บทที่ 748 – ราชินีก้าวสู่สมรภูมิรบ
 
 
 
“อะไรนะ นี่มัน…”
 
 
 
หลาน ยี่ ขมวดคิ้วแน่นเมื่อได้ยินคำพูดของชูเฟิง นางนั้นเป็นคนฉลาด จึงเข้าใจคำพูดของชูเฟิงทั้งหมด 
 
 
 
ชูเฟิงนั้นแข็งแกร่งและมีความสามารถพอที่จะฆ่า หวัง หลง และคนอื่นๆ อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ที่ชูเฟิง ต้องการนั้นมันคือเหตุผลที่เขาสามารถฆ่าได้ ถ้าฆ่าพวกนั้นสุ่มสี่สุ่มห้า มันก็ทำให้เขาดูเลวและชั่วช้า ซึ่งอีกฝ่ายนั้นจะไม่มีทางรู้เพราะกำลังถูกบดบังด้วยความเกลียดชัง 
 
 
 
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าชูเฟิงฆ่าหวัง หลง และคนอื่นๆ ก่อนเข้ามาในใจกลาง นครโบราณนี้ หลาน ยี่ จะรู้สึกว่า ชูเฟิงนั้นเป็นชั่วช้ามาก และยังจำการกระทำของเขาไว้อย่างแน่นอน 
 
 
 
แต่ เขานั้นได้ล่อให้ หวัง หลง มาติดกับ และ หลังจากที่ หวัง หลง เผยจิตใจที่ชั่วช้าของมันออกมา ชูเฟิงจึงเริ่มเคลื่อนไหว และฆ่า เขาซะ นั่นเป็นแผนที่สมบูรณ์ แบบมาก เมื่อผู้คนรู้เช่นนี้พวกเขาก็ต้องเข้าใจว่าชูเฟิงนั้นเป็นฝ่ายถูก 
 
 
 
แต่ หลาน ยี่ นั้น รู้ว่าชูเฟิงไม่ใช่คนธรรมดา ไม่เพียงแค่ระดับพลังที่สูงส่ง แต่ยังรวมไปถึงอย่างอื่นด้วย 
 
 
 
ชูเฟิง นั้นคิดที่จะลบ หวัง หลง ออกไปมานานมากแล้ว เขานันไม่ต้องการทำให้ตัวเองได้รับผลเสีย จึงลวงเขาสู่กับดัก และจัดการซะ วิธีการของชูเฟิงนั้น ทำให้ หลาน ยี่ ทั้ง ตัวใจและหวั่นเกรงอย่างมาก นางรู้สึกเกรงกลัวชูเฟิงเลยทีเดียว “พี่ชาย ชูเฟิง พวกเราจะต้องทำอะไรต่อ ดูเหมือนว่า สัตว์ยักษ์นั่น มันจะตื่นขึ้นในอีกไม่นานแล้ว,”
 
 
 
เจียง หวู่ชาง พูดขึ้นด้วยความเกรงกลัว 
 
 
 
ในตอนนั้น ประตูขนาดยักษ์ของวิหารก็ปิดลง ในที่แห่งนั้นมีสัตว์ยักษ์ระดับจ้าวสงครามกว่าพันตัว ชูเฟิงและคนอื่นๆ แม้จะมีพลัง แต่ก็ไม่น่าจะสู้กับพวกมันไหว 
 
 
 
และบัดนี้ เหล่าสัตว์ยักษ์ ก็ลืมตาของพวกมันขึ้น พวกมันจะทำอะไร “แม้ว่านี่จะไม่ใช่แท่นบูชายัญ แต่มันก็ยังมีหนทางที่จะแก้ปริศนามันอยู่”
 
 
 
ในขณะที่คนอื่น กำลังตื่นตระหนก ชูเฟิงนั้นยังใจเย็น และพูดออกมา “อย่างไรหรือ”
 
 
 
เจียงง หวู่ชาง และคนอื่นๆ รีบถามชูเฟิง “ฆ่าพวกมันทั้งหมด และ นำเลือดของพวกมันไปเปิดรูปแบบวิญญาณเลือดนี่ จากนั้นทางออกก็จะปรากฏขึ้น,”
 
 
 
ชูเฟิง พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “อะไรนะ ฆ่าพวกมันทั้งหมดหรือ จะเป็นไปได้อย่างไร?!”
 
 
 
เมื่อพวกเขาได้ยินเช่นนั้น ก็ต้องตกใจอย่างมาก ใบหน้าของ เจียง หวู่ชาง และคนอื่นๆ ถึงกับเปลี่ยนสี แม้แต่ หลาน ยี่ ที่อยู่ในระดับ 4 จ้าวแห่งสงคราม ก็ยังอ้าปากกว้างด้วยความตกใจ เธอนั้นรู้ว่า เจ้าสัตว์ยักษ์พวกนี้แข็งแกร่งเพียงใด จากที่ได้ปะทะกันมาก่อน 
 
 
 
และในตอนนั้น ถ้าไม่มี หวัง หลง ช่วย นางก็ไม่คิดว่า นางจะ ฆ่ามันได้ นาง อยู่ในระดับ 4 จ้าวแห่งสงคราม แต่เจ้าสัตว์ยักษ์นั้น อยู่ในระดับ 3 จ้าวแห่งสงคราม มันสามารถเอาชนะนางได้แม้นางจะมีพลังเหนือกว่า 
 
 
 
ในตอนนั้น รอบๆ นั้นมีสัตว์ยักษ์เช่นนั้น กว่าพัน ตัว พวกมันนั้นไม่ได้มีเพียงระดับ 3 จ้าวแห่งสงคราม แต่นางยังพบว่าบางตัวนั้นยังมีระดับ 4 จ้าวแห่งสงครามอีกด้วย 
 
 
 
ดังนั้น จากมุมมองของนางจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าพวกมันทั้งหมด 
 
 
 
*ฮึ่ม* แต่แล้ว ชูเฟิงก็เริ่มสะบัดแขนเขาแล้วเริ่มวางรูปแบบวิญญาณ ห่อหุ้ม หลาน ยี่, ซู รู่ว, ซู เหม่ย, เจียง หวู่ชาง และ จาง เทียนยี่ ไว้ภายใน “ชูเฟิง เจ้าทำอะไรน่ะ!!”
 
 
 
เมื่อหลาน ยี่ และคนอื่นๆเห็นก็ตกใจมาก นางรู้สึกได้ว่ารูปแบบที่ชูเฟิงนั้นไม่ธรรมดา มันแข็งแกร่งมากและบางทีอาจจะปกป้องพวกนางได้ทั้งหมด 
 
 
 
แต่ในตอนนั้น เมื่อชูเฟิง วางรูปแบบเสร็จ เขาก็เดินออกมาจากรูปแบบนั่น สู่ด้านนอกที่กำลังจะเกิดเหตุการณ์ที่สุดจะเลวร้ายขึ้น “ข้าทำอะไรอย่างนั้นหรือ ก็ไปเล่นกับพวกมันไง.”
 
 
 
ชูเฟิง พูดพร้อมเรียก ดาบตราประทับมังกรออกมา “ไม่นะ ปล่อยข้าออกไป ข้าไม่สามารถปล่อยให้เจ้าสู้กับพวกมันด้วยตัวคนเดียวได้!”
 
 
 
หลาน ยี่ ตะโกนออกมา “คนเดียวอย่างนั้นหรือ ใครว่าจะข้าจะสู้ด้วยตัวคนเดียว,”
 
 
 
ชูเฟิง ยิ้มและพูดออกมา 
 
 
 
ในตอนนั้น พวกเขาทั้งหมดก็รู้สึกสงสัยในคำพูดของชูเฟิง แต่ต่อมา ก็มีรูปแบบวิญญาณปรากฏขึ้นมันมีลักษณะเป็นประตู ใช่แล้ว มันคือประตูเชื่อมต่อโลกวิญญาณ 
 
 
 
หลังจากประตูนั้น เปิดขึ้นก็มี สาวงาม ที่งดงามยิ่งกว่า ซู รู่ว และ ซู เหม่ย รวมกัน ก้าวออกมาจากประตูนั้น (T/N ถอยไปพวกรากหญ้า นางเอกมาแล้ววววววว) 
 
 
 
นางคือ ต้านต้าน แม้ว่าเขาจะพบกับนางมานานแล้ว แต่ร่างของนางก็ยังคงความงามไว้เช่นเดิมไม่แปรเปลี่ยน 
 
 
 
แต่ อายุของนางนั้น ดูเหมือนว่ามันจะเลยคำว่าหญิงสาวไปไกลโขแล้ว แต่ใบหน้านางก็ดูงดงามและอ่อนหวานอย่างมากและโดยเฉพาะรูปร่างของนางนั้นบอกได้แค่ว่า แซ่บมาก นางนั้นไม่เหมาะกับคำว่าหญิงสาว ผู้งดงาม มันคงจะดีกว่าหากบอกว่านางนั้น คือ ราชินีผู้งดงาม “เป็นนาง อย่างนั้นหรือ”
 
 
 
แม้ว่า หลาน ยี่ และคนอื่นๆ จะไม่รู้จักต้านๆ แต่จาง เทียนยี่ นั้นเคยพบนางมาก่อน เขารู้ว่านางนั้นไม่ใช่อสูรวิญญาณธรรมดา แต่นางนั้นทรงพลังอย่างมาก หลังจากต้านต้านปรากฏตัวขึ้น ความกังวลของ จาง เทียนยี่ ก็หายไป เพราะชูเฟิง เคยบอกกับเขาว่า ต้านต้าน นั้นแข็งแกร่งกว่าเขามาก 
 
 
 
อย่างไรก็ตาม หลาน ยี่ นั้นไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น เพราะพวกสัตว์ยักษ์นั้น มีระดับ 4 จ้าวแห่งสงครามอยู่ด้วยและมันยังเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณอีก นางคิดว่า ต้านต้านนั้น ต่อให้แข็งแกร่งเพียงใด นางก็มีระดับแค่ 1 จ้าวแห่งสงครามเท่านั้น มิอาจเทียบพวกมันได้ 
 
 
 
พูดตามตรง แม้แต่อสูรวิญญาณของนางนั้น ยังมีระดับสูงกว่าต้านต้านเลย และจากที่ดูแล้ว ชูเฟิงนั้นมีอสูรวิญญาณแค่ตัวเดียวเท่านั้น นางจึงคิดว่า ชูเฟิงไม่อาจรับมือพวกมันได้ไหว “หาวววว~~~”
 
 
 
เมื่อนางก้าวออกมาจากประตู นางก็ไม่ได้สนใจคนอื่นๆเลย นางนั้นเพียงยืดตัวและบิดขี้เกียจเท่านั้น 
 
 
 
หลังจากบิดขี้เกียจเสร็จ นางก็หันมาแล้วยิ้ม รอยยิ้มของนางนั้นมีเสน่ห์ที่รุนแรงมาก.”
 
 
 
พวกมันคือสัตว์ยักษ์ระดับสูงอย่างนั้นสินะ ดูเหมือนว่าข้าจะมีแหล่งพลังงานตกถึงท้องแล้ว ถ้าข้าปรับแต่งพวกมันหมดบางทีข้าอาจจะทะลวงไประดับ 2 จ้าวแห่งสงครามก็เป็นได้ ฮิฮิ ~”
 
 
 
*กรรรรร~~~* ในตอนนั้นก็มีเสียงคำรามที่น่ากลัวดังขึ้น 1 ใน สัตว์ยักษ์ที่หลับอยู่ได้ตื่นขึ้นแล้ว 
 
 
 
*กรรร กรรร~~~~~* หลังจากนั้น ก็มีเสียงคำรามกว่าพันเสียงดังขึ้น เห็นได้ชัดว่าพวกมันนั้นตื่นขึ้นหมดแล้ว 
 
 
 
หลังจากถูกปลุกให้ตื่น พวกมันก็หันดวงตาสีแดงก่ำราวกับเลือดมาที่พวกชูเฟิง จากนั้นพวกมันก็เริ่มตั้งท่า และพุ่งมาทางพวกชูเฟิงทันที 
 
 
 
ในตอนนั้น หลานชี และ คนอื่นๆ ที่อยู่ภายในรูปแบบวิญญาณนั้น ไม่สมารถหนี ได้พวกนางได้แต่ยอมรับมันเท่านั้น ดวงตาของพวกนางนั้น เต็มไปด้วยความกลัวและกังวล 
 
 
 
เห็นได้ชัดว่า พวกนางนั้นกลัว สัตว์ยักษ์เพียงใด แม้ว่าจะอยู่ภายในรูปแบบวิญญาณ แต่พวกนางก็ยังรู้สึกถึงกลิ่นอายที่ล้อมรอบพวกนาง ทำให้พวกนางนั้นรู้สึกว่าไร้ทางหนีโดยสิ้นเชิง
 
 
 
ReadMGA///////////////////////////////////////////////////A : ต้านต้าน หันมาทางนี้หน่อยสิ๊ . . . . 
 
 
 
B : เห้อ คิดฮอดจื่อหลิง!!!
 
 
 
C : เห้อ ทุกคนคงลืม หลิน เยว่เยว่ ไปแล้วสินะ หญิงงามแห่งอาณาจักรมังกรฟ้า คุณหนูแห่งตระกูล หลิน ที่งามมากจนทำให้พี่เฟิง ถึงกับอ้วกแตก!!!