ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“ข้า…”
ในตอนนั้น หลี่ ชานอ้ำๆอึ้งๆ หลังจากนั้นเธอก็พูดออกมาว่า
“ ในปีนี้ตระกูลหม่าจ้างผู้เชี่ยวชาญมา และ พัฒนาคนของพวกเขาอย่างฟุ่มเฟือย ในด้านพลังตระกูลหลี่ของข้านั้นด้อยกว่าตระกูลหม่า.”
“อย่างไรก็ตาม ตระกูลหม่านั้นไม่เคยกล้าโจมตีตระกูลหลี่ของข้า พวกเขานั้นรักษาสัมพันธ์อันดีกับพวกเรามาตลอด ข้าคิดว่าที่เป็นเช่นนั้นเพราะเขากลัวท่านพ่อของข้า.”
“พ่อของข้านั้นอยู่ในระดับ จ้าวสงคราม แต่ระดับ 1 จ้าวสงครามเท่านั้น อย่างไรก็ตาม พลังของเขานั้นไม่ใช่อะไรที่ระดับอาณาจักรสวรรค์จะต่อกรได้ ต่อให้มีผู้เชี่ยวชาญระดับอาณาจักรสวรรค์หลายพันคน พ่อของข้าก็ฆ่าได้อย่างง่ายดาย.”
“เมื่อมองไปที่ ตระกูลหม่า พวกเขามีผู้เชี่ยวชาญแค่หยิบมือ มีเพียง ผู้นำตระกูลหม่าเท่านั้นที่อยู่ในระดับ 1 อาณาจักรจ้าวสงคราม”
“ผู้นำตระกูลหม่า ก็เหมือนพ่อของข้า ถ้าเขาสู้กันผลที่ออกมานั้นยากที่จะคาดเดา แต่ถ้าผลออกมาจากการต่อสู้ของทั้ง 2 นั้นนับได้ว่าคือชัยชนะของตระกูลนั้นเลย.”
“ดังนั้น ตอนนี้ข้าจึงไม่กังวลเรื่องที่ตระกูลหม่า จะโจมตีตระกูลหลี่ของข้า เรื่องที่ข้ากังวลคือเรื่องเกี่ยวกับพ่อของข้า.”
“พ่อของข้า และผู้นำตระกูลหม่านั้น เป็นพี่น้องร่วมสาบานกัน พวกเขาโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก เขาเชื่อใจผู้นำตระกูลหม่าอย่างสมบูรณ์แบบ และในสายตาเขาพี่น้องของเขานั้นสำคัญกว่าตระกูล.”
“ดังนั้นข้าคิดว่าถ้าข้าไปบอกเขาเรื่อง ตระกูลหม่าเห็นแก่ตัว ไม่เพียงแค่เขาจะโกรธ เขายังจะลงโทษข้าอีกด้วย เว้นแต่ …”
“เว้นแต่มีหลักฐานใช่หรือไม่”
ชูเฟิง พูดขึ้น
“อืม ต่อให้พ่อของข้านั้นจะสนเรื่องความสัมพันธ์เพียงใด เขาก็ไม่ใช่คนที่โง่เขลา ถ้ามีหลักฐานให้เห็นถึงตระกูลหม่าที่จ้องจะทำร้ายข้า มันก็คงจะดี.”
หลี่ ชานพยักหน้า
“มันง่ายมาก ยกตัวอย่างเช่น สัตว์มหึมาตัวนี้ เหตุผลก็คือมันเป็นเพราะพลังของผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ ถ้าเจ้าให้เวลาข้าสักหน่อย ข้าสามารถทำให้มันเป็นเหมือนเดิมได้ แล้วตอนนั้นเรื่องราวก็ปรากฏขึ้น.”
“นอกจากนี้ในสถาการณ์แบบนี้ เราก็ไม่มีทางเลือกมากหรอกนะ ข้าแนะนำให้ท่านบอกกับท่านพ่อของท่านให้ร่วมมือกับตระกูลหม่า เปิดขุมทรัพย์เสียดีกว่า.”
ชูเฟิง พูด
“อะไรนะเปิดขุมทรัพย์อย่างนั้นหรือ”
ได้ยินเช่นนั้นเธอก็ตกใจมาก,
“ท่านผู้มีพระคุณ สมบัติเหล่านี้เป็นของผู้เชี่ยวชาญลึกลับ พวกมันมีปัญญาเป็นของตัวเองและพวกมันแข็งแกร่งอย่างมาก ถ้าระดับไม่ถึงจ้าวแห่งสงคราม ก็ไม่มีทางปราบมันได้หรอก .”
“ดังนั้นก็จึงกังวลว่า ถ้าพวกเราเปิดขุมทรัพย์แล้ว ตระกูลหม่าจะหลอกใช้พ่อของข้า นี่เป็นเหตุผลที่ข้าเลือกจะเปิดขุมทรัพย์ล่าช้า.”
“ท่านทำผิดแล้ว ถ้าท่านทำเช่นนี้ต่อไป ท่านจะไม่สามารถยื้อมันออกนานได้หรอก เพราะไม่เพียงพ่อของท่าน แม้แต่ผู้นำตระกูลหม่า ก็ถูกสั่งมา มันเป็นคำสั่งของ บรรพชนของพวกท่าน.”
“ท่านสามารถเปลี่ยนคำสั่งได้หรือ ท่านสามารถทำให้พ่อของท่านต่อต้านกับคำสั่งได้อย่างนั้นหรือ ”
ชูเฟิงถาม
“ข้า…”
หลี่ ชาน พูดไม่ออก เธอไม่รู้ว่าจะตอบชูเฟิงอย่างไร เพราะที่ชูเฟิงพูดมันถูกทั้งหมด
“แต่ถ้าท่านปล่อยให้พ่อของท่านรู้ว่า ตระกูลหม่าเห็นแก่ตัวได้ก่อนที่จะเปิดขุมทรัพย์ เมื่อมันเปิดแล้วด้วยความแข็งแกร่งของพ่อท่านอาจจะจัดการพวกเขาได้.”
ชูเฟิงพูด
“ท่านผู้มีพระคุณท่านพูดได้ถูกแล้ว แต่ข้าว่า แม้ท่านสามารถทำให้สัตว์มหึมากลับเป็นเช่นเดิม และ ทำให้มันพูดได้พ่อของข้าจะไม่เชื่อทุกสิ่งที่มันพูดออกมาเกี่ยวกับผู้นำตระกูลหม่า ข้ารู้จักเขาดี เขาเป็นคนที่ดื้อรั้นมากในเรื่องแบบนี้.”
“ในปีนี้ หลังจากพวกเราได้รวมตัวกันกระทำบางอย่างและได้รับผลประโยชน์มา พ่อของข้ามักจะยกให้ตระกูลหม่าได้รับมากกว่าตระกูลของเรานั่นเป็นเหตุให้ตระกูลหม่ามีทรัพย์สินมากกว่าตระกูลของเรา.”
หลี่ ชาน พูดด้วยความกังวล
“ก่อนที่ท่านจะจัดการกับเรื่องนั้น ตอนนี้ท่านมีเส้นทางเดินแค่ 2 เส้น 1 ในนั้นคือจุดจบของตระกูลหลี่.”
“อีก 1 คือ ใช้พลังทั้งหมด และสู้เพื่อโอกาสสุดท้ายของท่าน อย่างไรก็ตามโอกาสสำเร็จมันไม่ถึงครึ่ง ดังนั้นอย่าไปคิดว่ามันจะพลาด และให้คิดว่าท่านจะเป็นผู้ชนะ “
ชูเฟิงพูด
เมื่อมองไปที่ชูเฟิงท่าทางของ หลี่ ชาน ก็ต้องเปลี่ยนไป เธอรู้สึกว่าชายตรงหน้านี้แข็งแกร่งมาก และรู้สึกว่าเขาต้องการช่วยตระกูลเธอจริงๆ และ เขาอาจจะทำบางอย่างได้
ในตอนนั้น หลี่ ชาน หัวใจของ หลี่ ชานนั้นก็ไว้ใจชูเฟิงอย่างลึกซึ้ง ถึงแม้จะรู้จักกันไม่นาน
เหตุผลก็คือชูเฟิงนั้นใช้อะไรบางอย่าง ที่มาจากเนตรสวรรค์จากวิธีค้นหาชีพจรสมบัติ ไม่เพียงชูเฟิงจะเห็นทุกสิ่งอย่าง แต่มันก็มีความน่าหลงใหลอยู่ด้วย
และด้วยการครอบครองเนตรสวรรค์ในตอนนี้ มันทำให้หลี่ ชาน เชื่อใจเขาอย่างมาก
ดังนั้น หลี่ ชาน จึงประกาศให้ทุกคนในตระกูลรู้ว่าชูเฟิงเป็นผู้เชี่ยวชาญ และ จะมาช่วยตระกูลหลี่ เพราะเช่นนั้น เธอจึงชวนชูเฟิงเข้าตระกูลหลี่
“อะไรนะ ชาน เอ๋อ เจ้าถูกโจมตีหรือ”
ในพื้นที่ตระกูลหลี่ ชายชราผมขาวและเทาก็แสดงท่าทางตกใจมากเมื่อรู้ว่า หลี่ ชาน ถูกโจมตี
และคนคนนั้น ก็คือพ่อของ หลี่ ชาน และเป็นผู้นำตระกูลที่ ที่อยู่ในระดับ 1 จ้าวสงคราม
“ท่านพ่อ ข้าถูกสัตว์มหึมานั่นโจมตี แต่โชคดีที่ข้าถูกช่วยไว้โดยเขา ถ้าไม่เช่นนั้นในวันนี้ท่านจะไม่ได้เห็นข้าอีกครั้ง.”
หลี่ ชานพูดขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น ข้าบอกให้เจ้าอยู๋กับเธอไม่ใช่หรือ ทำไมเธอถึงถูกโจมตีได้ล่ะ”
ได้ยิน เช่นนั้น ผู้นำตระกูลหลี่ ก็ตะคอกใส่คู่รักวัยชราด้วยความโกรธเกรี้ยว
“มันเป็นความผิดพลาดของพวกเรา โปรดลงโทษพวกเราด้วย”
ในสถานการณ์เช่นนั้นทั้ง 2 ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่คุกเข่าด้วยหน้าตาจริงจัง และเรียกให้ลงโทษตัวเอง
“เจ้าทั้ง 2…”
เมื่อเห็นเช่นนั้น ผู้นำตระกูลหลี่ ก็หายโกรธ เขาสะบัดมือของเขา และพูดว่า
“ อย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับชานเอ๋อแล้ว และ นอกจากนี้เจ้าทั้ง 2 ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้นข้าจะลงโทษพวกเจ้าได้อย่างไร.”
“ขอบพระคุณมากท่านผู้นำ.”
เมื่อเห็นเช่นนั้นมุมปากทั้ง คู่ก็ยกขึ้นและมองไปที่ชูเฟิงและสัตว์มหึมาด้านหลัง ก่อนจะหันตัวกลับแล้วเดินออกไป
ที่มา: