บทที่ 724 – ฉิน ยู่ ผู้มักมาก
 
 
 
“เจ้าเป็นใคร !! ทำไมเห็นพี่สาวของข้าแล้วยังไม่รีบคาราวะ !! เจ้าไม่รู้รึว่านางเป็นใคร !?”
 
 
 
เมื่อเห็นว่า ชูเฟิง ยังยืนนิ่ง หลาน หยานจื่อ ก็ชี้ไปที่เขา พร้อมกับตะโกนออกมาอย่างรุนแรง และนั่นก็ทำให้ ชูเฟิง รู้ว่ามันอย่างที่ จาง เทียนยี่ ได้กล่าวไว้ 
 
 
 
เมื่อได้ยินคำกล่าวของนางนั้น ทุกคนต่างตกตะลึงอย่างมาก แม้ว่าหลายๆ คนจะคาดดำถึงความสัมพันธ์ของนางกับ หลาน ยี่ แต่ไม่มีใครคิดว่า หลาน ยี่ จะเป็นพี่สาวของนาง 
 
 
 
ใบหน้าของ ชูเฟิง ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขายิ้มบางๆ พลางกล่าวออกมาว่า”
 
 
 
ทำไมข้าจะต้องคาราวะพี่สาวของเจ้า !!””ผู้อาวุโส หลาน ยี่ เขาคือสหายของข้า ชื่อว่า ชูเฟิง และเขาก็ไม่ได้เป็นศิษย์ของสำนักสี่คาบสมุทร !!”
 
 
 
ในขณะนั้น จาง เทียนยี่ ก็กล่าวอธิบายออกมาถึงเหตุผลที่ ชูเฟิง ไม่คาราวะ หลาน ยี่ 
 
 
 
แม้ว่าปกติ จาง เทียนยี่ จะไม่กลัวฟ้า กลัวดิน แต่บางครั้งเขาก็ต้องโอนอ่อนลงบ้าง เขาไม่กลัว หลาน หยานจื่อ แต่สำหรับ หลาน ยี่ นั้น นางคือบุคคลที่พวกเขาไม่อาจจะต่อกรได้ “แล้วคนนอกมาทำอะไรที่นี่ !! ที่นี่เป็นเขตของสำนักสี่คาบสมุทร !! ไม่ใช่ที่ที่คนนอกจะเข้ามาวุ่นวายได้ !!”
 
 
 
หลาน หยานจื่อ กล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ “พอแล้ว หยานจื่อ !!”
 
 
 
ในขณะนั้น หลาน ยี่ ก็กล่าวรั้ง หลาน หยานจื่ออกมา นางมองมายัง จาง เทียนยี่ พลางยิ้มบางๆ ก่อนจะกล่าวว่า “พวกเราต่างก็อายุไล่เลี่ยกัน เจ้าไม่ต้องสุภาพกับข้าเช่นนี้หรอก ในครั้งต่อไปเมื่อเจ้าพบข้า ก็ไม่ต้องคาราวะข้าเช่นนี้อีก !!””ขอบคุณผู้อาวุโส หลาน ยี่ !!”
 
 
 
จาง เทียนยี่ และคนอื่นๆ ต่างลุกขึ้น 
 
 
 
เมื่อได้ยินพี่สาวกล่าวเช่นนั้น หลาน หยานจื่อ จึงไม่ได้กล่าวอะไรออกมา นางกวาดสายตามองมายัง ซูรู่ และคนอื่นๆ พร้อมกับกล่าวว่า “โอ้ !! ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะปิดบังการบ่มเพาะพลังที่แท้จริงเอาไว้ !! ในวันนี้นอก จาง เทียนยี่ ที่มีพลังมากกว่าข้า คนอื่นๆ ก็ยังคงอ่อนแอว่าข้า !! ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะแอบวางแผนเอาไว้ซินะ !!””แต่ยังไงก็ตาม ภายในนครที่สาบสูญ ด้วยพลังของพวกเจ้า พวกเจ้าก็ไม่สมควรที่จะได้รับจ้าวโอสถทิพย์ !!”
 
 
 
เมื่อได้ยิน หลาน หยานจื่อ ต่อว่าคนรัก และพี่ชายน้องชายของเขาเช่นนั้น ชูเฟิง รู้สึกโกรธอย่างมาก และเขากำลังจะกล่าวอะไรบางอย่างออกมา …….. “หยานจื่อ !! ทำไมเจ้าถึงได้พูดกับคนอื่นเช่นนี้ ข้าไม่เคยสอนเจ้าให้ปฏิบัติต่อผู้อื่นเช่นนี้นะ !!”
 
 
 
ในขณะนั้น หลาน ยี่ ก็กล่าวออกมาก่อนที่จะ ชูเฟิง จะได้กล่าวออกมา “พี่ ไม่ใช่ว่าข้าไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร !!””แต่พวกเขาปิดบังการบ่มเพาะพลังที่แท้จริงเอาไว้ มันทำให้ข้าลดการป้องกันตัวจากพวกเขา และคงจะวางแผนรอฉีกหน้าข้าอยู่แน่นอน !!”
 
 
 
หลาน หยานจื่อ กล่าวออกมาด้วยความกราดเกรี้ยว โชคดีที่นางยังคงรับฟังอยู่บ้าง “เจ้าไม่ตั้งใจฝึกฝนเองต่างหาก ได้แต่โทษคนอื่นเช่นนี้ !! หากเจ้าตั้งใจฝึกฝนตั้งแต่แรก เจ้าคงไม่ต้องมาระแวงผู้อื่นเช่นนี้ !! และพวกเขาก็จะไม่สามารถตามเจ้าได้ทัน !!””หากพวกเขามีความสามารถพิเศษ และประกอบกับความขยันในการบ่มเพาะพลัง พวกเขาก็จะเหนือกว่าเจ้าแน่นอน !!””หยานจื่อ ไม่ใช่ว่าข้าอยากจะว่าเจ้า แต่ที่เจ้านิสัยเสียแบบนี้ก็เป็นเพราะท่านลุงกับท่านป้าของเจ้า เจ้าถึงได้ทำอะไรไปโดยไม่คิดหน้าคิดหลังเช่นนี้ !! หากเจ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไป ในวันข้างหน้า เจ้าจะต้องแบบรับผลที่จะตามมาอย่างแน่นอน !!”
 
 
 
หลาน ยี่ กล่าวตักเตือนออกมา “พี่สาว ข้า……”
 
 
 
แม้ว่า หลาน หยานจื่อ จะเป็นคนที่หยิ่งผยองอย่างมาก แต่เมื่อนางอยู่ต่อหน้าของพี่สาวนางนั้น นางก็ไม่กล้าแสดงออกถึงความยะโสออกมาแม้แต่น้อย นางทำได้เพียงอดทนและหันหน้าหนี การที่นางกล้าทำตัวก้าวร้าวต่อผู้อื่นในสำนักสี่คาบสมุทรนั้น ก็เป็นเพราะนางพึ่งพาความแข็งแกร่งของพี่สาวนาง “น้องสาว หลาน ยี่ ก็มาเช่นกันรึ !!”
 
 
 
ในขณะนั้นทเสียงหัวเราะดีงก้อง ก็ดีงขึ้นมาจากระยะที่ห่างออกไป 
 
 
 
เพียงพริบตานั้น สองพี่น้องก็ลงมาถึงพื้นที่ที่ทุกคนอยู่ พวกเขาคือ หวาง หลง และ หวาง เยว่ 
 
 
 
หวาง หลง ได้ก้าวเข้าไปใกล้กับ หลาน ยี่ และสนทนากับนาง โดยที่ไม่สนใจ ชูเฟิง และคนอื่นๆ แม้แต่น้อย ในขณะเดียวกันนั้น หวาง เยว่ ก็แสดงท่าทีที่หยิ่งผยองออกมาไม่ต่างจาก หลาน หยานจื่อ แม้แต่น้อย 
 
 
 
ในขณะนั้น ชูเฟิง สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า หลาน ยี่ ไม่ได้อยากสนทนากับ หวาง หลง แม้แต่น้อย แต่ด้วยสถานการณ์บ้งคับ และดูเหมือนว่า หวัง หลง จะมีเรื่องที่จะสนทนากับนางอีกมาก นางจึงแสร้งทำเป็นมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อเขา 
 
 
 
ชุเฟิง ยังเห็นอีกว่า หวาง หลง กำลังสนทนาอย่างสนุกสนาน แววตาของเขาเต็มไปด้วยความกระหาย และปราถนาอย่างมาก 
 
 
 
เมื่อเห็นท่าที่ของ หวาง หลง นั้น และเมื่อคิดถึง ซูรู่ และ ซูเหม่ย ชูเฟิง จึงต้องเพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น “โอ้ !! นี่มันน่าตื่นเต้นจริงๆ !! พวกเจ้าสองคนก็มาด้วยรึ !!”ในขณะนั้น ก็มีชายหนุ่มอีกหนึ่งคนลอยลงมาจากขอบฟ้า รูปร่างของเขาสง่างาม และอ่อนโยน อีกทั้งการบ่มเพาะพลังของเขายังโดดเด่นอย่างมาก 
 
 
 
หลังจากชายหนุ่มผู้นี้ปรากฏตัวออกมานั้น เหล่าศิษย์หญิงของสิบปรมาจารย์สวรรค์ต่างใจเต็นแรง ใบหน้าของพวกนางเปลี่ยนเป็นสีแดงอ่อนๆ ด้วยความเขิลอาย ไม่เว้นแม้แต่ หลาน หยานจื่อ นางก็ยิ้มอย่างอ่อนหวานออกมา เห็นได้ชัดว่านางหลงเสน่ห์ของชายผู้นี้อย่างมาก 
 
 
 
แต่ไม่ว่าคนอื่นจะแสดงท่าทีออกอย่างไร แต่ ซูรู และ ซูเหม่ย ก็ไม่ได้สนใจต่อการปรากฏตัวของชายหนุ่มผู้นี้แม้แต่น้อย เช่นเดียวกับ หลาน ยี่ ที่ยังยืนอยู่อย่างสงบนิ่ง 
 
 
 
ในขณะที่ชายหนุ่มผู้นี้ปรากฏตัวออกมานั้น เขารู้ได้ทันที่ว่าเขาคือหนึ่งในสามอัจฉริยะคนสุดท้ายของสำนักสี่คาบสมุทร ฉิน ยู่ “ทำไมเขาก็มาด้วย !!”
 
 
 
หลังจากการปรากฏตัวของ ฉิน ยู่ นั้น ซูเหม่ย ก็ขมวดคิ้วขึ้นขณะที่พึมพำออกมาด้วยความไม่พอใจ “เหม่ยน้อย เจ้ารู้จักเขารึ !!”
 
 
 
ชูเฟิง กล่าวถาม “เขาคือหนึ่งในสามอัจฉริยะของสำนักสี่คาบสมุทร และเป็นคนที่ไร้ยางอายอย่างมาก ข้าเกลียดเขามากที่สุด !!”
 
 
 
ซู่เหม่ยกล่าวออกมา เห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างที่ทำให้นางไม่พอใจในตัวเขา 
 
 
 
หลังจากมองไปที่ใบหน้าของ ชูเฟิง นางก็กล่าวออกมาอีกว่า”
 
 
 
มันไม่มีอะไร ข้าเคยพบกับเขาเพียงไม่กี่ครั้ง…..”
 
 
 
หลังจากนั้นนางก็เกาะแขนของ ชูเฟิง แน่นราวกับถูกแปะด้วยกาว 
 
 
 
อย่างไรก็ตาม เมื่อ ชูเฟิง คิดอย่างละเอียดนั้น แม้ว่า ซูเหม่ยจะไม่ได้กล่าวออกมา แต่เขาก็เข้าใจได้ถึงใจความสำคัญของนาง 
 
 
 
มันเป็นไปได้ว่า ฉิน ยู่ เคยมาเกาะแกะกับ ซูเหม่ย มันจึงทำให้นางเกลียดเขาอย่างมาก “พี่ ฉิน ยู่ ท่านก็มาด้วยรึ !! ท่านมีน้องชาย หรือน้องสาวอยู่ที่นี่เหรอ !?”
 
 
 
หวาง หลง กล่าวพลางหัวเราะร่า เห็นได้ชัดว่าเขามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อ ฉิน ยู่ “ไม่มี !!”
 
 
 
ฉิน ยู่ ส่ายศรีษะ “ฮ่าๆ ข้ารู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเช่นนั้น ถึงยังไงท่านก็มีน้องอยู่ไม่ใช่รึ !! พี่ชายข้า ฉิน ยู่ !!”
 
 
 
หวาง หลง หัวเราะออกมาเสียงดัง คำกล่าวของเขานั้น หมายถึงสาวงามของ ชูเฟิง อย่างชัดเจน “อ่า น้อง หวาง หลง อย่าได้กล่าวเช่นนั้น แม้ว่าข้าจะไม่ได้สายเลือดเดียวกับนาง แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีคนพิเศษอยู่ในกลุ่มนี้ !!”
 
 
 
ฉิน ยู่ กล่าวพลางยิ้มบางๆ 
 
 
 
ReaDMGA /////////////////////////////////////////////////// A : ไอ้ อี ทั้งหลาย ที่หือกับพี่เฟิงรอดูเถอะ ไม่รู้ซะแล้ว ว่าไผเป็นไผ 
 
 
 
B : นั้นดิ ถ้าพี่เฟิงกูเปลี่ยนหน้าเป็น หวู่ฉิง นี้ กระเจิงกันหมด เฉพาะไอ 3 ตัวที่เรียกกันว่ายอดอัจฉริยะ!!! 
 
 
 
A : อย่างว่า อดทนได้อดทนไป แต่ ฉิน ยู่ ที่หม้อ ซูเหม่ย รับรองเจ็บหนัก!!! 
 
 
 
C : โดนพี่เฟิงกระทึบ ?!! 
 
 
 
B : ไต้กู๋ ลากไปกระทึบ!!! 
 
 
 
A : ไต้กู๋ แม่งเจ๋งอ่ะ ขนาดขาเดียวนะเนี่ย!!! ว่าแต่ทำไมไต้กู๋ ถึงขาขาดอ่ะ ?! 
 
 
 
B : เดินเหยียบตะปู บาดทะยักแดก หมอเลยตัดขาทิ้ง!!! 
 
 
 
C : แม่งทำกูเกือบกลัวล่ะ!