา พวกเขายังปล่อยให้ทั้งคู่ สู้กันเหมือน โดยที่แค่แอบดู
เห็นเป็นแบบนั้นชูเฟิงเริ่มสนใจขึ้นมาทันที เขารีบพุ่งเข้าไปด้วยความอยากรู้ อยากเห็น ตอนนั้นเขารบกลิ่นไอของตัวเองพร้อมกับค่อยๆเข้าไปใกล้ๆ ในเวลาเดียวกัน เขาก็เริ่มแผ่กระจายอำนาจพลังฯเพื่อแอบฟังการสนทนาของคู่ชรา
” ตาเฒ่า เราจะดูคุณหนูใหญ่ถูกฆ่าโดยสัตว์มหึมาจริงๆหรอ เราอาจจะเดือดร้อนก็ได้นะ ?”
หลังจากที่ตรวจสอบ เขาก็พบว่าสองคนนั้นมีอายุมาหลายปีและยังมีฐานะในตระกูลพอสมควรเนื่องจากคอยรับใช้มาหลายปี ผู้หญิงคนนั้นมองหน้าชายชรา ขณะกล่าวถามด้วยใบหน้าที่ไม่ค่อยจะเต็มใจ
” เจ้าคิดว่าข้าต้องการทำแบบนี้หรอ แต่เด็กบ้านั้นดันเป็นเซี้ยนหนามของตระกูล หม่า หากเราไม่ทำตามคำสั่ง พวกเขาก็หาทางฆ่านางอยู่ดี แล้วคนที่จะตายก็คือลูกของเรา เจ้าอยากให้นางตายหรือลูกของเราล่ะ “
ชายชราตอบ
” บัดซบ!!! จริงๆจะเลือกแบบไหนก็เป็นเราที่ซวย หากใครรู้เรื่องในวันนี้พวกเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน “
ได้ยินคำพูดพวกนั้น หญิงชราเริ่มด่าทอ แต่นางไม่ได้พูดถึงการล้มเลิก ดูเท่านี้ก็รู้แล้วว่า นางได้ตัดสินใจเลือกแล้ว
” แม้เราจะทำในเรื่องผิดศีลธรรม แต่หากจะโทษ ก็เป็นเพราะคุณหนูใหญ่นั้นแหละ ต้องตำหนิที่นางจริงจังเรื่องความสัมพันธ์ของ ตระกูลหลี่ และ ตระกูล หม่า อีกทั้งยังเลือกเป็นผู้ถือกุญแจเปิดสมบัติ ตอนนี้ ใกล้ถึงเวลาแล้วที่สมบัติจะถูกเปิดโดยสองตระกูล “
” แต่คุณหนูใหญ่ ไม่ยอมรับโดยไม่คำนึงถึงเหตุผล นางทำสิ่งที่นางไม่ควรทำ คือคิดจะต่อต้านพวกเขา ถึงขนาดที่เลือกคัดทหาร ที่มีความสามารถอีกทั้งยังหาคนที่นางไว้ใจ เห็นได้ชัดเลยว่านางมีจุดประสงค์เพื่อเสริมอำนาจให้กับตระกูลหลี่ และต้องการที่จะหุบเอาสมบัติไว้เพียงผู้เดียว “
” ดังนั้น ตระกูลหม่าจึงไม่พอใจกับการกระทำของนางมาก เขาจึงวางแผนจัดการกับคุณหนูใหญ่ นั้นแหละเหตุผลที่ข้าบอกว่า นางนั้นรนหาที่ตาย!! “
” หากเป็นแบบนี้ต่อไปโดยไม่จัดการคุณหนูใหญ่ ไม่ช้าก็เร็ว ก็จะเกิดสงครามระหว่างตระกูลหลี่ และ ตระกูลหม่า นั้นจะทำให้ผู้บริสุทธิ์ถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้อง ดังนั้น การกระทำของเราในปัจจุบันสามารถพูดได้ว่า เรานั้นช่วยเหลือตระกูลหลี่ เมื่อเราทำเพื่อตระกูลหลี่ ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องตำหนิตัวเอง “
ชายชราพูดจาฉะฉาน แต่คำเหล่านั้นล้วนฟังดูเป็นการทรยศต่อตระกูลของตัวเองอีกทั้งยังบอกว่าการกระทำของตัวเองคือความชอบธรรม
” สมบัติ ? “
อย่างไรก็ตาม ชูเฟิง ถึงกับตาสว่างเมื่อได้ยินคำคำนั้น
ถ้าหุบเขาเขี้ยวหมาป่า มีสมบัติ แล้วมันจะเป็นสมบัติแบบไหน ? สิ่งแรกที่ชูเฟิงนึกคือ ทางเข้าหุบเขาเขี้ยวหมาป่าที่ถูกซ่อนด้วยอำนาจจิตวิญญาณ
มันอาจเป็นไปได้ว่ามันได้ถูกค้นพบแล้ว ?
” ดูเหมือนว่า ข้าคงต้องเข้าไปยุ่งเรื่องในวันนี้แล้วสินะ “
ตอนนั้น ชูเฟิง หันตัวกลับพร้อมกับพุ่งเข้าไปบริเวณการต่อสู่ระหว่างสัตว์มหึมาและผู้หญิง เหตุการณ์ในวันนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับทางเข้าหุบเขาเขี้ยวหมาป่า ที่ถูกซ่อนไว้ด้วยอำนาจจิตวิญญาณ
ถ้าพวกเขาไม่เกี่ยวข้องกับการรับรู้อำนาจพลังฯ มันก็ต้องเกี่ยวข้องกับสมบัติ เมื่อ ชูเฟิง ไม่สามารถหามันได้ด้วยตัวเอง เขาจึงตัดสินใจที่จะยื่นมือเข้าไปยุ่งเรื่องนี้
” เราไม่เคยมีความบาดหมาง เหตุใดเจ้าถึงจ้องที่จะสังหารข้าให้ได้ ทำไม ? “
หญิงสาว ถูกสัตว์มหึมากดดัน นางจึงเอาแต่ถามสัตว์มหึมา แต่ก็ไร้ประโยชน์ มันไม่มีการตอบสนองใดๆ อีกทั่งมันยังคำรามเสียงดังและเข้าโจมตีอย่างบ้าคลั่ง
*** ปึ้งงง ***
หลังจากเสียงคำรามดังขึ้น ค้อนขนาดใหญ่ในมือของสัตว์หมึมากระแทกเข้าไปที่ตัวของนางอีกครั้ง
ในช่วงเวลานั้น ผู้หญิงคนนั้นพยายามเอี้ยวตัวหลบ แต่นางก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ดั่งอำนาจสวรรคค์ของนางไม่ทำตาม ความเร็วของนางไม่ทันความคิดที่คาดการณ์เอาไว้ และมันก็เป็นไปไม่ได้ที่นางจะหลบได้ทัน
ที่มา: