ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 868 – ถลกหนังเลาะเอ็น
“ประมุขนิกายดาบศิลา ความสามารถท่านมีแค่นี้งั้นหรอ ?!”ชูเฟิงกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มที่เยาะเย้ย “เจ้า . . .”
มุมปากของประมุขถึงกับกระตุกพลับๆ เมื่อได้ยินคำพูดของชูเฟิง ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวพูดอะไรไม่ออก ได้แต่โยนสายตาไปที่ผู้ที่ยืนอยู่ใต้หลุมของพระราชวัง
หลังจากที่เห็นคนจำนวนมากจ้องมองมาที่เขา ประมุขก็ได้แต่ขมวดคิ้ว
สถานการณ์ที่เขากำลังเผชิญในตอนนี้ถือเป็นเรื่องที่ยากลำบาก เพราะเขาพบว่า ชูเฟิง ตอนนี้น่ากลัวเกินไป เขาดูแข็งแกร่งขึ้นหากเทียบกับวันแรกที่พวกเขาปะทะกัน ซึ่งจริงๆเขาเองก็ไม่ได้คิดอยากที่จะสู้กับ ชูเฟิง สักเท่าไหร่
ในขณะที่คนอื่นๆต่างพากันคิดว่าไม่น่ารนหาเรื่อง พวกเขาตอนนี้เหมือนกำลังรนหาที่ตาย เมื่อได้เห็นความสามารถเพียงเสี้ยวเดียวของ ชูเฟิง
ตอนนี้เขา มีลักษณะไม่ต่างอะไรไปจากสุภาษิตที่ว่า ขึ้นหลังเสือแล้วลงไม่ได้ แม้เขาจะเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ แต่ก็ไม่มีที่ให้ถอยกลับ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเผชิญหน้ากับ ชูเฟิง
* * * * ย๊ากกก * * * * ในฐานะที่เขาเป็นผู้นำของนิกายดาบศิลา เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่น จำเป็นต้องเข้าโจมตีอีกครั้ง ด้วยการพลิกฝ่ามือของเขาเพียงหนึ่ง สัญลักษณ์ของนิกายที่เป็นเอกลักษณ์ก็พลันปรากฏขึ้น พร้อมกับดาบศิลา
เมื่อมันปรากฏ แสงของมันก็เริ่มหมุนอยู่รอบๆตัวของประมุขนิกาย เขาพยายามใช้พลังอำนาจทั้งหมดของเขาอัดเข้าไปในดาบศิลา
เขาไม่เพียงแต่จะอัดพลังวิญญาณลงไปแม้แต่พลังชีวิตของเขาก็ยังใส่เข้าไปด้วย อำนาจพลังวิญญาณที่เขามีทั้งหมดต่างถูกรวบรวมเข้าไปในดาบศิลา
ไม่เพียงแต่สัญลักษณ์บนดาบจะส่องสว่าง มันยังเขย่าไป-มา ราวกับว่ามันเป็นอสูรที่น่าหวาดกลัว สั่นเทาไปด้วยความโกรธ มันกับต้องการจะฉีกร่างศัตรูให้เป็นชิ้นๆ “พลังนี้มัน . . . หรือว่าจะเป็นทักษะที่แข็งแกร่งที่สุดของประมุข ฉือ ที่เลื่องลือ ?””นี่!!! มันคือดาบศิลาสะท้าน ข้าเคยได้ยินว่า มันร้ายกาจยิ่งกว่าทักษะการต่อสู้ระดับ 9 เสียอีก!!!” “ในที่สุดเราก็ได้เห็นประมุข ฉือ ใช้วิชานี้จนได้! มันเป็นทักษะที่รุนแรงอย่างมาก ข้าจะดูสิว่า เจ้าสัตว์ประหลาด ชูเฟิง จะหยุดมันยังไง “
เมื่อพวกเขาเห็นฉากนั้น ฝูงชนก็ต่างพากันส่งเสียงออกมาด้วยความประหลาดใจ พวกเขาต่างตะลึงในพลังอำนาจที่เล็ดลอดออกมาจากดาบศิลา
เมื่อเขาได้ยินเสียงของผู้คนกล่าวสรรเสริญ ประมุขนิกายดาบศิลา จึงตะโกนออกไปว่า”
ชูเฟิง เจ้ามันบังอาจมาก!!! ตอนแรกเจ้าสังหาร อาวุโสยอดฝีมือของข้า นำซ้ำยังกล้ามาท้าทายข้า!!! วันนี้ข้าจะใช้ดาบศิลานี้ เอาชีวิตชั่วๆของเจ้า!”
หลังจากที่ประมุขนิกายดาบศิลาพูดจบเขาก็ปล่อยมือออกจากดาบศิลา ทันใดนั้นดาบศิลาก็หมุนควงลงมาพร้อมกับแผ่กลิ่นอายที่น่ากลัวพุ่งเข้าใส่ ชูเฟิง
ดาบศิลานี้เป็นการรวบรวมพลังวิญญาณในการต่อสู้เกือบจะทั้งหมดของเขา ก่อนที่มันจะเข้าไปใกล้กับชูเฟิง พื้นดินที่เขายืนอยู่ก็พลันแตกกระจาย ตอนนั้นรอบๆต่างเกิดเป็นรอยแหวกยาวที่ถูกสร้างโดยแรงดันมหาศาล จนทำให้พื้นถึงกับทรุดตัว
แต่ชูเฟิงยังคงยืนเอามือไขว้หลัง จ้องมองไปยังท้องฟ้าพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า เขาไม่คิดที่จะหลบมันเลยแม้แต่น้อย
ในขณะที่ดาบศิลาพุ่งเข้ามา ชูเฟิงก็ค่อยๆเปิดฝ่ามือขึ้นมาพร้อมกับยกขึ้นไปทิศทางดาบศิลา “เขาคิดจะทำอะไรนะ ?!”
ฝูงชนต่างสับสนกับการกระทำของ ชูเฟิง อย่างมาก แต่ในวินาทีที่ดาบศิลามาถึง ชูเฟิง พวกเขาก็พลันกันหวาดกลัวจนตัวสั่น ความหนาวเย็นแผ่ซ่านไปยังกระดูกสันหลังพวกเขา สีหน้าของพวกเขาในขณะนั้นดูเปลี่ยนไปอย่างมาก
ชูเฟิง ไม่ได้หยุดแค่พลังของดาบศิลาด้วยมือข้างเดียว เขายังทำลายดาบศิลาที่อัดแน่นไปด้วยพลังของประมุข ฉือ จนแหลกละเอียดเป็นชิ้นๆ
ทักษะที่เลื่องชื่อของประมุขนิกายที่กล่าวขานว่าน่ากลัวที่สุด บัดนี้กลายเป็นเพียงฝุ่นผง โดยการบดขยี้ด้วยฝ่ามือเพียงข้างเดียวของ ชูเฟิง ความแข็งแกร่งนี้มันเกินกว่าที่พวกเขาทั้งหมดจะจินตนาการได้ ไม่มีใครสักคนที่อยากจะยอมรับว่ามันเป็นเรื่องจริง
ไม่ใช่แค่นั้น หลังจากที่เขาทำลายดาบศิลา ชูเฟิงยังจ้องมองประมุขนิกายดาบศิลาที่ยืนอยู่บนฟ้าพร้อมกับตะโกนอย่างเย็นชาว่า”
ไอ้สารเลว ชีวิตของเจ้าต้องจบลงในวันนี้ รีบไสหัวลงมายอมรับความตายซะ!”
หลังจากที่พูด พลังดูดกลืนก็เพิ่มขึ้นจากฝ่ามือของเขา ทันทีมันก็เข้าห่อหุ่มประมุขนิกายดาบศิลา “อ๊ายยยย . . .”
ก่อนที่พลังดูดจะดึงเขาเข้ามาถึงตัวชูเฟิง ประมุขฉือก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ ไม่เพียงแต่เขาจะสูญเสียความสามารถในการลอยตัว เขายังดูคล้ายกับว่าวที่ขาดออกจากเชือกจนเสียการควบคุม เขาแกว่งไปซ้ายที ขวาที กลิ้งไปมาภายในอากาศ ขณะที่ค่อยๆลอยเข้ามายังทิศทางของ ชูเฟิง “สวรรค์ ความแข็งแกร่งของพวกเขาต่างกันถึงขนาดนี้เลย ?! “นี้มันเหมือนกับ ประมุขฉือ ไล่ตี ชูเฟิง จนทำให้ต้องหลบหนีตรงไหน เขาแทบไม่มีโอกาศแตะตัว ชูเฟิง เลยด้วยซ้ำ!!!””มะ . .มะ .ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ นะ . นะ. . นี่มันเหลือเชื่อมากๆ ความร้ายกาจของ ชูเฟิง ยิ่งกว่าในข่าวลือเสียอีก!”
ทุกคนถึงกับลิ้นพันกันจนแทบจะพูดอะไรไม่ออกเมื่อเห็นฉากแบบนั้น พวกเขาต่างพากันระเบิดวงสนทนาขณะที่ตะโกนกันออกมาด้วยความประหลาดใจ
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้แต่แรกแล้วว่า ชูเฟิง มีความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดา แต่พวกเขาก็ไม่นึกว่ามันจะถึงขนาดนี้ หลังจากที่พวกเขา เห็น ฉือ จิงเทียน ไล่ตะเผิด ชูเฟิง จนต้องหนีมาก่อน พวกเขาย่อมคิดว่า ชูเฟิง ไม่ใช่คู่มือของ ประมุข
แต่เมื่อเห็นฉากนี้ พวกเขาจึงอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง หากมองในมุมอื่น ชูเฟิง ที่มีความสามารถขนาดนี้ แล้วทำไมเขาถึงต้องหนีประมุข ทำไมถึงไม่เลือกที่จะสู้ล่ะ! “ไต้เท้า หยาน ช่วยกูด้วย!!!”
ในสถานการณ์แบบนี้ประมุขนิกายดาบศิลารู้ดีว่าตัวเองแย่แน่ๆ ดังนั้น เขาจึงต้องรีบร้องขอความช่วยเหลือจากไต้เท้า หยาน
* ซู่ววววว * ในตอนนั้น ไต้เท้าหยานก็ได้ขบัดแขนออกไปด้านหน้า พร้อมกับระเบิดออร่าระดับ 8 จ้าวแห่งสงครามออกมา เขาใช้พลังดูดที่ทรงอนุภาพจากแขนของเขา ห่อหุ้มประมุขนิกายที่อยู่ในอากาศ เพื่อคิดที่จะช่วยเหลือ “บ้าเอ้ย . . . . .”
อย่างไรก็ตาม มันก็ไร้ประโยชน์ แม้ว่าพลังดูดของเขาจะคลุมร่างของประมุขนิกายดาบศิลา มันก็ไม่เพียงพอที่จะช่วยเขาไว้ได้
ท้ายที่สุดเขาก็ทำได้แต่ยืนมอง ประมุขนิกายดาบศิลาบินเข้าไปในมือของ ชูเฟิง ขณะที่ถูกคว้าคอเอาไว้ “ไอ้แก่ เจ้าบังอาจนัก!!! ที่กล้ามาทำร้ายคนของพรรคมารทลายราตรี?! เดี๋ยวข้าจะถลกหนังพร้อมกับเลาะเอ็นของเจ้าออกมา!!!”
หลังจากคว้าประมุขนิกายดาบศิลาเอาไว้ได้ ชูเฟิง ก็ไม่คิดที่จะปราณี เพราะเมื่อคิดถึงตอนที่ ฉือ จิงเทียน สังหารคนในครอบครัวของผู้เฒ่า เก้านิ้ว ชูเฟิงก็เต็มไปด้วยความโกรธที่พุ่งสูงขึ้น
ความโกรธครอบงำจิตใจของเขา จนทำให้ชูเฟิงลืมไปว่าอะไรคือความปราณี ขณะที่เขาคว้าคอประมุข เขาก็เหวี่ยงมือ ไป – มา จนทำให้เขากลิ้ง ไปเหมือนกระสอบทราย หมุนติ้วในอากาศก่อนที่จะหล่นกระแทกพื้นโครมคราม ลงไปในหลุมลึก “อ๊าาาา . . .”
ชูเฟิงใช้แรงมหาศาล พุ่งดิ่งลงไปในหลุมลึกจนหลุมที่ลึก อยู่แล้วไม่อาจต้านทานแรงเขาได้จนต้องลึกลงเข้าไปอีก เขาพุ่งใส่ที่ร่างของประมุขฉือที่นอนกองกับพื้น ราวกับลูกศรที่แหลมคม จนทำให้ประมุขกรีดร้องออกมา “ไอ้แก่ ลุกขึ้นมา!”
แต่มีหรือ ชูเฟิง ที่โกรธอยู่จะปล่อยให้เค้าตายไปได้ง่ายๆ เขายกประมุขนิกายดาบศิลาที่นอนอยู่ในหลุมขึ้นมาในมือของเขา
อย่างไรก็ตามในตอนนั้น ไม่ใช่เพียงแค่เลือดที่ไหลอาบไปทั่วร่างของเขา ยามที่ถูกยกขึ้นมาก็ยังมีเสียง กร๊อบ แกร๊บ ดังออกมาชัดเจน มันคือเสียงกระดูกที่แตกละเอียด ด้วยการทำลายเมื่อกี้ของ ชูเฟิง ไม่ใช่แค่กระดูก แม้แต่อวัยวะภายในทั้งหมดของเขายังถูกทำลาย
แต่เห็นได้ชัดว่า ชูเฟิง ยังไม่สาแก่ใจ เขายื่นฝ่ามือของเขาออกไปราวกับคมมีด เสียบเขาไปที่แขนของประมุขนิกายดาบศิลา เมื่อตอนที่เขานำมือออกมา เขาก็กระชากเส้นเอ็นของ ฉือ จิงเทียน ออกมาเป็นยวงๆ “อ๊าาาาาาาาาาาาาา!!!”
ความเจ็บปวดที่ฉือ จิงเทียน เผชิญ ทำให้เขากรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดทรมานมากกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่า
ยังไม่จบเพียงเท่านั้น หลังจากที่ชูเฟิงดึงเส้นเอ็นออกมา เขาก็ขยายมือออกไปฉีกผิวที่ใบหน้าของ ฉือ จิงเทียน ทั้งแผ่น
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
A : มันเป็นการมาร์คหน้าแบบใหม่ โดยการเลาะผิวหนังออกเผื่อให้ทนรับมลภาวะในยุคนั้น
B : ที่แท้พี่เฟิงเราก็ทำงาน เป็นช่างเสริมสวยนี้เอง!!!
C : กูก็ทำได้ พวกมืงจะลองไม๊ ?! รับรอง สิวนี้ไม่ขึ้นอีกเลย!!!
A : เออว่ะ ก็ดีนะ แต่มืงทำให้ตัวเองก่อนเถอะ!!!