Chapter 47: Collaboration "When did Anfey leave? Why did not you tell me?" Christian yelled at Zubin
บทที่ 47: การทำงานร่วมกัน "Anfey ออกเมื่อไหร่ทำไมคุณไม่บอกฉัน?" 
"He… He…" Zubin slowly fell on the table, snoring slightly
"เขา ... เขา ... " Zubin ค่อยๆล้มลงบนโต๊ะกรนเล็กน้อย
 What Jesse had taken out was Spirit Red Wine, which tasted sweet at first, but had quite a punch at the end
สิ่งที่เจสได้นำออกมาคือ Spirit Red Wine ซึ่งตอนแรกได้ลิ้มรสหวาน แต่ก็มีการชกที่ปลายสุด
 Zubin was now drunk
ตอนนี้ Zubin เมาแล้ว
"You… Alas!" Christian sighed
"คุณ ... อนิจจา!" 
 After hearing that Anfey had left, Christian had sobered up a little
หลังจากได้ยินว่า Anfey ทิ้งคริสเตียนก็มีความสุขขึ้นเล็กน้อย
 Looking around, he saw that most of students were drunk
มองไปรอบ ๆ เขาเห็นว่านักเรียนส่วนใหญ่กำลังเมา
 They were either sleeping soundly on the table or leaning back against their chairs like dead people
พวกเขาทั้งสองนอนหลับสบายอยู่บนโต๊ะหรือพิงหลังเก้าอี้ของพวกเขาเช่นคนตาย
 This was ridiculous!"Christian, you… I told you!" Jesse slurred, his eyes sleepy
นี่เป็นเรื่องน่าขัน! "คริสเตียนคุณ ... ฉันบอกคุณ!" 
 He said, "Making friends… with you, it was Jesse’s… honor! If you come to Tasha City later, do not… forget to come and see me
เขากล่าวว่า "การเป็นเพื่อนกัน ... กับคุณนี่เป็นเกียรติของเจสซี ... ถ้าคุณมาที่เมือง Tasha ในภายหลังอย่าลืม ... มาดูฉัน
 Come on, let’s have another glass!" Jesse raised his glass up
มาเถอะขอแก้วกันเถอะ! "เจสยกแก้วขึ้น
 He wasn’t even able to hold his glass still, and his wobbling caused half the glass of wine to spill out
เขายังไม่สามารถถือแก้วของเขาไว้ได้และการโก่งตัวของเขาทำให้แก้วเหล้าองุ่นไหลออกครึ่งหนึ่ง
"I cannot drink anymore
"ฉันไม่สามารถดื่มอีกต่อไปได้
" Christian shook his head
คริสเตียนส่ายหน้า
 He had only drunk one glass so far
เขาเมาเพียงแก้วเดียวจนถึงตอนนี้
 It was not because he didn’t know how to drink or had no desire to drink, but because he could not drink
ไม่ใช่เพราะเขาไม่รู้ว่าจะดื่มอะไรหรือไม่อยากดื่ม แต่เพราะเขาไม่สามารถดื่มได้
 This situation did not allow him to drink anymore
สถานการณ์นี้ไม่ยอมให้เขาดื่มอีกต่อไป
Jesse stopped persuading him to drink more when he saw that Christian was very firm about it
เจสหยุดชักจูงให้เขาดื่มมากขึ้นเมื่อเห็นว่าคริสเตียนเป็นคนที่เข้มแข็งมาก
 He threw himself on the chair with a loud banging sound, searching his shirt for a while
เขาโยนตัวเองลงบนเก้าอี้ด้วยเสียงดังและค้นหาเสื้อของเขาในขณะที่
 He took out a small crystal box
เขาหยิบกล่องคริสตัลขนาดเล็ก
 "Chri… Christian, we will be apart tomorrow
"คริสเตียน Chri เราจะแยกกันในวันพรุ่งนี้
 I feel… sad
ฉันรู้สึกเศร้า
 I am only a little businessman
ฉันเป็นเพียงนักธุรกิจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
 I do not have a lot of good stuff
ฉันไม่มีสิ่งดีๆมากมาย
 If… you… do not… mind, please take this
ถ้า ... คุณ ... ไม่ได้ ... ใจโปรดใช้เวลานี้
""Jesse, your thoughts are what count, I can’t accept this
"เจสซีความคิดของคุณเป็นสิ่งที่นับฉันไม่สามารถยอมรับได้
" Christian smiled
"คริสเตียนยิ้ม
"It is a great magic tool for a mage
"มันเป็นเครื่องมือมหัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่สำหรับนักเวทย์
" Jesse opened the box
"เจสเปิดกล่อง
 "Look… take a look!"Christian had decided not to take anything from him, but he glanced at it out of curiosity
"ดูสิ ... ลองดูสิ!" คริสเตียนได้ตัดสินใจที่จะไม่รับอะไรจากเขา แต่เขาเหลือบมองด้วยความอยากรู้
 It was a crystal with black and white stripes
มันเป็นคริสตัลที่มีแถบสีดำและสีขาว
 It was a rare one and seemed to constantly give out swirling sparkles
มันเป็นของหายากและดูเหมือนจะอย่างต่อเนื่องให้ออกประกายแวววาว
 After that one glance, Christian started to look confused
หลังจากนั้นครู่หนึ่งคริสเตียนเริ่มสับสน
Suddenly, a sharp pain behind his head made Christian sober up
ทันใดนั้นความเจ็บปวดที่รุนแรงหลังศีรษะของเขาทำให้คริสเตียนเคร่งเครียดขึ้น
 Christian became alert and angry
คริสเตียนเริ่มตื่นตัวและโกรธ
 He reached out for his magic wand, but he was whacked behind his head before he could do anything with his wand
เขาเอื้อมมือไปหาไม้กายสิทธิ์ของเขา แต่เขาถูกตีหลังศีรษะของเขาก่อนที่เขาจะทำอะไรกับไม้กายสิทธิ์ของเขา
 He fell helplessly down to the floor
เขาล้มลงอย่างไร้ความปรานีลงไปที่พื้น
"Hurry up! Move! Tie them up!" Jesse’s drunkenness was gone, replaced with excitement and passion
รีบขยับ! 
 "Hurry up, there are three more mages upstairs we have to handle!"At this time, a student, who either felt the urge to pee or had a bad dream, shook his head and opened his eyes slowly
"รีบขึ้นมีอีกสามคนขึ้นไปบนชั้นบันไดเราต้องจัดการ!" ในเวลานี้นักเรียนคนหนึ่งที่รู้สึกอยากจะฉี่หรือมีความฝันที่ไม่ดีส่ายหัวและเปิดตาอย่างช้าๆ
 He saw Jesse giving orders and a group of businessmen and bodyguards holding weapons, standing there with vicious looks
เขาเห็นเจสซีออกคำสั่งซื้อและกลุ่มนักธุรกิจและนักคุ้มกันที่ถืออาวุธยืนอยู่ตรงนั้น
 He gasped with shock and was ready to yell for help
เขากระโจนช็อกและพร้อมที่จะตะโกนขอความช่วยเหลือ
 A bodyguard saw him waking up and tossed a fishing spear at him immediately
ทหารคุ้มกันเห็นเขาตื่นขึ้นมาและโยนหอกให้เขาทันที
 The spear struck the student’s neck
หอกกระแทกคอของนักเรียน
 That poor student fell upside down with his arms and legs swinging in the air
นักเรียนที่น่าสงสารคนหนึ่งล้มลงคว่ำด้วยแขนและขาของเขาที่แกว่งไปมาในอากาศ
 He struggled a few times and then stopped moving
เขาพยายามดิ้นรนสักสองสามครั้งแล้วก็หยุดเคลื่อนไหว
"Bastard! F*cking Bastard!" Jesse was so angry that he jumped on one foot and yelled
"ไอ้มึนเมา! Faulting Bastard!" 
 "Do you know how much money Philips offered? Each live one is worth 200 gold coins, but a dead one is only 100 gold coins! You f*cking made me lose 100 gold coins
"คุณรู้ไหมว่าฟิลิปส์เสนอเงินเท่าไหร่ใครที่มีชีวิตอยู่มีมูลค่า 200 เหรียญทอง แต่เหรียญที่เสียชีวิตเป็นเหรียญทองเพียง 100 เหรียญคุณทำเงินให้ฉันเสีย 100 เหรียญทอง
 I am going to kill you!" Jesse’s honest and kind look became an angry and vicious one
ฉันจะฆ่าคุณ! "รูปลักษณ์ที่ซื่อสัตย์และเป็นกันเองของเจสซีกลายเป็นโกรธและชั่วร้าย
"But, he was just…" that bodyguard argued
"แต่เขาเป็นแค่ ... " ผู้คุ้มกันคนนั้นแย้ง
Jesse slapped his face
เจสซีตบหน้าเขา
 "But what!""Jesse, calm down
"แต่สิ่งที่!" "เจสซี, สงบลง
 Our priority is to get the mages upstairs!" a businessman said with a trembling voice
ความสำคัญของเราคือการทำให้ผู้วิเศษขึ้นไปชั้นบน! "นักธุรกิจพูดด้วยเสียงที่สั่นสะเทือน
 If he were in charge, he would never think of having anything to do with mages
ถ้าเขารับผิดชอบเขาจะไม่คิดว่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับผู้วิเศษ
 Jesse was a person who would do anything for money
เจสซีเป็นคนที่จะทำอะไรเพื่อเงิน
 The businessman had finally decided to follow Jesse, since Jesse depicted a bright future for him, which was really tempting
นักธุรกิจตัดสินใจที่จะติดตามเจสซีในที่สุดเนื่องจากเจสซีได้อธิบายอนาคตที่สดใสสำหรับเขาซึ่งเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจจริงๆ
"I will get you for that later!" Jesse gave that bodyguard a dirty look
"ฉันจะรับคุณในภายหลัง!" 
 He turned around and said, "Pierre, you take two people and watch them
เขาหันกลับไปและพูดว่า "ปิแอร์คุณพาคนสองคนไปเฝ้าดูพวกเขา
 Remember, do not let them use magic
จำไว้ว่าอย่าปล่อยให้พวกเขาใช้เวทมนตร์
 If anyone doesn’t listen to you, cut off their hands and feet, just as long as they still breath
ถ้าใครไม่ฟังคุณให้ตัดมือและเท้าของพวกเขาตราบใดที่ยังหายใจอยู่
 Do you understand?""Yes, sir!" A bodyguard leader nodded with an excited look on his face
คุณเข้าใจไหม? "" ใช่ครับ! "หัวหน้าคุ้มกันพยักหน้าพร้อมกับใบหน้าที่ตื่นเต้นเร้าใจ
 A live one was worth 200 gold coins from Philips
ชีวิตหนึ่งมีมูลค่า 200 เหรียญทองจากฟิลิปส์
 How many gold coins could they get from these people? Even when he worked very hard for a year, he would only get three or four gold coins at most
พวกเขาได้รับเหรียญทองจำนวนเท่าไรจากคนเหล่านี้? 
 This action was definitely worth the risk!Not long after, everybody, including the unconscious Christian, was tied up
การกระทำนี้แน่นอนคุ้มค่ากับความเสี่ยงไม่นานหลังจากนั้นทุกคนรวมถึงคริสเตียนที่ไม่ได้สติถูกผูกติดอยู่
 The businessmen’s bodyguards were experienced with tying people up
บอดี้การ์ดของนักธุรกิจมีประสบการณ์กับการผูกคนขึ้น
 They were careful not to wake anyone
พวกเขาระมัดระวังที่จะไม่ปลุกใคร
 There were only two students who woke up from their light drunkenness
มีเพียงสองนักเรียนที่ตื่นขึ้นมาจากความเมามายของพวกเขา
 The two students did not dare to make any sound when they saw the light reflecting off the swords on their necks
นักเรียนสองคนไม่กล้าทำเสียงใด ๆ เมื่อเห็นแสงสะท้อนจากดาบบนคอของพวกเขา
"Boss, how about that woman?" a bodyguard asked
"เจ้านายผู้หญิงเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นล่ะ?" 
 "She is a princess
"เธอเป็นเจ้าหญิง
 How could she drink with us?" Jesse gave a sinister smirk
เธอจะดื่มกับเราได้ยังไงบ้าง? "เจสซียิ้มอึมครึม
 "I did send her two bottles of wine
"ฉันส่งไวน์สองขวด
 She should have passed out
เธอควรจะเดินออกไป
""I see
""ฉันเห็น
" A bodyguard looked out the side door
"ผู้คุ้มกันมองไปที่ประตูด้านข้าง
"I am warning you," Jesse said, suddenly remembering something
"ฉันเตือนคุณ" เจสซีกล่าวและก็จำอะไรได้บ้าง
 "If I guessed right, that girl should be the daughter of Archmage Saul
"ถ้าฉันเดาถูกต้องเด็กผู้หญิงคนนี้ควรเป็นลูกสาวของซามูเอล
 Don’t even think about it!""Boss, we wouldn’t do anything to her
อย่าคิดถึงเรื่องนี้! "" เจ้านายเราจะไม่ทำอะไรให้เธอ
 We just want to look at her and feel her skin
เราแค่อยากจะมองไปที่เธอและรู้สึกถึงผิวของเธอ
 Is that okay?" that bodyguard asked without any shame
ไม่เป็นไร? "ผู้คุ้มกันคนนั้นถามโดยไม่ต้องอับอายใด ๆ
"No f*cking touching! Go home and touch your mother, f*cker!" Jesse said angrily
"ไม่ต้องไปสัมผัสบ้านของคุณและสัมผัสแม่ของคุณ!" 
 "What kind of women can you not get when we get our rewards? I will cut off your hands and feed them to dogs if you dare to bother her!""Boss, I am just saying…" That bodyguard looked down sulkily
"ผู้หญิงประเภทไหนที่คุณไม่สามารถได้รับเมื่อเราได้รับรางวัลของเราฉันจะตัดมือของคุณและให้อาหารแก่สุนัขถ้าคุณกล้าที่จะทำให้เธอรำคาญ!" "เจ้านายฉันแค่พูด ... " ผู้คุ้มกันคนนั้นมองลงไปอย่างโหดร้าย
"Okay, you guys stay here watching them, the rest of you follow me upstairs!" Jesse waved
"เอาล่ะพวกคุณอยู่ที่นี่ดูพวกเขาส่วนที่เหลือของคุณตามฉันไปที่ชั้นบน!" 
There were only four bodyguards left in the cafeteria
มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกสี่คนที่เหลืออยู่ในโรงอาหาร
 They knew about the huge difference in ability, so they didn’t dare to slack
พวกเขารู้เกี่ยวกับความสามารถที่แตกต่างกันมากดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าหย่อน
 With their eyes wide open, they watched the students on the floor
เมื่อตาของพวกเขาเปิดกว้างพวกเขามองดูนักเรียนบนพื้น
The two sober students received special treatment, but they could not do anything to help
นักเรียนสองคนที่มีสติได้รับการรักษาเป็นพิเศษ แต่พวกเขาไม่สามารถทำอะไรเพื่อช่วยได้
 A mage’s hands were the necessary agents for turning invisible, moving elements into visible magic
มือของนักมายากลเป็นตัวช่วยที่จำเป็นสำหรับการเปลี่ยนองค์ประกอบที่มองไม่เห็นให้เคลื่อนย้ายไปสู่เวทมนตร์ที่มองเห็นได้
 A person without arms could still be a swordsman, fighting with two legs
คนที่ไม่มีอาวุธสามารถเป็นดาบได้ต่อสู้กับสองขา
 However, he could never be a mage, because he would not be able to use magic
อย่างไรก็ตามเขาไม่อาจเป็นเวทมนตร์ได้เพราะเขาจะไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้
 Senior mages and archmages might be able to use their mind power as the agent to turn elements into magic, but the students were only intermediate mages, they were too far away from being archmages
นักมายากลอาวุโสและ archmages อาจจะสามารถใช้อำนาจจิตของพวกเขาเป็นตัวแทนที่จะทำให้องค์ประกอบเป็นเวทมนตร์ แต่นักเรียนเป็นเพียงผู้วิเศษระดับกลางเท่านั้นพวกเขาก็อยู่ห่างไกลจากการเป็นอาร์ไคฟ์
 There was no way for them to use magic without a visible agent
พวกเขาไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้โดยปราศจากตัวแทนที่มองเห็นได้
A cold air spread upward from Zubin
อากาศเย็นกระจายตัวสูงขึ้นจาก Zubin
 It had been humid in the cabin, so when it became colder, the moisture in the air froze into frost with an unnoticeable speed
มีความชื้นในห้องโดยสารดังนั้นเมื่ออากาศเย็นลงความชื้นในอากาศก็แข็งตัวไปด้วยน้ำแข็งที่มีความเร็วไม่เด่นชัด
"How come I feel a little bit cold?" A bodyguard looked around
"ทำไมฉันถึงรู้สึกหนาวจัง?" 
"Yeah, I felt it too," another bodyguard said
"ใช่ฉันรู้สึกว่ามันมากเกินไป" ผู้คุ้มกันอีกคนหนึ่งกล่าว
"You guys stay here
"พวกคุณอยู่ที่นี่
 I am going to get a coat
ฉันจะได้รับเสื้อ
""You bastard! You are still thinking about that woman, aren’t you? Don’t forget the boss’s words
""คุณมันเลว! 
 We cannot bother her!""What are you talking about? I really feel cold," that bodyguard muttered and turned around, walking out the side door
เราไม่สามารถทำให้เธอรำคาญได้! "" คุณกำลังพูดถึงอะไร? 
With the cold weather, the floor started to be covered by a thin layer of frost
กับสภาพอากาศหนาวเย็นชั้นเริ่มปกคลุมด้วยชั้นบาง ๆ ของน้ำค้างแข็ง
 The sleeping students started to wake up one by one, and even the unconscious ones frowned and struggled to open their eyes
นักเรียนที่นอนหลับเริ่มตื่นขึ้นมาทีละคนแม้แต่คนที่ไม่ได้สติก็ยังคึกคักและพยายามจะเปิดตา
 When everyone realized they had been tied up, they were startled and tried to break through their bindings
เมื่อทุกคนตระหนักว่าพวกเขาถูกมัดขึ้นพวกเขาก็ตกใจและพยายามที่จะตัดผ่านการผูกมัดของพวกเขา
"Do not f*cking move!" A bodyguard held out a metal stick immediately, smacking the head of one student
"อย่าย้ายไป!" 
 Blood immediately oozed out from that student’s head
เลือดไหลออกจากศีรษะของนักเรียนทันที
 "Did you not hear me? If anyone moves, I will cut off his hands and feet!" He finished talking but was still afraid the students didn’t believe him
"คุณไม่ได้ยินฉันไหมถ้าใครเคลื่อนไหวผมจะตัดมือและเท้าของเขา!" 
 He lifted up that student’s leg with one hand, threw away the metal stick, grabbed a sword with the other hand, and swung the sword at that student’s leg
เขายกขานักเรียนขึ้นด้วยมือข้างหนึ่งโยนไม้โลหะแทงดาบด้วยมืออีกข้างหนึ่งและแกว่งดาบที่ขานักเรียนคนนั้น
He didn’t use much strength, but the sword was very sharp and had already cut deep into that student’s leg
เขาไม่ได้ใช้ความแรงมาก แต่ดาบคมและเจาะลึกเข้าไปในขานักเรียนแล้ว
 Blood oozed out, and the student huffed and passed out
เลือดหลุดออกไปและนักเรียนก็โกรธและสลายไป
 It was getting colder, but it still could not wake him up within a short period of time
มันหนาวขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถปลุกเขาได้ภายในระยะเวลาสั้น ๆ
All the struggles stopped under the threat of the bloody scene
การต่อสู้ทั้งหมดหยุดลงภายใต้การคุกคามของฉากเลือด
 No one dared to make a move anymore
ไม่มีใครกล้าที่จะย้ายอีกต่อไป
 Everyone had different look on their faces
ทุกคนมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันบนใบหน้าของพวกเขา
 Some students looked desperate, some stared at the bodyguards with anger, and some looked around, looking for people or opportunities
นักเรียนบางคนมองหมดหวังบางคนจ้องที่บอดี้การ์ดด้วยความโกรธและบางคนมองไปรอบ ๆ มองหาคนหรือโอกาส
 Christian bit his lips hard in regret, like a knife stabbing his heart
คริสเตียนบีบริมฝีปากของเขาเสียใจเหมือนมีดแทงหัวใจของเขา
 How could regret help him at this moment? Riska and Blavi trembled slightly
ตอนนี้รู้สึกเสียดายที่ช่วยเขาได้อย่างไร? 
 They were not scared but were trembling with rage
พวกเขาไม่กลัว แต่สั่นด้วยความโกรธ
 To the right, a fellow killed by a fishing spear; in front, a poor guy laying in blood with only one leg left
ทางด้านขวามือเพื่อนที่ถูกสังหารโดยหอกตกปลา 
 All of this deeply enraged them
ทั้งหมดนี้โกรธมากพวกเขา
"F*ck!" A bodyguard wiped the cold sweat off his forehead when he saw it was finally under their control
"F * CK!" 
 What just happened scared him
สิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นทำให้เขากลัว
 He did not understand why they started to wake up one after another
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาเริ่มตื่นขึ้นมา
 If the situation got worse, he would have to run into the crowd with his sword
ถ้าสถานการณ์แย่ลงเขาจะต้องวิ่งเข้าไปในฝูงชนด้วยดาบของเขา
 Even if the rewards would be reduced to half, they had to kill these students
แม้ว่ารางวัลจะลดลงครึ่งหนึ่ง แต่ก็ต้องฆ่านักเรียนเหล่านี้
 It was still better than being killed
มันยังคงดีกว่าการถูกฆ่า
Those three bodyguards did not see the lid of the wine bucket quietly lift up
ทั้งสามบอดี้การ์ดไม่เห็นฝาถังไวน์ค่อยๆยกขึ้น
 Anfey stepped out of the wine bucket without making any noise
Anfey ก้าวออกจากถังไวน์โดยไม่ทำให้เกิดเสียงใด ๆ
 It was not only Christian who was regretting, everyone wished they could go back to the time when Anfey recruited them into the legion
ไม่ใช่แค่คริสเตียนที่เสียใจทุกคนก็อยากให้พวกเขากลับไปถึงช่วงเวลาที่ Anfey คัดเลือกพวกเขาเข้ากองทหาร
 They wished they had agreed with Anfey on the plan and killed these businessmen and their bodyguards!Due to the angle, everyone was able to see Anfey appearing out of nowhere
พวกเขาต้องการให้พวกเขาเห็นด้วยกับ Anfey ในแผนและฆ่าเหล่านักธุรกิจและเจ้าหน้าที่คุ้มกันของพวกเขาเนื่องจากมุมทุกคนสามารถเห็น Anfey ปรากฏออกมาจากที่ใดก็ได้
 Most people instantly showed excitement on their faces
คนส่วนใหญ่แสดงความตื่นเต้นในชีวิตของพวกเขาได้ทันที
 Anfey sighed inside
Anfey ถอนหายใจข้างใน
 What were the odds of being able to train these immature kids into powerful people who could fight on their own? They did not even know how to work together! With so many people looking at him, they were sending a warning to the enemy!"What do you really want?" Christian suddenly yelled out
อะไรคือความแตกต่างของความสามารถในการฝึกอบรมเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเหล่านี้ให้กลายเป็นคนที่มีอำนาจที่สามารถต่อสู้ด้วยตัวเองได้? 
 "Money? I can give you money! A thousand gold coins? Five thousands gold coins? If you set us free, I can give you ten thousand gold coins
เหรียญทองพันเหรียญห้าพันเหรียญทองคำถ้าคุณตั้งเราให้เป็นอิสระฉันจะให้เหรียญทองสิบหมื่นเหรียญ
 Ten thousand!"Those three bodyguards were shocked by Christian and held up their weapons instinctively
หมื่น! "ทั้งสามองครักษ์รู้สึกตกใจกับคริสเตียนและจับอาวุธของพวกเขาขึ้นตามสัญชาตญาณ
 After hearing what Christian said, they relaxed
หลังจากได้ยินสิ่งที่คริสเตียนกล่าวว่าพวกเขาผ่อนคลาย
 Of course, their attention was on Christian, because ten thousand gold coins… Oh my god! These kids were rich!
แน่นอนความสนใจของพวกเขาคือคริสเตียนเพราะหมื่นเหรียญทอง ... โอ้พระเจ้าของฉัน!