ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปศิษย์ของสำนักสี่คาบสมุทรจะได้ประโยชน์และได้รับการดูแลอย่างดีเยี่ยม เพราะภายในเขตของสำนัก มีพื้นที่เหมาะแก่การฝึกเป็นพิเศษ อีกทั้งยังมีทรัพยากรที่ใช้ในการเพาะปลูกอยู่จำนวนมาก
รอบๆพืนที่เต็มไปด้วยบรรดาลูกศิษย์ลูกหา ซึ่งพวกเขาสามารถจับจองสร้างที่อยู่อาศัยในพื้นที่ ที่พวกเขาชอบได้ และนั้นมันทำให้พวกเขารู้สึกสนุกสนานไปกับมัน
เนื่องจากอาณาเขตของสำนักสี่คาบสมุทรนั้นกว้างใหญ่ จึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการใช้เดินทาง พวกเขาจึงมีการวางสัญลักษ์รูปแบบอำนาจ ตราประทับเคลื่อนย้าย อยู่นับไม่ถ้วนตามจุดต่างๆ ซึ่งตราประทับเคลื่อนย้ายถูกสร้างขึ้นโดยผู้เชื่อมต่อฯชุดม่วง
ด้วยการแผ่หลายของตราทับเคลื่อนย้าย ทั่วทั้งทวีปจึงมีการเดินทางที่แสนจะสะดวก ไม่ว่าจะไปไหนก็ตาม มันกลายเป็นสิ่งที่น่าประทับใจอย่างมาก เพราะความเร็วของตราประทับเคลื่อนย้าย เป็นสิ่งที่ใกล้เคียงกับพื้นฐานของการขนส่ง
* ซุบซิบ ซุบซิบ * เสียงคนจำนวนมาก
พื้นที่บริเวณใจกลางของสำนักสี่คาบสมุทร เป็นเมืองขนาดใหญ่ ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนหลายแสนคน และพวกเขาเหล่านั้นก็ล้วนแต่มาเพื่อเข้าร่วมสำนักสีคาบสมุทร
ภายในเมืองใหญ่ มีตราประทับเคลื่อนย้ายที่เปล่งแสงสีม่วงอยู่นับไม่ถ้วน เมื่อแสงนั้นเจิดจ้า ก็มีกลุ่มคนเดินออกมาจากภายในตราประทับ ซึ่งนั้นก็คือ ชูเฟิง และ คนอื่นๆ
” นี่หรอคือสำนักสี่คาบสมุทร ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ถึงกับสามารถวางตราประทับเคลื่อนย้ายได้มากมายขนาดนี้!!! ความเร็วในการเคลื่อนที่ เมื่อตอนใช้งานตราประทับก็ค่อนข้างวิเศษ หรืออาจกล่าวได้ว่า ความเร็วของมันช่างน่ากลัว “
หลังจากที่เดินทางมาไกลแสนไกลแต่การมาถึงสำนักกับใช้เวลาเพียงสั้นๆ แม้แต่ชูเฟิงเองก็แทบไม่อยากจะเชื่อ เขาที่เป็นผู้เชื่อมต่อฯก็เคยใช้พลังของตราประทับมาบ้างแล้ว ซึ่งมันต้องใช้ความพยายามอย่างสูง อีกทั้งยังสลับซับซ้อน ซึ่งเขารู้ดีว่ามันเป็นสิ่งที่ยากแค่ไหน ถึงจะสามารถสร้างตราประทับย่นระยะทางได้สมบูรณ์แบบนี้
” ที่แห่งนี้มีอะไรให้เราประหลาดใจได้จริงๆ หากเป็นระยะที่ไกลมากมันคงจะซับซ่้อนมากขึ้นกว่านี้หลายเท่า การวางตราประทับเคลื่อนย้ายมันมีโครงสร้างเดียวกับการสร้างตราประทับลวงตา แต่ตราประทับลวงตามันมีขนาดเล็กกว่า “
” แม้ว่าตราประทับเหล่านี้แสดงผลเป็นการเคลื่อนย้ายที่รวดเร็ว แต่โครงสร้างของมันใหญ่มาก ซึ่งตราประทับเคลื่อนย้ายที่ใหญ่อีกทั้งยังมีจำนวนมากมายถึงขนาดนี้ พวกเขาคงต้องใช้ผู้เชื่อมต่อชุดม่วงเป็นจำนวนมหาศาล อย่างน้อยๆก็คงมีไม่ต่ำกว่าหลายร้อยคน “
” กล่าวได้ว่าตราประทับที่เจ้าเห็นในวันนี้คือเลือดเนื้อและหยาดเหงื่อของอาวุโส สำนักสี่คาบสมุทร “
” แต่หากมันถูกวางโดยผู้เชื่อมต่อฯราชวงศ์ แม้คนคนเดียวก็อาจจะสามารถวางโครงสร้างดังกล่าวนี้ได้ โดยที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่ปี “
” และหากมันถูกวางโดยผู้เชื่อมต่อฯราชันย์ มันจะเสร็จสมบูรณ์ได้ด้วยเวลาเพียงไม่กี่วัน และการสร้างตราประทับ พวกเขาก็จะเหนือกว่ากับสิ่งที่เจ้าได้เห็น “
ต้านต้านที่อยู่ในโลกวิญญาณ อธิบาย
” ผู้เชื่อมต่อฯราชวงศ์ ? ผู้เชื่อมต่อฯราชันย์ ? นั้นคือสิ่งที่เหนือกว่า ผู้เชื่อมต่อฯชุดทองหรือเปล่า ? “
ชูเฟิงถามด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น เพราะเขารู้ว่า ผู้เชื่อมต่อฯชุดทอง ยังไม่ใช่จุดสูงสุดของผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ
แต่ต้านต้านจะมักไม่ยอมบอกเขาว่ามีผู้เชื่อมต่อที่อยู่เหนือชุดคลุมสีทองหรือเปล่า เพราะว่ามันยังห่างไกลกับความใกล้เคียงที่เขาจะเข้าถึง แต่ตอนนี้เหมือนว่าต้านต้านนางวางแผนที่จะบอกเรื่องนี้กับ ชูเฟิง
” เริ่มจากผู้เชื่อมต่อฯชุดทอง ต่อจากนั้นจะเป็นผู้เชื่อมต่อฯราชวงศ์ เหนือไปกว่านั้นจะเป็นผู้เชื่อมต่อฯราชันย์ “
ต้านต้านกล่าว
” แล้วผู้เชื่อมต่อที่เหนือกว่าผู้เชื่อมต่อฯราชันย์ล่ะ ? มีอีกหรือเปล่า “
ชูเฟิง ถามใกล้ๆ
” เหนือกว่าผู้เชื่อมต่อฯราชันย์ แน่นอนว่ามี แต่ข้าเกรงว่าแม้แต่ดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์เองก็ยังไม่มีใครที่ไปถึงระดับนั้น มันจะดีกว่าถ้าเจ้ายังไม่ต้องถาม เพราะสิ่งเหล่านั้นมันยังห่างไกลจากเจ้าอีกมาก “
” เอาแค่ ผู้เชื่อมต่อฯราชวงศ์ ถ้าพวกเขามีความสามารถพอ อย่างน้อยๆต้องมีพลังวิญญาณในอาณาจักรราชันย์แห่งสงคราม แต่นั้นก็คงยังไม่พอที่พวกเขาจะได้เป็นผู้เชื่อมต่อฯราชวงศ์ ถ้าหากพวกเขายังไม่เข้าใจอำนาจพลังวิญญาณพอ เพราะอำนาจพลังวิญญาณในระดับราชวงศ์เป็นสิ่งที่แตกต่างจากอำนาจพลังวิญญาณสีม่วงไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งความต่างชั้นของมันเทียบได้กับพิภพและสวรรค์ “
” จึงมีแต่ผู้เชี่ยวชาญอาณาจักร จักรพรรดิแห่งสงครามจึงจะเป็นผู้เชื่อมต่อฯราชวงศ์ ดังนั้นตอนนี้เจ้ารู้ว่าการที่จะได้เป็น ผู้เชื่อมต่อฯราชันย์ มันยากแค่ไหนแล้วใช่มั้ย ? “
ต้านต้านหัวเราะคิกคัก ขณะที่กล่าว
ได่ยินถึงจุดนั้น ชูเฟิง ก็ได้แต่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพราะเขารู้ถึงเส้นทางของการเป็นผู้เชื่อมต่อว่ามันลำบากมากแค่ไหน แม้แต่จักรพรรดิแห่งสงครามนั้นก็ยากมากแล้ว ดังนั้น ชูเฟิง จึงไม่กล้าที่จะจินตนาการไปไกลกว่านั้น
” ขออภัย!!! พวกท่านวางแผนที่จะเข้าร่วมสำนักสี่คาบสมุทร ? “
หลังจากเดินออกมาจากตราประทับ ก็มีชายคนหนึ่งตรวงเข้ามาถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ผู้ชายคนนั้นอยู่ในวัยกลางคน ดูจากลักษณะแล้วคงจะมีอายุไม่เกิน 40 ปี ซึ่งใบหน้าของเขาเหมือนกับผ่านประสบการณ์อย่างอย่างโชกโชน จึงมีลักษณะภายนอกที่เหมือนจะรู้อะไรต่อมิอะไร พลังวิญญาณของเขาก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน เขาอยู่ในอาณาจักรสวรรค์ระดับ 5 พูดถึงในแง่ของพลังวิญญาณอาจบอกได้ว่าเขา เหนือกว่า ชูเฟิงและคนอื่นๆ
สิ่งที่สำคัญ คือเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ มีอักษรสีดำขนาดใหญ่ปักไว้ว่า ” 4 คาบสมุทร ” และป้ายที่เอวก็บอกถึงตัวตอนของเขา ว่าเป็นคนของสำนักสี่คาบสมุทร
” ศิษย์พี่ พวกเราคิดจะเข้าร่วมสำนักสี่คาบสมุทร และพวกเราได้ยินมาว่าสถานที่แห่งนี้สามารถให้เราพักผ่อนได้ในระหว่างรอ เราจึงมาที่นี่ “
เจียง หวู่ชาง ตอบกลับอย่างสุภาพ โดยไม่กล้าที่จะหยาบคายต่อคนของสำนักสี่คาบสมุทร
โดยเฉพาะบนเส้นทางแห่งนี้ พวกเขาได้เห็นความไร้เหตุผลของคนในสำนักสี่คาบสมุทรมาก็เยอะแล้ว ดังนั้นเจียง หวู่ชาง จึงไม่คิดจะเสียมารยาท เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามมา
” มาสถานที่แห่งนี้ นับว่าถูกต้อง ศิษย์น้องตามข้ามา ข้าจะจัดหาที่พักที่ดีที่สุดให้กับพวกเจ้า “
แต่สิ่งทำให้ชูเฟิงและทุกคนแปลกใจ นั้นก็คือ คนคนนั้นไม่มีท่าทียิ่งยโสเลยแม้แต่น้อย และดูเหมือนว่าเขาจะใจดีอย่างมาก มันทำให้ชูเฟิงและคนอื่นมองหน้ากันอย่างมึน งง
ซึ่งเขาคิดว่าชายตรงหน้าเขานั้นคงไม่ต่างจากคนอื่นๆซะอีก แต่เขากับดูมีน้ำใจอย่างมาก ในตอนแรกที่เดินผ่านมา มีหลายคนจงใจปิดทางเดินของพวกเขา พร้อมกับพูดจานินทา ชูเฟิง และ คนอื่นๆ แต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าคิดผิด
ผู้ชายคนนี้ดูใจดีสุดๆ อีกทั้งยังดูแลต้อนรับพวกเขาอย่างอบอุ่น ไม่เพียงแต่เขาจะนำทางให้ เขายังป้องกันพวกเขาจากคนรอบข้างที่ทำหน้าตาดุร้ายใส่ แต่เมื่อชายคนนั้นมองหน้า คนอื่นๆก็โค้งตัวขอโทษพร้อมกับแยกย้าย และหายไป
ซึ่งเห็นแบบนั้น ชูเฟิงและคนอื่นๆจ้องหน้ากัน เพราะรู้ว่าเขาคนนี้เรียนรู้วิธีที่จะปฏิบัติตัวกับผู้อื่น เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ แต่เหมือนว่า ชูเฟิงและพรรรคพวกจะเป็นข้อยกเว้น
แม้ว่าจะมีคนหลายหมื่นหลายแสนเตรียมตัวจะเข้าร่วมสำนักสี่คาบสมุทรในวันนี้ แต่ในความเป็นจริงมีเพียงกลุ่มของพวกเขาที่ยังเด็ก แต่คนที่เป็นเด็กแท้จริงแลวกับเข้าสู่อาณาจักรสวรรค์กันทุกคน ซึ่งภายในคนจำนวนมาก แทบจะไม่มีเลย
ดังนั้น เมื่อเห็นว่ามีเด็กหนุ่มสาวที่แข็งแกร่งเหมือนชูเฟิงมาเป็นกลุ่ม ซึ่งกลุ่มเขามีโอกาสมากที่จะผ่านการทดสอบ และไม่แน่ว่าพวกเขาในวันหน้าอาจจะได้ดิบได้ดีในสำนักสี่คาบสมุทร
ดังนั้น ศิษย์ของสำนักสี่คาบสมุทรจึงไม่มีใครคิดจะขัดใจพวกของชูเฟิง อีกทั้งพวกเขายังหาลู่ทางที่เข้ามาต้อนรับพวกเขาโดยแอบเนียนตีสนิท
เขาคงจะหวังไว้ว่า หากชูเฟิงและคนอื่นๆประสบความสำเร็จในอนาคต บางทีพวกชูเฟิงอาจจะดึงพวกเขาขึ้นไปด้วย ซึ่งวิธีนั้นก็มักจะได้ผล ถึงแม้ว่ามันไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่ในสายตาของคนภายนอก แต่ในความเป็นจริง ภายในสำนักสี่คาบสมุทร มีคนทำแบบนี้ไม่น้อย
และก็ดูเหมือนว่า ลูกศิษย์วัยกลางคนคนนี้ได้เตรียมที่พักสุดหรูไว้ให้กับพรรคพวกชูเฟิงเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้เขายังจัดหาคนรับใช้ไว้ให้พวกเขาเรียกใช้งาน ซึ่งคนรับใช้ไม่ใช่คนของสำนักสี่คาบสมุทร แต่มันคนรับใช้ของพวกเขา ซึ่งเหล่าอาวุโสและศิษย์ภายในสำนักล้วนแล้วแต่มีผู้รับใช้กันแทบจะทุกคน
: ถ้าฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้ ไม่หนีนะ คนรับใช้ของพี่เฟิง จะทำให้ทุกคนในภาคทะเลตะวันออกตกใจกันขี้แตกขี้แตน
: โดยเฉพาะ หมู่เกาะประหาร ยิ่งหากได้กำลังของพรรคมารทลายราตรี บอกไว้เลยโครตจะมันส์!!!
: ว่าแต่ ชูเฟิง จะเข้าสำนักสี่คาบสมุทรหรือเปล่า ???
: ไม่ๆ ชูเฟิง มีภาระกิจอื่น จะอยู่ในสำนักแค่พักหนึ่ง !!! จากนั้นก็จะเริ่มไปหาสมบัติเพื่อเพิ่มพลังวิญญาณให้ฟุ่งกระฉูด แต่ก่อนหน้านั้น เด๋วพี่เฟิงจะเข้าร่วมงานประมูล ซึ่งในงานนั้น ชูเฟิง ไปทำให้ 1 ใน 10 ปรมาจารย์ สะดุดตา และอยากได้มาเป็นลูกศิษย์!!! ทั้งๆที่แม่งแทบจะไม่รับศิษย์มาก่อน
: โหวว ขนาดนั้นเลย ก็แค่คนขาเป๋!!!
– : แล้วไง!!! เก่งก็แล้วกัน
ที่มา: